หนูตะเภาซิลกี้ (Silkie Guinea Pig) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแล

Silkie Guinea Pig
แชร์ได้เลยที่ปุ่มด้านล่าง

หนูตะเภาซิลกี้ (Silkie Guinea Pig)  มันเป็นสายพันธุ์หนูตะเภาจากประเทศอังกฤษที่มีขนยาวนุ่มสลวยที่ดูสวยสง่า มาพร้อมกับหน้าตาที่น่ารักน่ากอด มาทำความรู้จักน้องให้มากกว่าเดิมในบทความนี้กัน

ข้อมูลทั่วไปของหนูตะเภาซิลกี้

  • น้ำหนัก: 0.7 – 1.2 กก.
  • อายุขัย: 5 – 7 ปี
  • ความยาวขน: ยาว
  • ถิ่นกำเนิด: ประเทศอังกฤษ 🇬🇧
  • ลักษณะเฉพาะ: ร่างกายจะเป็นทรงหยดน้ำเมื่อมองจากด้านบน ขนตรงยาวสลวย ขนบริเวณหัวจะเรียบโน้มไปทางด้านหลัง

ประวัติของหนูตะเภาซิลกี้

หนูตะเภาซิลกี้ หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่าเชลตี้ (Sheltie) มันมีต้นกำเนิดที่ประเทศอังกฤษ ในช่วงปี ค.ศ. 1970 ได้มีการนำหนูตะเภาพันธุ์ Peruvian มาผสมข้ามสายพันธุ์กับหนูตะเภาตัวหนึ่งที่มีขนสีดำสนิททั้งตัว ลูกหนูตะเภาที่ได้ออกมาจะเป็นหนูที่มีขนยาวเรียบสวยงามตลอดทั้งตัว ซึ่งนั่นก็คือหนูตะเภาสายพันธุ์ซิลกี้ในบทความนี้นี่เอง คงจะเป็นเพราะความสวยสง่าของเจ้าซิลกี้ ความนิยมของมันได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนน้องได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากองค์กร American Cavy Breeders Association และได้มีการส่งตัวมันไปยังประเทศอื่นๆ ในยุโรป จนมันกลายเป็นหนึ่งในสายพันธุ์หนูตะเภาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน

ลักษณะนิสัยของหนูตะเภาซิลกี้

น้องเป็นหนูตะเภาที่มีความสุขุมและเงียบสงบ น้องอาจจะไม่กระตือรือร้นเท่ากับหนูตะเภาหลายๆ สายพันธุ์ น้องยังเป็นหนูตะเภาที่ค่อนข้างขี้อาย จึงทำให้ผู้เลี้ยงต้องใช้เวลามากกว่าปกติในการทำให้น้องคุ้นเคยด้วย แต่ถ้าน้องคุ้นเคยกับคนคนนั้นแล้ว จะพบว่าน้องจะมีความอ่อนหวาน อ่อนโยน และเป็นมิตรมาก เป็นเพื่อนคลายเหงาที่ดีให้กับคนในบ้านและหนูตะเภาตัวอื่น เพราะเหตุนี้ น้องจึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสัตว์เลี้ยงในบ้านที่ยอดเยี่ยม

ความหลากหลายของสีหนูตะเภา

สีขน

หนูแกสบี้สายพันธุ์นี้มีสีขนให้เลือกหลากหลายแบบ เช่น สีดำ, ขาว, เทา, ส้ม, ครีม, ช็อคโกแลต, น้ำตาล, น้ำตาลแดง และอื่นๆ หนูบางตัวจะมีขนสีเดียวกันทั้งตัว บางตัวจะมีถึง 2-3 สีในตัว

การดูแลหนูตะเภาซิลกี้

การดูแลด้านอาหารการกิน

อาหารหลักของหนูตะเภาซิลกี้ควรเป็นหญ้าแห้งชนิดต่างๆ แล้วแต่ความเหมาะสมกับช่วงวัยและสภาพของหนูแต่ละตัว สัดส่วนของหญ้าแห้งควรจะอยู่ที่ 80 – 90% ของปริมาณอาหารทั้งหมด ส่วนอาหารเม็ดเราควรให้น้องทานในสัดส่วนที่น้อยเพื่อเสริมสารอาหารให้น้องเท่านั้น และเราควรเสริมอาหารสดชนิดต่างๆ ให้น้องบ้างเป็นครั้งคราว เพื่อเสริมสารอาหารให้มันบ้างและทำให้น้องไม่เบื่ออาหารมากจนเกินไป สามารถให้ผักผลไม้ชนิดต่างๆ ราวๆ 10% ของปริมาณอาหารทั้งหมด ควรเน้นผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามิน C เช่น ผักโขม, บรอกโคลี, ผักชีฝรั่ง, แครอท, หน่อไม้ฝรั่ง, แอปเปิ้ล (เอาเมล็ดออกแล้ว), แคนตาลูป, เบอร์รี่, กีวี, และอื่นๆ ทั้งนี้ ควรให้ผักมากกว่าผลไม้ เพราะว่าผลไม้บางชนิดมีปริมาณน้ำตาลที่สูง และถ้าหากน้องทานอาหารสดไม่หมดภายใน 24 ชั่วโมงก็ควรนำออกมาเปลี่ยนได้แล้ว ไม่ควรให้น้องทานอาหารที่ค้างคืนที่อาจจะเสียแล้ว แต่ทั้งนี้ มีผักผลไม้บางชนิดที่หนูตะเภาทานไม่ได้ ผู้เลี้ยงจึงต้องศึกษาเรื่องนี้ไว้เพื่อความปลอดภัยของตัวสัตว์เลี้ยงเอง

การดูแลขนและความสะอาด

น้องเป็นหนูแกสบี้ที่มีขนยาว จึงต้องมีการดูแลขนให้น้อง ผู้เลี้ยงควรนำแปรงมาหวีขนให้น้องอย่างเบามือบ้าง ประมาณสัปดาห์ละ 2- 3 ครั้ง เพื่อให้ขนของน้องไม่พันกันเป็นก้อน และเพื่อช่วยกำจัดขนตาย รวมถึงสิ่งสกปรกที่ติดค้างอยู่ในตัวน้องออกมาให้หมด ไม่ควรมองข้ามเรื่องการแปรงขน เพราะว่าการแปรงขนสามารถลดโอกาสที่น้องจะเลียขนทำความสะอาดตัวเองจนขนตายเหล่านี้เข้าไปอุดตันที่ทางเดินอาหาร และอาจจะมีการเล็มขนให้น้องบ้างตามความเหมาะสม
 
ถึงแม้ว่าน้องจะสามารถทำความสะอาดตัวเองได้อยู่แล้ว แต่ถ้าหากน้องสกปรกมากจริงๆ เราก็ควรช่วยน้องทำความสะอาดตัวบ้าง ด้วยการนำผ้าขนหนูสะอาดมาชุบน้ำหมาดๆ แล้วนำมาเช็ดตัวให้น้องอย่างเบามือ รวมถึงมีการตัดเล็บให้น้องบ้าง สักเดือนละครั้งก็ยังดี เพราะถ้าเราไม่ตัดเล็บให้น้อง น้องอาจจะมีปัญหาในการเดินเพราะเล็บที่ยาวเกินไปได้
 

การดูแลเรื่องที่อยู่อาศัย

เราแนะนำว่ากรงที่จะให้หนูตะเภาอยู่ควรมีความยาวประมาณ 100 ซม. หรือมากกว่านี้ยิ่งดี ยิ่งกรงใหญ่ยิ่งส่งผลดีต่อตัวน้องเอง ผู้เลี้ยงจึงควรเลือกกรงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่พื้นที่ในบ้านจะรองรับได้ ที่ตั้งของกรงของน้องนั้นต้องมีอากาศถ่ายเท ไม่มีแดดแรงส่อง ไม่ร้อน ไม่อบอ้าว และไม่อับชื้น ผู้เลี้ยงต้องคอยดูแลรักษากรงให้สะอาดอยู่เสมอ เราควรมีที่แอบให้น้องอยู่อาศัย เช่น บ้านไม้ หรืออุโมงค์ เพื่อให้น้องรู้สึกปลอดภัย เราแนะนำให้ใช้ขวดน้ำสำหรับหนูแทนจานน้ำแบบปกติ มันจะช่วยป้องกันไม่ให้เจ้าหนูทำน้ำหกเลอะเทอะไปทั่วกรง
 

การออกกำลังกาย

สัตว์เลี้ยงตัวเล็กๆ อย่างเจ้าหนูแกสบี้ก็ต้องการการออกกำลังกายเหมือนกัน ถ้าหากว่าเจ้าหนูไม่ได้รับการออกกำลังกายมากพอ มันอาจจะทำให้หนูแกสบี้น้ำหนักเกิน เครียด และอาจจะมีปัญหาสุขภาพบางอย่างตามมาในภายหลัง เช่น โรคเบาหวาน ดังนั้น เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงของน้อง คุณจึงควรมีกรงขนาดใหญ่มากพอที่จะให้น้องวิ่งเล่นไปมา และอาจจะเอาน้องออกมาเล่นในพื้นที่ปลอดภัยข้างนอกกรงบ้างก็ได้ และอย่าลืมที่จะนำของแทะเข้าไปวางไว้ในกรง เช่น ไม้แทะจากธรรมชาติชนิดต่างๆ ลูกวอลนัท ของเล่นที่ทำจากไม้ และอื่นๆ เพื่อให้น้องแทะเล่นในกรง ซึ่งของแทะเหล่านี้สามารถลดโอกาสที่ฟันของน้องจะเติบโตมากเกินไปจนฟันยาวผิดปกติ ซึ่งจะเป็นปัญหาสุขภาพในภายหลัง

การฝึกสอน

การที่หนูตะเภาพยายามหลบหน้าคุณตั้งแต่แรกพบนั้นเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากว่าน้องยังไม่คุ้นเคยกับคุณและสภาพแวดล้อมรอบตัว ผู้เลี้ยงจึงต้องให้น้องทำความคุ้นเคยกับที่อยู่ใหม่ของมันสักพักหนึ่งก่อน แล้วจึงค่อยทำให้น้องคุ้นเคยกับคุณและคนในบ้าน เคล็ดลับง่ายๆ คือ ให้เรานำอาหารวางไว้บนฝ่ามือ แล้วค่อยๆ นำไปให้น้องกิน เพื่อให้น้องเป็นฝ่ายเข้าหาคุณและผูกพันกับคุณ
 

ปัญหาสุขภาพที่อาจพบใน Silkie Guinea Pig

  • โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ (Respiratory diseases): ปัญหาเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ถ้าไม่ได้รับการรักษาให้ทันท่วงที มันอาจจะนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพอื่นๆ เช่น ปวดบวม ปัจจัยที่ทำให้เจ้าหนูมีโอกาสเป็นโรคนี้มากขึ้น คือความแออัดของที่ที่มันอยู่อาศัย ความเครียด อากาศไม่ถ่ายเท อุณหภูมิหนาวเย็นเกินไป และความอับชื้นสูง  อาการที่สามารถสังเกตได้คือ หนูจะมีน้ำตาและน้ำมูกไหล เบื่ออาหาร หายใจติดขัด เซื่องซึม และต่อมน้ำเหลืองโต
  • ฟันยาวผิดปกติ (Overgrown Teeth): ฟันของหนูตะเภาซิลกี้นั้นจะเติบโตขึ้นตลอด ถ้าหากว่ามันไม่ได้ใช้ฟันกัดแทะสิ่งต่างๆ มากพอ มันอาจจะส่งผลให้ฟันของมันยาวกว่าปกติจนเป็นปัญหาสุขภาพ เราจึงควรมีไม้แทะชนิดต่างๆ ให้น้องแทะเล่นในกรง
  • กลาก (Ringworm): เกิดจากการที่เจ้าหนูตะเภาติดเชื้อรา อาการที่สามารถสังเกตได้ คือ หนูจะขนร่วงบางส่วน และมีสะเก็ดสีขาวแดงที่บริเวณนั้น ซึ่งกลากสามารถแพร่เชื้อไปยังหนูตัวอื่นและมนุษย์ได้ จึงอย่าลืมที่จะแยกหนูตัวอื่นออกจากหนูที่เป็นกลากก่อน และคุณควรสวมถุงมือเวลาจับหนูที่เป็นกลาก
  • โรคขาดวิตามิน C (Vitamin C deficiency): สาเหตุเกิดจากการที่หนูขาดวิตามินซี เนื่องจากว่าน้องไม่สามารถผลิตวิตามิน C จากร่างกายตัวเองได้เหมือนสัตว์หลายๆ ชนิด และถ้าหากน้องได้รับวิตามินซีจากอาหารไม่เพียงพอ มันอาจจะทำให้เกิดอาการเลือดออกตามไรฟัน ผิวหนังและขนหยาบกร้าน อาหารไม่ย่อย และข้อบวม น้องต้องการปริมาณวิตามินซีราวๆ 10 – 50 มิลลิกรัมต่อวัน จึงนั้นจึงควรเสริมอาหารเม็ดและอาหารสดที่มีวิตามิน C ให้น้อง หรือจะให้อาหารเสริมวิตามิน C สำหรับหนูตะเภาโดยเฉพาะก็ได้
  • ท้องเสีย (Diarrhea): ท้องเสียสามารถเกิดจากหลายๆ ปัจจัย เช่น ความเครียด สุขอนามัยที่ไม่ดี ติดเชื้อแบคทีเรีย และอื่นๆ สาเหตุอีกส่วนหนึ่งมาจากความไม่สมดุลของอาหาร เช่น คาร์โบไฮเดรตมากไป ไฟเบอร์ไม่เพียงพอ ปริมาณผลไม้มากไป และอื่นๆ จึงควรใส่ใจเรื่องการจัดความสมดุลของอาหารให้เหมาะกับน้อง เพื่อลดโอกาสที่น้องจะท้องเสีย

ผู้เลี้ยงจึงต้องคอยดูแลเรื่องอาหารการกิน ความสะอาด การออกกำลังกาย และสภาพความเป็นอยู่ของน้อง เพื่อลดโอกาสที่น้องจะมีปัญหาสุขภาพบางอย่าง รวมถึงคอยสังเกตและไม่ละเลยอาการผิดปกติต่างๆ ที่แสดงออกมา เพื่อที่จะรักษาปัญหาสุขภาพที่น้องมีตั้งแต่เนิ่นๆ

Silkie Guinea Pig เหมาะกับผู้ที่

  • มีหนูตะเภาตัวอื่นมาอยู่เป็นเพื่อนน้อง
  • ชอบหนูตะเภาขนยาว
  • มาเวลามาดูแล และอยู่ร่วมกับสัตว์เลี้ยงบ้าง
  • มีความเบามือ ไม่รุนแรงกับสัตว์เลี้ยง
  • มีความใจเย็นมากพอที่จะให้น้องค่อยๆ ทำความคุ้นเคยด้วย

คำถามที่พบบ่อย

  • น้องชอบให้อุ้ม และลูบจับไหม: แล้วแต่นิสัยของหนูแกสบี้แต่ละตัว บางตัวชอบให้จับ แต่บางตัวอาจจะขี้อายและไม่ค่อยชอบให้จับตัวมันมากนัก
  • น้องแตกต่างกับหนูตะเภาพันธุ์เปรูยังไง: ขนบนหัวหนูตะเภาพันธุ์ Silkie จะโน้มไปด้านหลังซึ่งทำให้ดูเรียบร้อย แต่ขนบนหัวของ Peruvian จะมีความโน้มมาด้านหน้า
  • ต้องดูแลเยอะไหม: มีหลายปัจจัยที่ต้องคอยควบคุมดูแลอยู่เสมอ โดยเฉพาะเรื่องขนของน้อง

Featured Image Source: Commons Wikimedia

เรื่องเพื่อนตัวจิ๋วที่คุณอาจจะชอบ

 Banner Image