ชเนาเซอร์ (Standard Schnauzer) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลสุนัข

Standard Schnauzer
แชร์ได้เลยที่ปุ่มด้านล่าง
ชเนาเซอร์ (Schnauzer) เป็นสายพันธุ์สุนัขจากประเทศเยอรมนี ที่มีเอกลักษณ์ตรงหนวดยาวๆ ที่ปากของมัน ดูไปดูมาเหมือนคนที่ไว้หนวดเคราเยอะๆ มันเป็นสุนัขที่มีข้อดีหลายๆ อย่าง มารู้จักมันให้มากขึ้นในบทความนี้กัน
 

ข้อมูลทั่วไปของชเนาเซอร์

  • ขนาดตัว: ปานกลาง
  • ความสูง: 47 – 50 ซม.  วัดจากหัวไหล่
  • น้ำหนัก: 14 – 20 กิโลกรัม
  • อายุขัย: 13 – 15 ปี
  • ความยาวขน: ค่อนข้างยาว
  • ความฉลาด: ค่อนข้างฉลาด
  • ถิ่นกำเนิด: ประเทศเยอรมนี Germany
  • ปริมาณการผลัดขน: น้อย 
  • การเอาใจใส่ตัวสุนัข: ปานกลาง
  • ลักษณะเฉพาะ: ปากยาว ดวงตากลมโต จมูกสีดำ หูพับ หางตั้ง ขนที่ปากยาวมาก ราวกับว่ามันไว้หนวดเครา

ประวัติของชเนาเซอร์ 

สุนัขสายพันธุ์นี้มีต้นกำเนิดในศตวรรษที่ 15 ที่ประเทศเยอรมนี ผู้คนชาวเยอรมันในยุคสมัยนั้นใช้มันเพื่อปกป้องฟาร์มปศุสัตว์จากผู้บุกรุก จับสัตว์รบกวนตัวเล็ก ช่วยต้อนสัตว์ในฟาร์ม และคอยเฝ้ายามให้กับบ้านผู้เลี้ยง ในตอนแรกสุนัขสายพันธุ์นี้ถูกเรียกว่า Wirehaired Pinschers ในภายหลังได้มีการเปลี่ยนชื่อกลายเป็น Schnauzer 
 
ในช่วงต้น ค.ศ.1800 ได้มีการนำมันไปแสดงในงานแสดงโชว์ต่างๆ จนมันมีชื่อเสียงมากขึ้น จนถึงในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ผู้คนบางส่วนได้นำสุนัขสายพันธุ์นี้ไปผสมข้ามสายพันธุ์กับสุนัขอื่นๆ จนมันกลางออกมาเป็นเจ้า Schnauzer ที่มีขนาดตัวแตกต่างกันออกไป นั่นคือ Miniature Schnauzer ที่มีขนาดตัวที่เล็กจิ๋ว และ Giant Schnauzer ที่มีขนาดตัวที่ใหญ่มาก
 
สุนัขบางส่วนได้ถูกนำตัวไปยังสหรัฐอเมริกาโดยเหล่าผู้อพยพในศตวรรษที่ 20 และได้มีการนำมันเข้ามาที่อเมริกาเรื่อยๆ หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 และแล้วมันก็เริ่มเป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมในอเมริกา จนถึงในปัจจุบันมันก็ยังเป็นที่รู้จักกันอยู่ แต่ไม่นิยมเท่า Miniature Schnauzer ที่มีขนาดตัวที่เล็กกว่า

ลักษณะนิสัยของชเนาเซอร์ 

มันเป็นสุนัขที่มีความเป็นมิตรสูง ชอบเข้าสังคม ชอบอยู่ร่วมกับผู้คน สามารถผูกมิตรกับผู้คนและสุนัขตัวอื่นๆ ได้ดี มีความขี้เล่น ซุกซนเล็กน้อย มันเป็นสุนัขที่มีความฉลาดพอสมควร สามารถนำมาฝึกสอนให้เรียนรู้และจดจำสิ่งต่างๆ ได้ดี นอกจากนี้ มันยังมีความจงรักภักดี ซื่อสัตย์ รักเจ้าของและสมาชิกในครอบครัว มันจะคอยปกป้องเจ้าของของมันให้ปลอดภัยอยู่เสมอ
 
เนื่องจากว่ามันเคยเป็นสุนัขขสำหรับเฝ้ายาม มันจึงมีความตื่นตัว และมีความหวงอาณาเขตอยู่บ้าง มันจะเห่าไล่คนแปลกหน้าที่พยายามจะรุกล้ำเข้ามาในอาณาเขตของมัน มันจึงเป็นสุนัขเฝ้าบ้านที่ดี

สายพันธุ์ย่อยและความหลากหลายของสี

สายพันธุ์ย่อย

  • Miniature Schnauzer: มันมีขนาดตัวที่เล็กมาก เป็นที่นิยมเลี้ยงที่สุดในบรรดาชเนาเซอร์  มีน้ำหนักตัวไม่เกิน 8.5 กก.
  • Standard Schnauzer: คือเจ้าชเนาเซอร์แบบดั้งเดิมในบทความนี้นี่เอง น้ำหนักตัวอยู่ระหว่าง 14-20 กก.
  • Giant Schnauzer: มันมีขนาดตัวที่ใหญ่พอสมควร น้ำหนักตัวประมาณ 35-43 กก.
 

ความหลากหลายของสีสุนัข

สีตา

สุนัขสายพันธุ์แท้ส่วนมากจะมีตาโทนสีน้ำตาล
 

สีขน

มันเป็นสุนัขที่มีสีให้เลือกไม่มากนัก เช่น สีดำ-ขาว, สีเทา-ขาว, สีดำ-เทา, สีขาวล้วน, สีดำล้วน เป็นต้น

ความเป็นมิตรของเจ้าตูบที่มีต่อเด็ก และสัตว์เลี้ยง

มันเป็นสายพันธุ์สุนัขที่มีความเป็นมิตรกับผู้คนสูง รวมถึงเหล่าเด็กๆ ทั้งหลายด้วย สามารถอยู่ร่วมกันกับเด็กๆ ในครอบครัวได้เป็นอย่างดี เนื่องจากว่ามันตัวไม่เล็กและมีความแข็งแรง มันจึงสามารถรับมือกับความแรงการเล่นของเด็กๆ ได้ระดับนึง แถมมันยังคอยปกป้องเด็กๆ ที่มันรักให้ปลอดภัยอยู่เสมอ 
 
มันเป็นสุนัขที่มีความเป็นมิตรกับสุนัข และสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ เช่น แมว อีกด้วย มันสามารถกิน นอน เล่นหยอกล้อ และใช้ชีวิตร่วมกับสัตว์ตัวอื่นที่อยู่ร่วมกันมาตั้งแต่มันยังเป็นลูกสุนัขได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ ถ้าเป็นเด็กๆ สุนัข และสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ที่พึ่งจะเข้ามาในครอบครัว เราต้องให้เวลามันสักนิดในการทำความรู้จักและทำความคุ้นเคยกับสมาชิกใหม่ จึงค่อยนำมันไปอยู่ร่วมกับพวกเขา

การดูแลชเนาเซอร์  

การดูแลด้านการออกกำลังกาย

มันเป็นสุนัขที่ต้องการการออกกำลังกายเป็นครั้งคราว คุณควรจะมีเวลาในการพาเจ้าตูบไปเดินเล่น วิ่งเล่นออกกำลังกาย หรือไม่ก็ให้มันเล่น ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับสมาชิกในครอบครัว เช่น การปาจานร่อนไปให้มันตามไปเก็บ ประมาณ 30-40 นาทีต่อวันก็เพียงพอแล้ว เพื่อช่วยปลดปล่อยพลังงานในตัวสุนัข ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดความเครียดให้สุนัข และเพื่อให้สุนัขมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ ห่างไกลจากปัญหาสุขภาพต่างๆ อยู่เคียงข้างคุณไปได้นานๆ
 

การดูแลเรื่องการเข้าสังคมและการฝึกสอน

ถึงแม้ว่ามันจะนิสัยดี และเป็นมิตรอยู่แล้ว แต่คุณควรฝึกการเข้าสังคมให้มันบ้าง ไม่ควรขังหรือทิ้งมันไว้ในที่แคบๆ ทั้งวันโดยไม่สนใจมันเลยเด็ดขาด เพราะมันอาจจะทำให้สุนัขเครียด เก็บกด และอาจจะมีความก้าวร้าวได้ คุณควรพามันไปทำความรู้จัก และทำกิจกรรมร่วมกับสมาชิกในครอบครัวตั้งแต่ที่มันยังเป็นลูกสุนัข  เพื่อให้มันรู้สึกคุ้นเคยและผูกพันกับคนในครอบครัว รวมถึงให้มันไปพบปะกับผู้คนแปลกหน้า สุนัขตัวอื่น และสัตว์เลี้ยงตัวอื่นตั้งแต่มันยังเป็นลูกสุนัขอยู่เสมอ เพื่อฝึกทักษะในการเข้าสังคมให้เจ้าตูบ มีส่วนช่วยให้มันสามารถเปิดใจรับเพื่อนใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้นในตอนโตเต็มวัย  และสามารถใช้ชีวิตร่วมกับเด็กๆ และสัตว์ตัวอื่นได้ดีขึ้นในอนาคต ส่วนเรื่องการฝึกสอนนั้นก็ควรฝึกสอนสิ่งต่างๆ ให้เจ้าตูบตั้งแต่มันยังเป็นลูกสุนัข มันเป็นสุนัขที่ฉลาดอยู่แล้ว การฝึกสอนน่าจะเป็นไปได้อย่างราบรื่น
 

เรื่องการดูแลขนและความสะอาด

มันเป็นสุนัขที่มีขนค่อนข้างยาว จึงต้องมีการดูแลเรื่องขนให้มันบ้าง คุณควรใช้แปรงมาหวีขนให้มัน สักสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็เพียงพอแล้ว เพื่อให้ขนของมันไม่พันกระจุกกันเป็นก้อน เพื่อเอาสิ่งสกปรกในขนมันออกมา และเพื่อหวีเอาขนตายที่อยู่ในตัวมันออกมาให้หมด หมั่นทำความสะอาดรอบดวงตาของมันโดยการนำสำลีชุบกับน้ำสะอาดหรือน้ำตาเช็ดตาสำหรับสุนัข แล้วก็นำไปเช็ดรอบๆ ดวงตาสุนัขด้วยความเบามือ รวมถึงมีการอาบน้ำ ตัดเล็บ ตัดขน ทำความสะอาดใบหูให้มันบ้าง ความถี่นั้นก็ขึ้นอยู่กับความสกปรกมอมแมมของตัวสุนัข
 

การดูแลเรื่องสุขภาพโดยรวม

อย่างที่รู้กันดีว่าอากาศบ้านเราในหน้าร้อนมันร้อนแรงแผดเผาขนาดไหน เราจึงไม่ควรมองข้ามเรื่องฮีทสโตรกในสุนัขเด็ดขาด วิธีป้องกันเบื้องต้น คือ เราควรให้สุนัขอยู่ในที่ที่อากาศไม่ร้อนจนเกินไป มีอากาศถ่ายเท ไม่อบอ้าว ไม่มีแดดส่องลงมาตรงๆ พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้สุนัขใช้พลังงานเยอะเกินไปในช่วงกลางวัน มีน้ำดื่มให้มันมากพอ และเลือกเวลาในการพาสุนัขไปทำกิจกรรมนอกบ้านให้ดี ให้เลือกช่วงเช้าหรือช่วงเย็นแทนตอนกลางวัน 
คอยควบคุมรูปร่าง และน้ำหนักตัวของสุนัขให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานอยู่เสมอ เพื่อช่วยลดโอกาสการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน (Diabetes in dogs) ด้วยการพาเจ้าตูบไปวิ่งเล่นและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อีกส่วนนึงคือการควบคุม เอาใจใส่คุณภาพและปริมาณอาหารของสุนัขให้ดี เลือกประเภทอาหารที่เหมาะสมกับตัวสุนัข จะเป็นการทานแบบบาร์ฟ (Barf) อาหารปกติทั่วไป หรือจะเป็นอาหารสำหรับสุนัขโดยเฉพาะก็แล้วแต่ความสะดวกและความเหมาะสม ถ้าเป็นอาหารทั่วไปก็ควรเป็นอาหารที่ดี มีประโยชน์ เช่น เนื้อไก่ ปลาทู ตับ ข้าว มาคลุกเข้าด้วยกัน โดยไม่ใส่เกลือหรือเครื่องปรุงใดๆ เพิ่มเข้าไป สามารถให้ผักและผลไม้ชนิดที่สุนัขทานได้ในปริมาณที่พอเหมาะ ถ้าเป็นอาหารสำหรับสุนัขก็สามารถเลือกสูตรที่เหมาะสมกับสุนัขของคุณได้เลย เช่น สูตรสุนัขขนาดกลาง เป็นต้น ขนมที่เราทานกันควรให้มันทานแต่น้อย หรือเปลี่ยนเป็นขนมสำหรับสุนัขโดยเฉพาะจะดีกว่า มันจะมีแบบที่ช่วยทำความสะอาดฟันให้สุนัขด้วย ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพช่องปากของมัน
 
standard schnauzer

โรคภัยต่างๆ ที่อาจพบใน Standard Schnauzer

  • ภาวะไทรอยด์ต่ำผิดปกติ (Hypothyroidism): เกิดจากการที่สุนัขมีระดับฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำกว่าระดับทั่วไปซึ่งถือว่าเป็นความผิดปกติของร่างกาย
  • โรคข้อสะโพกเสื่อม (Hip dysplasia): เป็นปัญหากระดูกที่มักจะพบในสุนัขขนาดกลางถึงใหญ่ แต่ว่าเราสามารถช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคนี้ในตัวสุนัขได้ โดยการควบคุมน้ำหนักตัวของมันให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของสายพันธุ์ ด้วยการเอาใจใส่เรื่องโภชนาการของสุนัขให้อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะกับขนาดตัว และหมั่นพามันไปออกกำลังกาย ทำกิจกรรมต่างๆ ที่ใช้พลังงานพอสมควร และถ้าเป็นไปได้ ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้สุนัขเดินบนพื้นที่มีคว่มมันวาวและลื่น เช่น พื้นกระเบื้องและพื้นหินอ่อน เพราะสุนัขอาจจะลื่นล้มจนเป็นต้นตอของโรคนี้
  • ต้อกระจก (Cataract): เป็นปัญหาเกี่ยวกับดวงตาที่มักจะพบในสุนัขที่เริ่มมีอายุแล้ว ซึ่งสามารถเกิดจากกรรมพันธุ์หรือการได้รับอาการบาดเจ็บที่ดวงตา
 

นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่จะเจอโรคภัยอื่นๆ อีก เช่น

  • จอประสาทตาเสื่อม (Progressive Retinal Atrophy)
  • โรคข้อศอกเสื่อม (Elbow Dysplasia)
  • โรคหัดสุนัข (Canine Distemper)
  • โรคอ้วน (Obesity)
  • โรคเบาหวาน (Diabetes)
  • ไตวาย (Kidney Failure)
  • โรคพิษสุนัขบ้า (Riabies)
  • โรคหลอดลมอักเสบ (Bronchitis)
  • โรคผิวหนังอักเสบเป็นหนองในสุนัข (Pyoderma)
  • กลากเกลื้อน (Ringworm)
  • กระจกตาเสื่อม (Corneal Degeneration/ Dystrophy): วิธีสังเกตก็คือ มันจะมีจุดเล็กๆ สีขาว ในกระจกตา พบได้บ่อยในสุนัขวัยชรา

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับเจ้า Standard Schnauzer

  • ต้องการการดูแลเรื่องขนบ้าง
  • ใจดี ไม่ก้าวร้าว
  • เป็นสุนัขที่รักเจ้าของและผู้คนในครอบครัว
  • มีความเป็นมิตรกับผู้คนสูง
 

Standard Schnauzer เหมาะกับผู้ที่

  • มีสัตว์เลี้ยงตัวอื่นภายในบ้าน
  • ไม่ชอบสุนัขดุ
  • ชอบสุนัขที่ไม่ซุกซนเกินเหตุ
  • ชอบสุนัขขนาดกลาง
  • มีเด็กๆ ภายในบ้าน
  • มีเวลาพามันไปวิ่งเล่นออกกำลังกาย อยู่ร่วมกัน ทำกิจกรรมร่วมกันบ้าง

คำถามที่พบบ่อย

  • เลี้ยงในหอพักได้ไหม: พอเลี้ยงได้อยู่ 
  • ดุไหม: ไม่ค่อยดุ
  • เลี้ยงกับแมวได้ไหม: เลี้ยงกับแมวได้ดี
  • เลี้ยงกับเด็กได้ไหม: เลี้ยงกับเด็กได้ดี
  • เฝ้าบ้านได้ไหม: สามารถเห่าเฝ้าบ้านได้
  • เหมาะกับผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ไหม: เหมาะกับผู้ที่เป็นภูมิแพ้เพียงเล็กน้อย

เรื่องเจ้าตูบที่คุณอาจจะชอบ

 Banner Image