นกแก้วสีรุ้ง (Rainbow Lorikeet) มันเป็นนกตัวเล็กจากประเทศออสเตรเลียที่มีสีขนสดใสราวกับสายรุ้ง มาพร้อมกับความขี้เล่นที่จะมาเติมรสชาติให้กับชีวิตคุณ มาทำความรู้จักกับมันกัน
ข้อมูลทั่วไปของนกแก้วสีรุ้ง
- น้ำหนัก: 75 – 160 กรัม
- อายุขัย: 20 – 30 ปี
- ความฉลาด: ฉลาดพอสมควร
- ความยาวตัว: 25 – 30 ซม.
- ถิ่นกำเนิด: ประเทศออสเตรเลีย 🇦🇺
- ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Trichoglossus moluccanus
- ลักษณะเฉพาะ: เนื้อตัวมีความอ้วนกลม หางค่อนข้างยาว จะงอยปากสีส้มแดง สีตารอบนอกเป็นสีส้ม สีขนมีหลายสีในตัว ซึ่งแบ่งสัดส่วนอย่างสวยงามราวกับสีสายรุ้ง
ประวัติของนกแก้วสีรุ้ง
นกสายพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดที่บริเวณชายฝั่งทางตะวันออกจนไปถึงทางตอนใต้ของประเทศออสเตรเลีย ซึ่งมันก็ได้กระจายถิ่นที่อยู่อาศัยของมันไปทั่วประเทศออสเตรเลียและประเทศอื่นๆ เช่น นิวซีแลนด์ และฮ่องกง มันมักจะอาศัยอยู่ตามป่าไม้และพุ่มหญ้า พวกมันมักจะจับกลุ่มกันเป็นฝูงเล็กๆ และออกหาผลไม้และเมล็ดพืชกินตามธรรมชาติ ในหลายๆ ครั้งพวกมันจึงถูกมองว่าเป็นศัตรูพืชในพื้นที่เหล่านี้ เนื่องจากสีสันที่สวยงามของมัน มันถึงเริ่มถูกนำมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงจนถึงในปัจจุบัน
ข้อควรระวัง
ก่อนเลี้ยงนกควรต้องศึกษาเรื่องกฎหมายก่อน ในปัจจุบันนกบางสายพันธุ์ถูกจัดอยู่ใน CITES บัญชีหมายเลข 1, 2, และ 3 ซึ่งแต่ละบัญชีก็จะมีกฎระเบียบที่ต่างกันออกไป ซึ่งคุณต้องตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนว่าในปัจจุบันนกสายพันธุ์นี้อยู่ที่ CITES บัญชีไหนหรือไม่ มีกฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับการซื้อขายครอบครองนกสายพันธุ์นี้ในปัจจุบันอย่างไร ซึ่งต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด และห้ามซื้อนกที่ถูกดักจับจากป่าอย่างผิดกฎหมาย
ลักษณะนิสัยของนกแก้วสีรุ้ง
มันเป็นนกที่มีความขี้เล่น ซุกซน มีชีวิตชีวา และกระตือรือร้น มันชอบการบินเล่นเพื่อสำรวจพื้นที่รอบๆ และหาของเล่นมากัดเล่น คุณจึงควรระวังไม่ให้มันไปกัดแทะสายไฟในบ้านเล่น มันเป็นนกที่ผูกพันกับเจ้าของและเข้ากับคนง่าย มันต้องการการเวลาในการเข้าสังคมพอสมควร ถ้าหากว่ามันถูกปล่อยให้อยู่ตัวเดียวเป็นระยะเวลานาน มันก็อาจจะเก็บกด ส่งเสียงดัง และอาจจะมีการถอนขนทำร้ายตัวเองได้ นอกจากนี้ มันยังเป็นนกที่มีความหวงอาณาเขตและมีความอิจฉาที่ถูกแย่งความสนใจ ซึ่งมันอาจจะมีความไม่เป็นมิตรกับนกตัวอื่นที่อยู่กรงเดียวกันได้
การพูดคุยและการส่งเสียง
เสียงร้องของนกสายพันธุ์นี้มีความแหลมและดังมาก ซึ่งมันอาจจะไปรบกวนเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงได้ คุณจึงควรแน่ใจว่าเสียงของมันจะไม่ไปรบกวนคนที่อยู่ใกล้เคียง ส่วนเรื่องการเลียนแบบเสียงมันสามารถเลียนแบบเสียงสิ่งแวดล้อมรอบข้างและเสียงคำพูดของมนุษย์ได้ และสามารถจดจำคำพูดของมนุษย์ได้หลายคำ แต่ว่าคำที่มันพูดออกมาอาจจะไม่ค่อยชัดเจนมากนัก
ลักษณะภายนอกและความหลากหลายของนก
สีและลักษณะภายนอก
ส่วนใบหน้าและท้องของมันจะเป็นสีน้ำเงิน มีสีเขียวที่ปีกและหาง มีสีเหลืองอมเขียวบริเวณต้นคอ มีขนที่อกสีแดงและค่อยๆ ไล่เฉดสีไปข้างๆ จนเป็นสีเหลือง จะงอยปากเป็นสีส้มแดง ตัวผู้และตัวเมียแทบจะจำแนกจากลักษณะภายนอกไม่ได้เลย
การดูแลนกแก้วสีรุ้ง
การดูแลด้านอาหารการกิน
ในป่านกสายพันธุ์นี้จะกินน้ำหวานและเกสรเป็นหลัก จะสังเกตได้ว่าลิ้นของมันจะมีความเหมือนแปรงเพื่อช่วยในการกินน้ำหวานจากพืช อาหารการกินของมันจึงแตกต่างจากนกหลายๆ สายพันธุ์ เราสามารถซื้ออาหารแบบชงสำหรับนกโนรีโดยเฉพาะให้มันทานได้เลย โดยเราสามารถให้มันทานควบคู่ไปกับอาหารสดชนิดต่างๆ เพื่อเสริมสารอาหาร สัดส่วนอาหารสำเร็จรูปกับอาหารสดก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความเหมาะสมกับตัวนก อาหารสดดังกล่าวสามารถเป็นผัก ผลไม้ หรือธัญพืชชนิดต่างๆ ก็ได้ เช่น คะน้า, ผักโขม, มะละกอ, เมล็ดทานตะวัน, องุ่น, แอปเปิ้ล (เอาเมล็ดออกแล้ว), และอื่นๆ แต่ทั้งนี้ มันมีพืชผักผลไม้บางชนิดที่นกทานไม่ได้ ซึ่งถ้าหากทานเข้าไป มันอาจจะเป็นอันตรายกับนก และถ้าน้องทานอาหารสดเหล่านี้ไม่หมดก็ควรเอาออกมาเปลี่ยน ไม่ควรให้มันทานอาหารค้างคืนเพราะอาหารเหล่านี้อาจจะบูดแล้ว ซึ่งอาจจะทำให้นกป่วยได้ถ้ากินเข้าไป (ถ้าเป็นลูกนกต้องให้อาหารชงสำหรับลูกป้อนโดยเฉพาะก่อน)
การดูแลขนและความสะอาด
โดยปกตินกจะเป็นสัตว์ที่คอยดูแลความสะอาดและจัดแต่งขนตัวเองเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องไปใส่ใจเรื่องความสะอาดของตัวนกมากนัก แต่ถ้าหากว่าน้องเริ่มสกปรกและส่งกลิ่นเหม็น เราสามารถนำกะละมังหรือถาดน้ำที่มีน้ำตื้นๆ ให้มันเล่นและอาบน้ำตัวเอง หรือจะเป็นการเปิดก๊อกน้ำเบาๆ ให้น้องเข้าไปอาบน้ำทำความสะอาดตัวเองก็ได้ เราไม่ควรใช้วิธีที่นำกระบอกฉีดน้ำฟอกกี้ไปฉีดตัวมันให้มันอาบ เพราะว่ามันแรงเกินไปสำหรับนกที่ตัวค่อนข้างเล็ก การใช้ฟอกกี้จะเหมาะกับนกที่มีขนาดตัวค่อนข้างใหญ่มากกว่า
การดูแลเรื่องที่อยู่อาศัย
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นนกที่ตัวค่อนข้างเล็ก แต่กรงที่อยู่ของมันนั้นไม่ควรมีขนาดเล็กเกินไปจนอึดอัด กรงควรมีขนาดใหญ่มากพอที่จะมีพื้นที่ให้มันบินเล่นบ้าง ที่ที่ตั้งกรงของมันควรไม่มีแดดแรงๆ ส่องมากระทบโดยตรง ไม่อับชื้น และมีอากาศถ่ายเท ผู้เลี้ยงต้องคอยดูแลเรื่องความสะอาดของกรงนกอย่างสม่ำเสมอเพื่อสุขภาพที่ดีของตัวนกเอง ในกรงควรมีคอนให้นกยืนเกาะ และควรมีของเล่นสำหรับนกชนิดต่างๆ เช่น ของเล่นเชือกพันเกลียว ของเล่นที่ทำจากไม้ บอลไม้ และอื่นๆ เข้าไปในกรงให้นกกัดเคี้ยวเล่นในยามว่าง
การออกกำลังกายและอื่นๆ
นกก็ต้องการการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีเหมือนสัตว์ชนิดอื่นๆ เช่นกัน ตามที่กล่าวไปข้างต้น กรงจึงควรมีขนาดใหญ่มากพอที่จะมีพื้นที่ให้มันได้บินเล่นบ้าง มีของเล่นให้มันเล่นในกรง และคุณสามารถนำน้องออกมาเล่นในห้องที่ปลอดภัยข้างนอกกรงบ้าง ประมาณวันละหนึ่งชั่วโมงหรือมากกว่านี้ก็ดี เพื่อให้มันได้ออกมาสำรวจโลกข้างนอกกรง เดินเล่นบินเล่น ยืดเหยียดเส้นสาย และออกมาฝึกให้มีปฏิสัมพันธ์กับคุณและผู้คนในบ้านบ้าง ซึ่งมีส่วนช่วยให้มันเชื่อง ไม่เหงา ลดความก้าวร้าว และไม่เก็บกด และถ้าคุณสะดวก คุณสามารถลองนำมันไปบินที่ที่ปลอดภัยข้างนอกบ้านได้
ปัญหาสุขภาพที่อาจพบใน Rainbow Lorikeet
- โรคกระเพาะขยาย (Proventricular Dilatation Disease): อาการที่สามารถสังเกตได้คือ นกจะตัวผอมลง น้ำหนักลดอย่างไม่ทราบสาเหตุ เซื่องซึม และอาเจียน แต่นกบางตัวอาจจะไม่แสดงอาการออกมาให้เห็นจนกระทั่งเริ่มอาการหนักแล้ว
- โรคจะงอยปากและขน (Psittacine beak and feather disease): เป็นโรคที่เกิดจากไวรัสที่สามารถติดต่อกันได้ อาการที่สามารถสังเกตได้จากภายนอก คือ จะงอยปากผิดรูปและแตกถลอก เซื่องซึม ขนร่วงเยอะ บินไม่ค่อยได้ ซึ่งมันอาจจะส่งผลให้เกิดอาการแทรกซ้อนอย่างอื่น ถ้านกคุณมีอาการเหล่านี้ ให้นำน้องไปพบสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมกับแยกนกตัวที่แข็งแรงออกจากกัน เพื่อป้องกันการติดต่อของโรค
- ไรในนก (Bird Mites): ไรในนกนั้นอันตรายกับนกกว่าที่คุณคิด เพราะมันอาจจะทำให้นกของคุณเสียชีวิตได้ และยังสามารถสร้างความรำคาญให้กับผู้เลี้ยงและคนในบ้านอีกด้วย อาการที่สามารถสังเกตได้ คือ นกจะน้ำหนักตัวลดลง ขนยุ่ง และน้องจะกัดขนและตกแต่งขนบ่อยผิดปกติ ขนร่วง และผิวหนังเป็นแผล วิธีป้องกันเบื้องต้น คือ หมั่นรักษาความสะอาดกรงของน้อง ไม่ให้กรงของน้องมีความอับชื้น และไม่ให้น้องเข้าใกล้นกจากธรรมชาติตัวอื่น โดยเฉพาะนกพิราบ ที่อาจจะมีไรนกติดมาด้วย
- โรคซิตาโคซิส (Psittacosis): หรือที่เรียกกันว่า “โรคไข้นกแก้ว” มันเป็นโรคที่สามารถติดจากนกและสัตว์ปีกอื่นๆ สู่คนผ่านการหายใจ ผู้ที่ติดเชื้อนี้จะมีอาการเป็นไข้ ตัวสั่น ปวดศีรษะ นกที่อาจจะติดเชื้อไวรัสนี้จะมีอาการเซื่องซึม ถ่ายบ่อย ไม่ค่อยทานอาหาร และมูลนกจะมีสีแปลกไปจากปกติ
Rainbow Lorikeet เหมาะกับผู้ที่
- สามารถเก็บเสียงดังและแหลมของมันไม่ให้ไปรบกวนเพื่อนบ้าน
- มีเวลาอยู่ร่วมกัน ให้ความสนใจ และดูแลมันเป็นประจำ
- ชอบนกที่มีความขี้เล่น เป็นมิตร
- มีพื้นที่ในการเลี้ยงนกไม่มากนัก
- มีกรงแยกให้นกตัวอื่น
- ชอบนกที่สีสันสดใส
คำถามที่พบบ่อย
- น้องชอบให้ลูบจับไหม: ส่วนมากจะให้เจ้าของลูบจับได้ตามปกติ แต่ตัวที่ไม่เชื่องก็อาจจะมีความหวงตัวได้
- อยู่กับนกตัวอื่นได้ไหม: บางตัวอยู่กับนกตัวอื่นพอได้ แต่บางตัวจะมีความหวงถิ่นและขี้อิจฉาสูง ซึ่งอาจจะทำให้มันไปทำร้ายนกตัวอื่น
- จะทำให้มันเชื่องยังไงดี: เราควรฝึกมันให้เข้าสังคมกับคุณและสมาชิกในบ้านตั้งแต่มันยังเด็ก หมั่นมาหามัน เรียกชื่อมัน ใช้มือไปป้อนอาหารนกเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับมัน ปล่อยมันให้มามีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนภายในบ้าน และมีเวลามาให้มันเห็นหน้าเป็นประจำ เป็นต้น
เรื่องนกๆ ที่คุณอาจจะชอบ
อ่านเรื่องไหนต่อดี
บริติช ลองแฮร์ (British Longhair) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลแมว
อียิปเทียน มัว (Egyptian Mau) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลแมว
ของเล่นแมว มีอะไรบ้าง – 6 ของเล่นน้องแมวที่เราแนะนำ
วิธีอาบน้ำแมว เกร็ดเล็กน้อยในการอาบน้ำแมว
10 อาหารเสริมสุนัข แบบไหนดีและเหมาะกับน้องบ้าง ปี 2023
อลาสกัน มาลามิวท์ (Alaskan Malamute) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลสุนัข
5 สายพันธุ์สุนัขลากเลื่อน ที่สามารถเป็นเพื่อนของคุณได้เช่นกัน
ลีออนเบอร์เกอร์ (Leonberger) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลสุนัข