นกกาลาห์ (Rose-Breasted Cockatoo) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแล

แชร์ได้เลยที่ปุ่มด้านล่าง

นกกาลาห์ (Rose-Breasted Cockatoo) มันเป็นนกกระตั้วประเทศออสเตรเลียที่มีขนสีชมพูและสีเทาบนตัวที่มีเอกลักษณ์ มาพร้อมกับหน้าตาที่น่ารักน่ากอด มาทำความรู้จักกับมันกัน

เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจได้เลย

ข้อมูลทั่วไป
ประวัติ
ลักษณะนิสัยและความเป็นมิตร
ความหลากหลายและสีขนนก
การดูแลนก
ปัญหาสุขภาพต่างๆ ที่อาจพบ
Rose-Breasted Cockatoo เหมาะกับผู้ที่
คำถามที่พบเจอบ่อย

ข้อมูลทั่วไปของนกกาลาห์

น้ำหนัก: 280 – 400 กรัม
อายุขัย: 50 – 60 ปี หรือมากกว่านี้
ความฉลาด: ฉลาดพอสมควร
ความยาวตัว: 30 – 38 ซม.
ถิ่นกำเนิด: ประเทศออสเตรเลีย 🇦🇺
ชื่ออื่น: Galah, Pink and gray cockatoo
ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Eolophus roseicapilla
ลักษณะเฉพาะ: ส่วนหัวบริเวณกลางดวงตาขึ้นไปเป็นสีชมพูอ่อน ส่วนตัวจะเป็นสีชมพูเข้มเหมือนสีดอกกุหลาบ ปีกและหางเป็นสีเทา

ประวัติของนกกาลาห์

นกสายพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดที่ประเทศออสเตรเลีย มันมักจะอยู่รวมตัวกันเป็นฝูงใหญ่ มักจะพบมันรวมกับกับนกกระตั้วสายพันธุ์อื่นตามทุ่งหญ้า ป่าไม้ ในเมือง หรือแม้แต่พื้นที่เพาะปลูก เนื่องจากว่ามันมีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากันกับสภาพแวดล้อมได้ดีมาก ในประเทศแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยนกสายพันธุ์นี้ซึ่งสามารถพบเห็นได้ไม่ยาก ผู้คนบางส่วน โดยเฉพาะเกษตรกรมองว่ามันเป็นนกน่ารำคาญที่จะมาทำลายพืชผลของพวกเขา แต่ผู้คนบางส่วนก็ได้หลงใหลในเสน่ห์ในตัวมันและได้ลองนำมันมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง และได้ค้นพบว่ามันเป็นนกที่เหมาะกับการเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงพอสมควร จึงทำให้มันเริ่มได้รับความสนใจจากคนเลี้ยงนกในหลายๆ ประเทศ

ข้อควรระวัง

ก่อนเลี้ยงนกควรต้องศึกษาเรื่องกฎหมายก่อน ในปัจจุบันนกบางสายพันธุ์ถูกจัดอยู่ใน CITES บัญชีหมายเลข 1, 2, และ 3 ซึ่งแต่ละบัญชีก็จะมีกฎระเบียบที่ต่างกันออกไป ซึ่งคุณต้องตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนว่าในปัจจุบันนกสายพันธุ์นี้อยู่ที่ CITES บัญชีไหนหรือไม่ มีกฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับการซื้อขายครอบครองนกสายพันธุ์นี้ในปัจจุบันอย่างไร ซึ่งต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด และห้ามซื้อนกที่ถูกดักจับจากป่าอย่างผิดกฎหมาย

ลักษณะนิสัยของนกกาลาห์

มันเป็นนกที่มีชีวิตชีวา ขี้เล่น อ่อนหวาน อ่อนโยน และมีความเป็นมิตร มันสามารถอยู่ร่วมกับเป็นคู่กันกับนกสายพันธุ์เดียวกันได้ดี ถ้ามันถูกเลี้ยงมาอย่างดีและเอาใจใส่ มันจะเชื่อง จะรักและผูกพันกับเจ้าของเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่ามันเป็นนกที่อยู่ร่วมกันเป็นฝูงตามธรรมชาติ มันจึงเป็นนกที่ต้องการการเข้าสังคม ซึ่งถ้าหากว่าคุณปล่อยมันทิ้งไว้ตัวเดียวนานเกินไป หรือไม่ให้ความสนใจมันมากพอ มันก็อาจจะมีพฤติกรรมทำลายข้าวของ ก้าวร้าว และดึงขนตัวเองได้ มันจึงเหมาะกับผู้ที่สามารถสละเวลามาให้ความสนใจกับนกบ้าง นอกจากนี้ มันยังเป็นนกที่ฉลาดพอสมควร จึงสามารถนำมันมากลเม็ดต่างๆ ที่คุณต้องการได้ เช่น สอนเต้น

การพูดคุยและการส่งเสียง

โดยปกติมันเป็นนกที่เสียงดังอยู่แล้ว ซึ่งในบางครั้งมันอาจจะส่งเสียงดังหรือกรี๊ดออกมาตามประสานก ซึ่งมันอาจจะไปรบกวนผู้ที่อยู่ใกล้เคียงได้ ผู้เลี้ยงจึงต้องคำนึงถึงปัญหาตรงนี้ด้วย ส่วนเรื่องการเลียนแบบเสียง มันสามารถเลียนแบบเสียงสิ่งแวดล้อมรอบตัวที่มันได้ยินบ่อยๆ ได้ เช่น เสียงแมวร้อง และยังสามารถเลียนแบบคำพูดง่ายๆ ของมนุษย์ได้บางคำอีกด้วย คุณจึงสามารถลองมันนำมาสอนพูดดู

คลิปความน่ารักของน้อง

ลักษณะภายนอกและความหลากหลายของนก

สีและลักษณะภายนอก

สีขนบนหัวตั้งแต่กลางดวงตาขึ้นไปจะเป็นสีชมพูอ่อน สีขนตั้งแต่กลางดวงตาลงไปจนถึงลำตัวจะเป็นสีชมพูเข้มสวยงาม สีปีกและหางจะเป็นสีเทา ส่วนสีปีกด้านในจะเป็นสีชมพูเข้มตรงต้นปีก และจะเป็นสีเทาตรงปลายปีก จะงอยปากจะเป็นสีเทาครีมอ่อนๆ มีหงอนสีชมพูอ่อนสวยงามที่มันจะโชว์ให้คุณเห็นในบางครั้ง และจะมีขอบตาที่ไร้ขนรอบดวงตา ส่วนความแตกต่างระหว่างตัวผู้และตัวเมีย นกทั้งสองเพศแทบจะหาความแตกต่างไม่ได้เลย ถ้าอยากทราบเพศของมัน จะต้องนำมันไปตรวจเพศกับผู้เชี่ยวชาญ

การดูแลนกกาลาห์

การดูแลด้านอาหารการกิน

เราสามารถซื้ออาหารสำหรับนกโดยเฉพาะที่มีขายทั่วไปให้น้องทานได้เลย เราแนะนำให้เป็นสูตรที่มีส่วนผสมของธัญพืชและผลไม้อบแห้ง เพื่อให้นกได้รับสารอาหารหลากหลายที่มีประโยชน์ โดยเราสามารถให้มันทานควบคู่ไปกับอาหารสดชนิดต่างๆ เพื่อเสริมสารอาหาร สัดส่วนอาหารเม็ดกับอาหารสดก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความเหมาะสมกับตัวนก อาหารสดดังกล่าวสามารถเป็นผัก ผลไม้ หรือธัญพืชชนิดต่างๆ ก็ได้ เช่น คะน้า, แครอท, กล้วย, เมล็ดทานตะวัน, ส้ม, แอปเปิ้ล (เอาเมล็ดออกแล้ว), และอื่นๆ แต่ทั้งนี้ มันมีพืชผักผลไม้บางชนิดที่นกทานไม่ได้ ซึ่งถ้าหากทานเข้าไป มันอาจจะเป็นอันตรายร้ายแรงกับนก และถ้าน้องทานอาหารสดเหล่านี้ไม่หมดก็ควรเอาออกมาทิ้งได้แล้ว ไม่ควรให้มันทานอาหารค้างคืนเพราะอาหารเหล่านี้น่าจะบูดแล้ว ซึ่งถ้านกกินเข้าไป มันอาจจะทำให้นกป่วยได้ (ถ้าเป็นลูกนกต้องให้อาหารชงสำหรับลูกป้อนโดยเฉพาะก่อน)

11 อาหารต้องห้ามสำหรับนก

การดูแลขนและความสะอาด

เราไม่จำเป็นต้องไปกังวลเรื่องขนและความสะอาดของมันมากมายนัก เพราะโดยปกตินกจะเป็นสัตว์ที่คอยดูแลความสะอาดและจัดแต่งขนตัวเองเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว แต่ถ้าหากว่าตัวของมันเปื้อนและสกปรกมากเกินไป เราสามารถนำกะละมังขนาดใหญ่ที่มีน้ำอยู่ข้างในไปให้มันเล่นและอาบน้ำตัวเอง หรือจะใช้ฝักบัวฉีดไปที่ตัวมันเบาๆ ให้มันอาบ หรือจะเป็นการใช้กระบอกน้ำฟอกกี้ (Foggy) แบบแรงดันไปฉีดตัวให้มันอาบก็ได้ แต่ก่อนนำมันไปอาบน้ำก็ควรดูสภาพนกว่ามีความพร้อมในการอาบหรือไม่

การดูแลเรื่องที่อยู่อาศัย

เนื่องจากว่ามันเป็นนกที่ตัวใหญ่ กรงของมันจึงต้องมีขนาดใหญ่เช่นกัน กรงควรมีพื้นที่มากพอให้มันกางปีกได้เต็มที่และมีพื้นที่ให้มันเล่นบ้าง จะใช้ห้องที่ปลอดภัยสักห้องไว้เลี้ยงมันโดยเฉพาะเลยก็ได้ หรือจะล้อมกรงขนาดใหญ่ให้มันอยู่ก็ดีเช่นกัน ถ้าเลี้ยงมันไว้ในกรง ที่ที่ตั้งกรงของมันควรไม่มีแดดแรงๆ ส่องมากระทบโดยตรง มีอากาศถ่ายเท ไม่สกปรก และไม่อับชื้น ผู้เลี้ยงต้องคอยดูแลเรื่องความสะอาดของกรงนกอย่างสม่ำเสมอเพื่อสุขภาพที่ดีของตัวนกเอง และอย่าลืมที่จะนำของเล่นสำหรับนกชนิดต่างๆ เช่น ของเล่นที่ทำจากไม้ ของเล่นเชือกพันเกลียว ลูกบอลไม้ บันไดไม้ และอื่นๆ เข้าไปในกรงให้นกกัดเคี้ยวเล่นแก้เบื่อในยามว่าง

การออกกำลังกายและอื่นๆ

ถ้าหากว่าคุณอยากให้นกของคุณมีสุขภาพแข็งแรง คุณก็ควรให้นกของคุณได้ออกกำลังกายบ้าง ตามที่กล่าวไปข้างต้น กรงจึงควรมีขนาดใหญ่มากพอที่จะมีพื้นที่ให้มันเล่นบ้าง มีของเล่นชนิดต่างๆ ให้มันเล่นในกรง และคุณสามารถนำมันออกมาเล่นในห้องที่ปลอดภัยข้างนอกกรงบ้าง ประมาณวันละ 1-2 ชั่วโมงหรือมากกว่านี้ยิ่งดี เพื่อให้มันได้ออกมาสำรวจโลกข้างนอกกรง ออกกำลังกาย เดินเล่นบินเล่น และออกมาฝึกให้เข้าสังคมกับคุณและผู้คนในบ้านบ้าง นอกจากจะทำให้ร่างกายของนกแข็งแรงแล้ว ยังมีส่วนช่วยให้มันเชื่อง ไม่หดหู่ ไม่ก้าวร้าว และไม่เก็บกด และถ้าคุณสะดวก คุณสามารถลองนำมันไปบินที่ที่ปลอดภัยข้างนอกบ้านดูได้

ปัญหาสุขภาพที่อาจพบใน Rose-Breasted Cockatoo

นกสายพันธุ์นี้มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอ้วน เนื่องจากการทานอาหารที่มากไปหรือการทานอาหารประเภทที่มีไขมันสูงมากเกินไป รวมถึงการขาดการออกกำลังกาย และมันก็อาจจะมีปัญหาสุขภาพที่มักจะพบเจอในนก เช่น

โรคกระเพาะขยาย (Proventricular Dilatation Disease): อาการที่สามารถสังเกตได้คือ นกจะตัวผอมลง น้ำหนักลดอย่างไม่ทราบสาเหตุ เซื่องซึม และอาเจียน แต่นกบางตัวอาจจะไม่แสดงอาการออกมาให้เห็นจนกระทั่งเริ่มอาการหนักแล้ว
ไรในนก (Bird Mites): ไรในนกนั้นอันตรายกับนกกว่าที่คุณคิด เพราะมันอาจจะทำให้นกของคุณเสียชีวิตได้ และยังสามารถสร้างความรำคาญให้กับผู้เลี้ยงและคนในบ้านอีกด้วย อาการที่สามารถสังเกตได้ คือ นกจะน้ำหนักตัวลดลง ขนยุ่ง และน้องจะกัดขนและตกแต่งขนบ่อยผิดปกติ ขนร่วง และผิวหนังเป็นแผล วิธีป้องกันเบื้องต้น คือ หมั่นรักษาความสะอาดกรงของน้อง ไม่ให้กรงของน้องมีความอับชื้น และไม่ให้น้องเข้าใกล้นกจากธรรมชาติตัวอื่น โดยเฉพาะนกพิราบ ที่อาจจะมีไรนกติดมาด้วย
โรคซิตาโคซิส (Psittacosis): หรือที่เรียกกันว่า “โรคไข้นกแก้ว” โรคนี้ไม่ได้เป็นกับนกแก้วเท่านั้น มันเป็นโรคที่สามารถติดจากนกและสัตว์ปีกชนิดอื่นๆ สู่คนผ่านการหายใจ ผู้ที่ติดเชื้อนี้จะมีอาการเป็นไข้ ตัวสั่น ปวดศีรษะ นกที่อาจจะติดเชื้อไวรัสนี้จะมีอาการเซื่องซึม ถ่ายบ่อย ไม่ค่อยทานอาหาร และมูลนกจะมีสีแปลกไปจากปกติ
โรคจะงอยปากและขน (Psittacine beak and feather disease): เป็นโรคที่เกิดจากไวรัสที่สามารถติดต่อกันได้ อาการที่สามารถสังเกตได้จากภายนอก คือ จะงอยปากผิดรูปและแตกถลอก เซื่องซึม ขนร่วงเยอะ บินไม่ค่อยได้ ซึ่งมันอาจจะส่งผลให้เกิดอาการแทรกซ้อนอย่างอื่น ถ้านกคุณมีอาการเหล่านี้ ให้นำน้องไปพบสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมกับแยกนกตัวที่แข็งแรงออกจากกัน เพื่อป้องกันการติดต่อของโรค

Rose-Breasted Cockatoo เหมาะกับผู้ที่

มีพื้นที่มากพอสมควรในการเลี้ยงนก
ชอบนกฉลาด ฝึกสอนสิ่งต่างๆ ได้
ชอบนกสีชมพูสดสวยงาม
มั่นใจว่าเสียงของมันจะไม่รบกวนเพื่อนบ้าน
มีเวลาอยู่ร่วมกัน ให้ความสนใจ และดูแลมันมากพอ

คำถามที่พบบ่อย

เข้ากันกับเด็กได้ไหม: มันเข้ากันได้กับเด็กที่เริ่มมีอายุในระดับนึง ที่รู้วิธีการเล่นกับนกอย่างเบามือ ไม่เล่นแรงจนล้ำเส้นนกมากเกินไป
เสียงมันดังไหม: เสียงดังมากพอสมควร
ฝึกนกให้เชื่องยังไง: วิธีเบื้องต้น คือ ควรฝึกมันให้เข้าสังคมกับคุณและคนในบ้านตั้งแต่ยังเด็ก มีเวลาอยู่กับมัน ให้ความสนใจมัน และพยายามป้อนอาหารด้วยมือเปล่า เป็นต้น

เรื่องนกๆ ที่คุณอาจจะชอบ