คุณเพิ่งจะมีเจ้าเหมียวตัวใหม่มาเลี้ยงไว้ในบ้านเพื่อเป็นเพื่อนเล่นใช่ไหมล่ะ แต่บางท่านอาจจะยังไม่รู้ว่าน้องแมวก็สามารถมีความเครียดเป็นบางครั้งบางคราวเช่นเดียวกันกับคนเราเช่นกัน ซึ่งคนเราก็มีวิธีรับมือกับความเครียดที่ไม่ดีต่อสุขภาพเหล่านั้น แต่ว่าน้องแมวไม่สามารถบอกเราได้นี่สิว่าน้องกำลังมีความเครียดบางอย่างอยู่ ในวันนี้เราจึงมาแบ่งปันวิธีการสังเกตภาษากายของน้องเมื่อน้องมีความเครียด และ 10 วิธีความเครียดให้แมวที่ใครก็สามารถทำได้ แล้วรออะไรกันอยู่ล่ะ มาหาวิธีที่จะทำให้น้องแมวของคุณมีความสุขมากขึ้นกันเลยดีกว่า
สัญญาณที่บ่งบอกว่าแมวมีความเครียด
ถ้าเจ้าเหมียวของคุณมีความเครียด วิตกกังวล หรือมีความไม่สบายใจบางอย่างที่ไม่สามารถบอกให้คุณรับรู้ได้ เราจะสามารถสังเกตภาษากายบางอย่างที่น้องอาจจะแสดงออกมาได้บ้าง ดังนี้
- ดูกระวนกระวายและกระสับกระส่าย
- ไม่ยอมใช้กระบะทรายเหมือนเคย
- รักสันโดษมากกว่าเดิม
- มีความก้าวร้าวมากขึ้น
- อาเจียนและท้องเสีย
- ไม่ค่อยอยากอาหาร
- ส่งเสียงมากผิดปกติ
- ดูแลขนบ่อยกว่าปกติ
วิธีลดความเครียดให้แมว
1. มีพื้นที่ส่วนตัวให้แมว
แมวส่วนมากชอบที่จะมีพื้นที่ส่วนตัวที่สามารถใช้ปลีกตัวออกจากสังคมรอบข้าง หลีกหนีจากความวุ่นวายภายในบ้าน และไว้ใช้แอบซ่อนตัวเพื่อความอุ่นใจ คุณจึงควรมีมุมส่วนตัวให้กับน้องบ้าง จะเป็นบนคอนโดแมวหรือเป็นในบ้านแมวก็ได้ ถ้าคุณมีแมวหลายตัวยิ่งควรมีมุมส่วนตัวให้น้องบ้าง รับรองว่าเจ้าเหมียวของคุณจะต้องมีความสุขมากขึ้นอย่างแน่นอน
2. ไม่เปลี่ยนที่อยู่บ่อยเกินไป
เราไม่ควรเปลี่ยนตำแหน่งที่วางสิ่งของของน้องแมวและไม่ควรเปลี่ยนที่อยู่ให้กับแมวบ่อยจนเกินไป เพราะนั่นจะไปทำให้น้องแมวเครียดเพราะความไม่คุ้นชิน แต่ถ้าคุณจำเป็นต้องย้ายตำแหน่งสิ่งของเหล่านั้นจริงๆ เราแนะนำให้คุณวางแผนเปลี่ยนตำแหน่งสิ่งของเหล่านั้นภายในทีเดียวเลย น้องแมวจะได้ไม่ต้องมาปรับตัวอยู่บ่อยๆ
3. ไม่เล่นกับน้องบ่อยเกินไป
เราไม่ควรมาเล่นกับน้องแมวบ่อยเกินไป และไม่ควรพยายามจับตัวน้องเมื่อน้องไม่อยากเล่นกับคุณ เพราะมันจะทำให้เจ้าเหมียวมีความเครียด อารมณ์เสีย และหงุดหงิดได้ เราจึงควรมีเวลาว่างให้เจ้าเหมียวทำสิ่งที่อยากทำบ้าง การพยายามอุ้มหรือกอดน้องทั้งวันจึงไม่ใช่สิ่งที่น้องแมวชอบเลย ลองอ่านภาษากายว่าในตอนนั้นน้องแมวมีความพร้อมที่จะเล่นกับคุณบ้างไหม

4. มีเสาฝนเล็บให้แมว
การฝนเล็บนอกจากจะเป็นการยืดเหยียดออกกำลังกายที่ดีแล้ว มันยังมีส่วนช่วยให้น้องแมวปลดปล่อยความเครียด รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น และคุ้นเคยกับสถานที่มากขึ้น แต่เพื่อป้องกันไม่ให้น้องไปฝนเล็บบนเฟอร์นิเจอร์ของคุณ เราจึงแนะนำให้คุณเสาฝนเล็บมาให้น้องเกาเล่นสักอัน และมีของเล่นมาให้น้องเล่นเพื่อแก้เบื่อ
5. ให้อาหารที่มีคุณภาพ
อาหารคุณภาพสูงซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหารที่แมวต้องการนั้นจะทำให้น้องแมวมีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีปัญหาสุขภาพจากการขาดสารอาหารหรือได้รับสารอาหารบางอย่างมากเกินไป เราจึงอยากให้คุณใส่ใจเรื่องอาหารแมวสักนิด แต่ก็อย่าให้น้องกินเพลินมากเกินไปจนอ้วนล่ะ และถ้าคุณมีแมวหลายตัว เราแนะนำให้ลองสังเกตว่ามีการตบตีกันเพื่อแย่งอาหารกันบ้างไหม ถ้ามีเราก็ควรแยกถาดข้าวให้น้อง
6. ดูแลสุขภาพเจ้าเหมียวให้ดี
ปัญหาสุขภาพนั้นจะนำมาซึ่งความเครียดและความเจ็บปวดอยู่แล้ว เราจึงควรคอยดูแลความเป็นอยู่ สิ่งแวดล้อม อาหารการกิน และการดูแลทำความสะอาดร่างกาย เพื่อให้น้องแมวมีสุขภาพที่ดีอยู่เสมอ แค่นี้น้องก็อยู่ห่างไกลจากความเครียดมากขึ้นแล้ว
7. มีกระบะทรายแบบที่น้องชอบ
ถ้าคุณเลี้ยงแมวไว้ในบ้าน คุณควรมีกระบะทราบให้น้องเข้าไปขับถ่าย ให้คุณลองเลือกกระบะทรายที่มีขนาดเหมาะกันกับตัวน้อง และลองหาประเภททรายแมวที่ใช่สำหรับแมวของคุณ ส่วนตำแหน่งที่วางกระบะทราย เราไม่ควรวางไว้ใกล้ชามข้าวของน้องมากเกินไป แต่ควรวางในที่ที่มีความเป็นส่วนตัวและสงบเงียบ เพื่อให้น้องสามารถขับถ่ายได้อย่างมีความสุขและไม่มีใครมารบกวนในเวลาสำคัญ สามารถมาดู “วิธีสอนแมวให้เข้ากระบะทราย” เพิ่มเติมได้ที่นี่
8. มีเวลาส่วนตัวให้แมวบ้าง
แมวเป็นสัตว์ที่มีความรักสันโดษอยู่บ้างโดยธรรมชาติอยู่แล้ว ส่วนจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับแมวแต่ละตัว แมวก็เหมือนคนเรานั่นแหละที่ต้องการเวลาส่วนตัวโดยไม่มีใครมากวน เราจึงควรมีเวลาส่วนตัวให้กับแมวบ้าง เวลาน้องกินข้าวหรือนอนหลับเราก็ไม่ควรไปกวนน้อง ให้ลองสังเกตท่าทีของน้องดูว่าในตอนนั้นน้องอยากอยู่คนเดียวหรือน้องอยากเล่นกับคุณ
9. มาเข้าสังคมกับน้องบ้าง
น้องแมวก็ต้องการเวลาในการเข้าสังคมกับคนที่มันรักบ้างเหมือนกันนะ เราจึงแนะนำให้คุณแบ่งเวลามาลูบจับ ให้น้องมาออดอ้อนกับคุณบ้าง และเล่นหยอกล้อกันด้วยของเล่นชนิดต่างๆ บ้าง นอกจากจะทำให้น้องแมวปลดปล่อยความเครียดออกมาแล้ว มันยังทำให้น้องแมวรู้สึกสนุกสนานและเป็นการออกกำลังกายไปในตัวด้วยนะ
10. ใช้ตัวช่วยอื่นๆ
ถ้าคุณเพิ่งรับน้องเข้ามาเลี้ยงในบ้านใหม่ มันก็เป็นธรรมดาที่น้องแมวจะมีความเครียดอยู่บ้าง คุณจึงสามารถลองใช้ตัวช่วยต่างๆ เช่น สเปรย์ลดความเครียดสำหรับแมว ของเล่นกัญชาแมว และอื่นๆ เพื่อมาลดความเครียดและสร้างความผ่อนคลายให้กับน้องแมว แต่ถ้าเป็นกัญชาแมวมันก็อาจจะไม่ได้ผลกับน้องแมวบางตัวนะ
เรื่องเจ้าเหมียวที่คุณอาจจะชอบ
อ่านเรื่องไหนต่อดี
ของเล่นสุนัขแนะนำ 7 อย่าง สำหรับสุนัขใหญ่และลูกสุนัข
12 สายพันธุ์สุนัขต้อนแกะ ที่เลี้ยงเป็นเพื่อนคุณได้ดีเช่นกัน
ไม้ตกแมว ไม้ล่อแมว แบบไหนดีและคนชอบใช้บ้าง ปี 2023
เชคโกสโลวัคเกี้ยน วูล์ฟด็อก (Czechoslovakian Wolfdog)
ขาวมณี (Khao Manee) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลแมวสายพันธุ์ไทย
เจแปนนีส สปิตซ์ (Japanese Spitz) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลสุนัข
ประตูสุนัข แบบไหนดี มีความแข็งแรง และรีวิวปังบ้าง ปี 2023
นกกระตั้วโมลัคคัน (Moluccan Cockatoo) ข้อมูล นิสัยและการดูแล