เชทแลนด์ ชีพด็อก (Shetland Sheepdog) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลสุนัข

เชทแลนด์ ชีพด็อก
แชร์ได้เลยที่ปุ่มด้านล่าง

เชทแลนด์ ชีพด็อก (Shetland Sheepdog) เป็นสายพันธุ์สุนัขจากประเทศสกอตแลนด์ที่มีขนปุกปุย ตัวเล็กปุ๊กปิ๊ก พกง่าย ที่มาพร้อมกับนิสัยดีๆ หลายอย่างในตัวมัน จึงไม่น่าแปลกใจที่มันเป็นสุนัขสำหรับครอบครัวที่ครองใจหลายๆ คน มาทำความรู้จักกับเจ้าเชลตี้ให้มากขึ้นในบทความนี้กัน

ข้อมูลทั่วไปของเชทแลนด์ ชีพด็อก  

  • ขนาดตัว: ค่อนข้างเล็ก
  • ความสูง: 34 – 41 ซม. วัดจากไหล่
  • น้ำหนัก: 6.4 -12 กก.
  • อายุขัย: 12 – 14 ปี
  • ความยาวขน: ยาว
  • ความฉลาด: ฉลาดมาก
  • ถิ่นกำเนิด: ประเทศสกอตแลนด์ 🏴󠁧󠁢󠁳󠁣󠁴󠁿 
  • การเอาใจใส่ตัวสุนัข: ปานกลาง
  • ปริมาณการผลัดขน: ปานกลาง
  • ลักษณะเฉพาะ: ปากเล็กและค่อนข้างยาว หูมีแบบตั้งและกึ่งพับ ขนยาวฟูฟ่อง หางตก ลักษณะเหมือนสุนัขพันธุ์ Collie แต่มีขนาดเล็กกว่า

ประวัติของเชทแลนด์ ชีพด็อก 

เจ้า Shetland Sheepdog หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า เชลตี้ (Sheltie) มีต้นกำเนิดที่เกาะเชทแลนด์ (Shetland) ซึ่งเป็นเกาะที่เต็มไปด้วยโขดหิน ที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศสกอตแลนด์ ต้นตอของบรรพบุรุษของเจ้าเชทตี้นั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัดนัก แค่คาดกันว่าเจ้าเชทตี้นั้นเป็นสุนัขที่เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างสุนัขท้องถิ่นบนเกาะแห่งนี้ กับสุนัขสายพันธุ์คอลลี่ (Collie) และสุนัขสายพันธุ์อื่นๆ ที่มาจากนอกเกาะ ในสมัยก่อน ผู้คนในเกาะนั้นนิยมใช้เจ้าเชทตี้ในการต้อนฝูงปศุสัตว์ชนิดต่างๆ เช่น แกะ ม้า และสัตว์ปีกชนิดอื่นๆ เพราะว่ามันมีความสามารถในการต้อนสัตว์ที่ดี แถมยังต้องการอาหารน้อย เนื่องจากว่ามันตัวเล็ก ไม่จำเป็นต้องกินอาหารเยอะ จึงประหยัดทรัพยากรของคนบนเกาะได้มากกว่า สุนัขสายพันธุ์นี้เป็นที่รู้จักกันแค่ในเกาะเชทแลนด์มาเป็นเวลานานหลายร้อยปี จนในที่สุด ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ได้มีการส่งตัวสุนัขสายพันธุ์นี้ไปที่ประเทศต่างๆ และได้มีการตั้งชมรมเพาะพันธุ์ในประเทศสกอตแลนด์ อังกฤษเช่นเดียวกัน
 
ทางสโมสร American kennel Club ได้จดทะเบียนสุนัขสายพันธุ์นี้อย่างเป็นทางการในปี ค.ศ.1911 หลังจากนี้ไม่กี่สิบปี จู่ๆ สุนัขสายพันธุ์นี้ก็เป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมเลี้ยงอย่างรวดเร็วในอเมริกา ในปัจจุบัน สุนัขสายพันธุ์นี้ก็ยังคงเป็นสุนัขที่ครองใจผู้คนในหลายๆ ประเทศอยู่ แต่กลับกัน ในเกาะ Shetland ซึ่งเป็นบ้านเกิดของมัน กลับมีสุนัขสายพันธุ์นี้หลงเหลืออยู่ไม่มากนัก

ลักษณะนิสัยของเชทแลนด์ ชีพด็อก 

เจ้า Sheltie เป็นสุนัขที่มีความเป็นมิตรเป็นอย่างมาก ไม่ก้าวร้าว อ่อนโยน ใจดี มันสามารถผูกมิตรกับผู้คนและสัตว์เลี้ยงรอบข้างได้อย่างรวดเร็ว มันยังมีความกระตือรือร้น ตื่นตัว แอคทีพ ขี้เล่น ซุกซน พลังงานสูงมาก ต้องการและชื่นชอบการวิ่งเล่นและทำกิจกรรมต่างๆ ที่ใช้พลังงานสูง ไม่ชอบอยู่เฉยๆ ในบริเวณจำกัดทั้งวันโดยไม่ได้รับความใส่ใจจากเจ้าของเลย นอกจากนี้มันยังเป็นสุนัขที่มีความรักเจ้าของและผู้คนในครอบครัว ชอบอยู่ท่ามกลางความสนใจจากผู้คนที่มันรัก และใช้เวลาไปกับการทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับพวกเขา ด้วยเหตุผลหลากหลายประการข้างต้น สุนัขสายพันธุ์นี้จึงไม่ค่อยเหมาะกับผู้ที่ตารางเวลาแน่นจนไม่สามารถแบ่งเวลามาอยู่ร่วมกับมันและพามันออกไปวิ่งเล่นเลย
 
มันเป็นสุนัขที่ชื่นชอบการเห่า ในบางครั้งมันอาจจะเห่าพร่ำเพรื่อไปบ้าง ซึ่งบางคนอาจจะไม่มีปัญหากับนิสัยชอบเห่าของมัน แต่มันจะไม่เหมาะกับคนที่ต้องการที่จะอยู่แบบสงบๆ
 
มันเป็น 1 ใน 10 สุนัขที่ฉลาดมากที่สุดในโลก มันจะเรียนรู้และจดจำสิ่งต่างๆ รอบตัวได้รวดเร็วมาก สามารถจดจำคำพูดของคนได้มากมายในบางครั้งอาจจะใช้ความฉลาดของมันทำสิ่งต่างๆ ที่คุณคาดไม่ถึงได้ มันเหมาะอย่างยิ่งในการนำมันมาฝึกให้ปฏิบัติตามคำสั่งต่างๆ 

ความหลากหลายของสีสุนัข

สีตา

สุนัขสายพันธุ์แท้ส่วนมากจะมีตาโทนสีดำและโทนสีน้ำตาล แต่ถ้าเป็นเจ้า Sheltie ที่มีลายจุดๆ เหมือนลายหินอ่อน (Merle) อาจจะมีตาสีฟ้า หรือ ตาข้างละสี เช่น ข้างนึงสีฟ้า ข้างนึงสีน้ำตาล ก็ได้

สีขน

มันเป็นสุนัขที่มีหลากหลายสีให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นสีขาว-น้ำตาล, สีขาว-ดำ, 3 สี สีขาว-ดำ-น้ำตาล, สีขาว-น้ำตาลส้ม และอื่นๆ สัดส่วนของสีและลวดลายในสุนัขแต่ละตัวก็จะแตกต่างกันออกไป ในสุนัขบางตัวอาจจะมีลายหินอ่อน (Merle) ตามใบหน้าและลำตัวอยู่ด้วย

ความเป็นมิตรของเจ้าตูบที่มีต่อเด็ก และสัตว์เลี้ยง

มันเป็นสุนัขที่มีความเป็นมิตรต่อเด็กๆ และผู้คนในครอบครัวเป็นอย่างมาก มันจึงสามารถอยู่ร่วมกันกับเด็กๆ และคนในบ้านได้เป็นอย่างดี และด้วยความซุกซน ขี้เล่น กระตือรือร้น พลังงานสูง มันเหมาะอย่างมากกับเด็กๆ ที่มีความแอคทีพเหมือนกัน สามารถวิ่งเล่นด้วยกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แต่การเล่นก็ควรต้องมีขอบเขต ผู้ปกครองควรกำชับเด็กๆ ให้ไม่เล่นหนักมือกับสุนัขมากเกินไป รวมถึงคอยดูแลเด็กๆ เวลาเล่นกับสุนัขด้วยจะดีมาก
 
มันสามารถเข้ากันกับสุนัขตัวอื่นและสัตว์เลี้ยงชนิดอื่น เช่น แมว ได้ดีมากเช่นกัน มันสามารถเป็นเพื่อนรู้ใจของสุนัขตัวอื่นและสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าเป็นเด็กคนใหม่หรือสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ เราก็ต้องให้เวลามันสักนิดเพื่อให้มันทำความรู้จักและทำความคุ้นชินกับผู้ที่เข้ามาใหม่ แล้วค่อยนำเจ้าตูบไปใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับสมาชิกใหม่
เชทแลนด์ ชีพด็อก

การดูแลเชทแลนด์ ชีพด็อก  

การดูแลด้านการออกกำลังกาย

มันเป็นสุนัขถึงแม้จะตัวเล็ก แต่มีพลังงานเยอะ ขี้เล่น ซุกซน ต้องการการออกกำลังกายเป็นประจำ คุณควรจะจัดตารางเวลาในการพาเจ้าตูบไปเดินเล่น วิ่งเล่นเป็นประจำ หรือไม่ก็ให้มันเล่น ทำกิจกรรมต่างๆ ที่ออกแรงร่วมกับสมาชิกในครอบครัว สัก 40-50 นาทีต่อวันหรือมากกว่านั้นก็ได้ เพื่อช่วยปลดปล่อยพลังงานที่มากมายในตัวสุนัข ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดความเครียดให้สุนัข และเพื่อให้สุนัขมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ ห่างไกลจากปัญหาสุขภาพต่างๆ อยู่เป็นเพื่อนคู่ใจในครอบครัวของคุณไปนานๆ
 

การดูแลเรื่องการเข้าสังคมและการฝึกสอน

ถึงแม้ว่ามันจะมีความเป็นมิตรมากอยู่แล้ว แต่เราควรฝึกการเข้าสังคมให้มันบ้าง ไม่ควรกักบริเวณมันไว้ในที่แคบๆ ทั้งวันโดยไม่สนใจมันเลยทั้งวัน เพราะมันอาจจะทำให้สุนัขเครียด เก็บกด และอาจจะมีพฤติกรรมกัดแทะข้าวของภายในบ้านได้ คุณควรพามันไปทำความรู้จัก และทำกิจกรรมกับคนในครอบครัวตั้งแต่ที่มันยังเป็นลูกสุนัข เลี้ยงดูมันด้วยความรัก เพื่อให้มันรู้สึกคุ้นเคยและรักผู้คนในครอบครัว รวมถึงให้มันไปพบปะกับผู้คนแปลกหน้า สุนัขตัวอื่น และสัตว์เลี้ยงตัวอื่นตั้งแต่มันยังเป็นลูกสุนัขอยู่เสมอ เพื่อฝึกทักษะในการเข้าสังคมกับผู้อื่น มีส่วนช่วยให้มันสามารถเปิดใจรับเพื่อนใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้นในตอนโตเต็มวัย ให้มันไม่กลัวที่จะเข้าหาคนแปลกหน้า และสามารถใช้ชีวิตร่วมกับสัตว์ตัวอื่นได้ดีขึ้นในตอนโต ส่วนเรื่องการฝึกสอนนั้น เราควรฝึกสอนสิ่งต่างๆ ตั้งแต่มันยังเป็นลูกสุนัข เพราะว่ามันจะสอนง่ายกว่าตอนมันโตเต็มวัยแล้ว รับรองว่าความฉลาดเป็นกรดของมันจะทำให้การสอนนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ยากเย็นนัก
 

เรื่องการดูแลขนและความสะอาด

มันเป็นสุนัขมีขนยาว หนา และเป็นขนแบบสองชั้น การดูแลขนจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ คุณควรใช้แปรงมาหวีขนให้มันเพื่อให้ขนของมันเพื่อให้ขนของมันไม่พันกันเป็นก้อน เพื่อเอาสิ่งสกปรกในขนมันออกมา และเพื่อเอาขนตายที่อยู่ในตัวมันออกมา สักสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ก็เพียงพอแล้ว ช่วงที่มันผลัดขนก็ควรแปรงขนมันให้บ่อยขึ้นกว่าเดิม หมั่นทำความสะอาดรอบดวงตาของมันโดยการนำสำลีชุบกับน้ำสะอาดหรือน้ำตาเช็ดตาสำหรับสุนัขหมาดๆ แล้วก็นำไปเช็ดรอบๆ ดวงตาสุนัขอย่างเบามือ รวมถึงมีการอาบน้ำ ตัดเล็บ ตัดขน ทำความสะอาดใบหูให้มันบ้าง ความบ่อยนั้นก็ขึ้นอยู่กับความสกปรกของตัวสุนัข หากสุนัขชอบไปเล่นผจญภัยจนเนื้อตัวเลอะเทอะไปหมดก็ควรอาบน้ำให้มันบ่อยกว่าปกติ
 

การดูแลเรื่องสุขภาพโดยรวม

อย่างที่รู้กันดีว่าอากาศบ้านเราในหน้าร้อนมันร้อนแผดเผาขนาดไหน  เราไม่ควรมองข้ามเรื่องฮีทสโตรกในสุนัข วิธีป้องกันเบื้องต้น คือ เราควรให้สุนัขอยู่ในที่ที่อากาศไม่ร้อนจนเกินไป มีอากาศถ่ายเท ไม่อบอ้าว ไม่มีแดดส่องลงมาตรงๆ พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้สุนัขใช้พลังงานเยอะเกินไปในช่วงกลางวัน มีน้ำดื่มให้มันมากพอ เลือกเวลาในการพาสุนัขไปทำกิจกรรมนอกบ้านให้ดี ให้เลือกช่วงเช้าหรือช่วงเย็นแทนตอนกลางวัน และอย่าทิ้งสุนัขไว้บนรถยนต์ร้อนๆ ที่ดับเครื่องแล้ว
คุณควรควบคุมรูปร่าง และน้ำหนักตัวของสุนัขให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานอยู่เสมอ เพื่อช่วยลดโอกาสการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคอ้วน (Obesity) ด้วยการพาเจ้าตูบไปทำกิจกรรมและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อีกส่วนนึงคือการควบคุม เอาใจใส่คุณภาพและปริมาณอาหารของสุนัขให้ดี เลือกประเภทอาหารที่เหมาะสมกับตัวสุนัข จะเป็นการทานแบบบาร์ฟ อาหารปกติทั่วไป หรือจะเป็นอาหารสำหรับสุนัขโดยเฉพาะก็ได้ ถ้าเป็นอาหารทั่วไปก็ควรเป็นอาหารที่ดี มีประโยชน์ เช่น เนื้อไก่ เนื้อหมู ไข่ไก่ ตับ ข้าว โดยไม่ปรุงแต่งเครื่องปรุงใดๆ สามารถให้ผลไม้ชนิดที่สุนัขทานได้ในปริมาณที่พอเหมาะ ถ้าเป็นอาหารสำหรับสุนัขก็สามารถเลือกสูตรที่เหมาะสมกับสุนัขของคุณได้เลย เช่น สูตรสุนัขขนาดกลาง เป็นต้น ส่วนขนมที่คนทานควรให้สุนัขกินแต่น้อย หรือเปลี่ยนไปเป็นขนมสำหรับสุนัขดีกว่า
 

โรคภัยต่างๆ ที่อาจพบใน Shetland Sheepdog

  • โรคข้อสะโพกเสื่อม (Hip dysplasia): มันเป็นโรคที่สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรม แต่เราสามารถช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคนี้ในตัวสุนัขได้ โดยการควบคุมน้ำหนักตัวของมันให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของสายพันธุ์ ด้วยการเอาใจใส่เรื่องโภชนาการของสุนัขให้อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะกับขนาดตัว ไม่ให้มันทานขนมสำหรับมนุษย์ที่มีแคลรอลี่สูง หมั่นพามันไปวิ่งเล่นเผาผลาญพลังงาน ใช้กำลัง ทำกิจกรรมที่ใช้แรงเป็นประจำ และถ้าเป็นไปได้ พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้มันเดินบนพื้นกระเบื้องหรือพื้นแบบอื่นๆ ที่ทำให้สุนัขลื่นล้มได้ เพราะมันอาจจะลื่นล้มกระแทกกับพื้นจนเป็นต้นตอของโรคนี้
  • โรคจอประสาทตาเสื่อม (Progressive Retinal Atrophy): เป็นโรคเกี่ยวกับดวงตาที่สามารถสืบทอดทางกรรมพันธุ์ได้ อาการคือ สุนัขดูมองเห็นได้ไม่ค่อยดีในที่มืด และมักจะเดินชนสิ่งต่างๆ อยู่บ่อยครั้ง
  • ภาวะไทรอยด์ต่ำผิดปกติ (Hypothyroidism): เกิดจากการที่สุนัขมีระดับฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำกว่าปกติซึ่งถือว่าเป็นความผิดปกติของร่างกาย
 

นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่จะเจอโรคภัยอื่นๆ อีก เช่น

  • ต้อกระจก(Cataract): สามารถเกิดขึ้นได้ในสุนัขทุกช่วงอายุ
  • กระจกตาเสื่อม (Corneal Degeneration/ Dystrophy): วิธีสังเกตก็คือ มันจะมีจุดเล็กๆ สีขาว ในกระจกตา พบได้บ่อยในสุนัขวัยชรา
  • โรคลมแดด (Heatstroke): เกิดจากร่างกายของสุนัขระบายความร้อนที่สูงไม่ได้
  • โรคเบาหวาน (Diabetes)
  • ไตวาย (Kidney Failure)
  • โรคพิษสุนัขบ้า (Riabies)
  • โรคตับอักเสบ (Hepatitis)
  • โรคข้อศอกเสื่อม (Elbow Dysplasia)
  • โรคสะบ้าเคลื่อน (Patellar Luxation)
  • โรคหัดสุนัข (Canine Distemper)
  • โรคอ้วน (Obesity)

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับเจ้า Shetland Sheepdog

  • ไม่ควรขังมันอยู่ในที่แคบๆ ทั้งวัน
  • เป็นมิตรต่อสัตว์เลี้ยงอื่นและผู้คนรอบข้าง
  • มีขนยาวหนา และเป็นขนสองชั้น
  • เป็นสุนัขที่รักเจ้าของ เด็กๆ และสมาชิกในครอบครัวคนอื่น
  • ขี้เล่น ซุกซน  พลังงานเยอะมาก
  • ต้องการการออกกำลังกายเป็นประจำ

Shetland Sheepdog เหมาะกับผู้ที่

  • ชอบสุนัขขนาดค่อนข้างเล็ก
  • มีความแอคทีพเหมือนสุนัข
  • ไม่รำคาญเสียงเห่าของสุนัข
  • มีเด็กๆ และสัตว์เลี้ยงตัวอื่นภายในบ้าน
  • ชอบสุนัขที่รักเจ้าของและครอบครัว
  • สามารถอยู่ร่วมกัน ดูแล ทำความสะอาดมัน และพามันไปออกกำลังกาย ทำกิจกรรมต่างๆ เป็นประจำ

คำถามที่พบบ่อย

  • เลี้ยงในหอพักได้ไหม: เลี้ยงในหอพักได้ดี
  • ดุไหม: ไม่ดุ
  • เลี้ยงกับแมวได้ไหม: เลี้ยงกับแมวได้ดีมาก
  • เลี้ยงกับเด็กได้ไหม: เลี้ยงกับเด็กได้ดีมาก
  • เฝ้าบ้านได้ไหม: เห่าเฝ้าบ้านได้ดี
  • เหมาะกับผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ไหม: มันไม่ใช่สุนัขที่เหมาะกับคนเป็นภูมิแพ้มากนัก

เรื่องเจ้าตูบที่คุณอาจจะชอบ

 Banner Image