สุนัขพันธุ์ปั๊ก (Pug) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลสายพันธุ์สุนัขจอมขี้เกียจ

แชร์ได้เลยที่ปุ่มด้านล่าง

สุนัขพันธุ์ปั๊ก (Pug) เป็นสุนัขจากจากแดนมังกรที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นั่นคือลูกตาที่กลมโต และหน้าดำๆ ย่นๆ ของมัน ซึ่งทำให้หลายๆ ท่านสนใจที่จะเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้เป็นสุนัขไว้คลายเหงาที่บ้าน มาทำความรู้จักเจ้าย่นตัวน้อยนี้ในด้านต่างๆ ให้มากกว่าเดิมกันเถอะ

เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจได้เลย

ข้อมูลทั่วไป
ประวัติ
ลักษณะนิสัย
สายพันธุ์ของปั๊กและความหลากหลายของสี
ความเป็นมิตรต่อเด็ก และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ
การดูแลปั๊ก
โรคภัยต่างๆ ที่อาจพบ
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับสุนัขสายพันธุ์นี้
สุนัขพันธุ์ปั๊ก เหมาะกับผู้ที่
คำถามที่เจอบ่อย

ข้อมูลทั่วไปของสุนัขพันธุ์ปั๊ก

ขนาดตัว: เล็ก
ความสูง: ตัวผู้: 30-36 ซม. ตัวเมีย: 25-30 ซม.
น้ำหนัก: 6-8 กิโลกรัม
ลักษณะเฉพาะ: หน้าย่น หน้าสีดำ ปากสั้น ตัวสีน้ำตาลอ่อน
อายุขัย: 12-15 ปี
ปริมาณการผลัดขน: ปานกลาง
ความยาวขน: สั้น
ความฉลาด: ปานกลาง
ถิ่นกำเนิด: ประเทศจีน

ประวัติของ Pug

Pug เป็นอีกหนึ่งสุนัขสายพันธุ์เก่าแก่ที่ถูกค้นพบตั้งแต่ 400 ปีก่อนคริสตกาลที่ประเทศจีน ใบช่วงศตวรรษที่ 16 ประเทศจีนได้มีการทำการค้ากับยุโรปทางและเหล่าพ่อค้าก็ได้นำสุนัขสายพันธุ์นี้ติดไม้ติดมือกลับไปประเทศตัวเองด้วย หลังจากนั้น ปั๊กก็เริ่มเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วในยุโรป แถมยังเป็นหนึ่งในสุนัขที่พระราชินีวิคตอเรียชอบเลี้ยงอีกด้วย นอกจากท่านจะเลี้ยงมันหลายตัวแล้ว ท่านยังช่วยเพาะพันธุ์เจ้าสุนัขหน้าย่นนี่อีกด้วย

ในปัจจุบัน ปั๊กยังเป็นสายพันธุ์สุนัขที่หลายๆประเทศนิยมเลี้ยง เช่น จีน ไทย ออสเตรเลีย เนื่องจากว่ามันเป็นสุนัขที่ตัวเล็ก น่ารัก ที่มีเสน่ห์ตรงหน้าย่นๆ ดำๆ กับดวงตากลมโตของมัน

ลักษณะนิสัยของปั๊ก

เมื่อเทียบกับหลายๆ สายพันธุ์ มันเป็นสุนัขที่ไม่ค่อยแอคทีพและกระตือรือร้น มันเป็นสุนัขที่ค่อนข้างจะขี้เกียจสักหน่อย มันชอบการกินและนอนแผ่สบายๆ มากกว่าการวิ่งเล่นซุกซนทั้งวัน ถึงแม้ว่ามันจะดูนิ่งๆ มึนๆ ไม่ค่อยสนโลกสักเท่าไหร่ แต่ในบางครั้งมันก็มีความขี้เล่นซุกซนอยู่บ้าง ซึ่งมันจะเป็นตัวสร้างเสียงหัวเราะและความสนุกสนานที่ดีให้กับคนในบ้านของคุณ

มันเป็นสายพันธุ์สุนัขที่ไม่ดุ ไม่ก้าวร้าว ขี้อ้อน เป็นมิตรกับผู้คน รวมถึงสัตว์เลี้ยงและสุนัขรอบข้างด้วย เพราะเหตุนี้มันจึงไม่เหมาะสำหรับการนำมาเฝ้าบ้าน แต่เหมาะที่จะนำมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงสำหรับเป็นเพื่อนกับคนในครอบครัวมากกว่า

ความหลากหลายของสีสุนัข

สีตา

ปั๊กจะมีตาโทนสีดำหรือน้ำตาล

สีขน

โทนสีน้ำตาลทั้งหลาย เช่น น้ำตาล, น้ำตาลอ่อน นอดจากนี้ยังมีสีดำล้วน สีเทา และสีขาวครีมอีกด้วย

ความเป็นมิตรของปั๊กที่มีต่อเด็ก และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ

ปั๊กนั้นมีนิสัยใจดี อ่อนโยน ไม่ก้าวร้าว เป็นมิตรกับเด็กๆ และสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ เช่น สุนัขตัวอื่นและแมว เป็นต้น สามารถเลี้ยงเจ้าย่นให้อยู่ร่วมกันกับเด็กและสมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ ได้สบายๆ ไม่มีปัญหาใดๆ

เนื่องจากความแข็งแรงของร่ายกายและฐานแน่นของปั๊ก เด็กๆ จึงสามารถเล่นกับเจ้าปั๊กได้มากกว่าและบ่อยกว่าสุนัขขนาดเล็กพันธุ์อื่นๆ ถึงแม้ว่ามันจะค่อนข้างขี้เกียจ ชอบการนอนเฉยๆ เป็นอย่างมาก แต่ในบางครั้ง มันก็มีอารมณ์ที่จะอยากวิ่งเล่น เล่นหยอกล้อ เล่นซุกซนกับเด็กๆ ในบ้าน มันจึงเป็นเพื่อนคลายเหงาให้กับเด็กๆ ได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ มันเป็นสุนัขที่ดูมึนๆ ที่ในบางครั้งมันชอบทำอะไรที่เราคาดไม่ถึง ซึ่งมันช่วยเรียกเสียงหัวเราะให้กับเด็กๆ และสมาชิกในครอบครัวได้เป็นอย่างดี

คลิปความมึนของเจ้าปั๊ก

การดูแลสุนัขพันธุ์ปั๊ก

การดูแลด้านการออกกำลังกาย

มันเป็นสุนัขพันธุ์ที่ต้องการการออกกำลังกายสักนิด คุณควรพามันออกไปเดินออกกำลังกายบ้าง วันละประมาณ 20-40 นาทีก็เพียงพอแล้ว จะเป็นการพามันออกไปเดินเล่นตามสวนสาธารณะและบริเวณบ้านก็ได้ เพื่อสุขภาพร่างกายที่ดีในระยะยาวของมัน แนะนำว่าควรเลือกช่วงเวลาในการพาสุนัขไปเดินเล่นให้ดี ไม่ควรให้เจ้าย่นไปเดินเล่นตอนกลางวัน เพราะสุนัขสายพันธุ์นี้มีหน้าสั้น ซึ่งเป็นสุนัขที่เป็นโรคลมแดด (heatstroke) ได้ง่ายกว่าสุนัขพันธุ์อื่นๆ ควรเลือกช่วงเวลาอื่นในการพาสุนัขออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น ช่วงเช้าหรือช่วงเย็น เพราะว่าเป็นช่วงเวลาที่แดดไม่แรง อากาศไม่ร้อนจนเกินไป เหมาะสมแก่การทำกิจกรรมต่างๆ นอกบ้านกับเจ้าย่น

ข้อมูลของฮีทสโตรกในสุนัข

เรื่องการดูแลขนและความสะอาด

การดูแลขนให้กับสุนัขขนสั้นอย่างเจ้านี่เป็นเรื่องที่ง่ายมาก แค่คุณนำหวีมาแปรงขนให้มันบ้างเป็นครั้งคราวก็เพียงพอแล้ว ส่วนเรื่องการดูแลความสะอาด คุณควรนำผ้าสะอาดชุบน้ำเปล่ามาเช็ดบริเวณใบหน้า รอบดวงตา ใบหู และรอยพับย่นของมันบ้าง รวมถึงมีการตัดเล็บ แปรงฟัน และอาบน้ำให้มันบ้างหางเนื้อตัวมันเริ่มสกปรก

การดูแลเรื่องการเข้าสังคมและการฝึกสอน

ถึงแม้ว่าโดยปกติมันจะมีความสามารถในการเข้าสังคมที่ดีอยู่แล้ว แต่ว่าเราก็ควรฝึกการเข้าสังคมให้มันตั้งแต่มันยังเป็นลูกสุนัข ด้วยการพามันออกไปพบปะกับคนใหม่ๆ และเพื่อนสุนัขตัวอื่น ซึ่งมันจะมีส่วนช่วยให้เจ้าตูบมีความสามารถในการอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นที่ดี แถมยังสามารถเปิดใจรับสมาชิกใหม่ในบ้านได้อย่างรวดเร็ว ส่วนเรื่องการฝึกสอน มันพร้อมที่จะเรียนรู้อยู่เสมอถ้าคุณมีรางวัลตอบแทนให้มัน ถ้าคุณสอนมันอย่างใจเย็น ไม่ใช้อารมณ์ สักวันมันก็จะสามารถเรียนรู้สิ่งที่คุณพยายามสอนได้เอง

การดูแลด้านสุขภาพโดยรวม

สุนัขสายพันธุ์นี้เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่เป็นฮีทสโตรกได้ง่าย จึงควรให้สุนัขอยู่ในที่ที่อากาศไม่ร้อน อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่มีแดดส่อง และมีน้ำดื่มมากพอ พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้สุนัขออกแรงเยอะในช่วงกลางวันที่อากาศร้อน และห้ามลืมมันไว้บนรถยนต์ร้อนๆ ในช่วงกลางวันเด็ดขาด เพื่อป้องกันการเกิดฮีทสโตรกในสุนัขในวันที่อากาศร้อนจัด

พยายามควบคุมรูปร่าง และน้ำหนักตัวของสุนัขให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเพื่อช่วยลดโอกาสการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคข้อสะโพกเสื่อม (Hip dysplasia) และโรคอ้วน (Obesity) เป็นต้น ด้วยการพาเจ้าย่นไปวิ่งเล่น ทำกิจกรรมต่างๆ นอกบ้านอย่างพอดี อีกส่วนนึงคือการควบคุมและเอาใจใส่คุณภาพปริมาณอาหารของสุนัขให้ดี ถ้าเป็นอาหารทั่วไป ก็ควรให้อาหารที่ไม่ได้ปรุงแต่งเครื่องปรุงใดๆ เช่น เนื้อไก่ เนื้อหมู ไข่ไก่ ข้าวเปล่า ผักและผลไม้ชนิดที่สุนัขทานได้ ถ้าเป็นอาหารสำหรับสุนัขก็สามารถเลือกสูตรที่เข้ากับสุนัขของตนเองได้เลย เช่น สูตรควบคุมน้ำหนัก สูตรสุนัขเล็ก เป็นต้น

10 อาหารที่สุนัขห้ามทาน

โรคภัยต่างๆ ที่อาจพบใน Pug

โรคสะบ้าเคลื่อน (Patellar Luxation): คือปัญหาสุขภาพที่สุนัขสายพันธุ์เล็ก และปั๊กมักจะเจอ วิธีการช่วยลดโอกาสการเกิดโรคนี้ในสุนัขก็คือการพามันออกไปวิ่งเล่นออกกำลังกายอย่างพอเหมาะเป็นประจำ ควบคุมน้ำหนักตัวให้เหมาะสม ควบคุมปริมาณอาหารให้เหมาะสมกับขนาดตัว และพยายามคอยระวังไม่ให้สุนัขได้รับแรกกระแทกแรงๆ ที่ข้อเข่า เช่น การตกจากที่สูง การวิ่งขึ้นลงบันไดที่แรงเกินไป
โรคระบบทางเดินหายใจผิดปกติ (Brachycephalic airway syndrome): เป็นปัญหาสุขภาพที่มักจะพบเจอในสุนัขที่มีใบหน้าสั้น อาการที่สามารถบ่งบอกว่าสุนัขอาจจะเป็นโรคนี้ คือ สุนัขหายใจเข้าออกเสียงดังผิดปกติ สุนัขดูเหนื่อยง่าย และดูมีความลำบากในการหายใจ
ปัญหาเกี่ยวกับผิวหนัง (Skin Problem): มันมีแนวโน้มที่จะมีปัญหาสุขภาพต่างๆ เกี่ยวกับผิวหนัง เนื่องจากผิวหนังของมันค่อนข้างบอบบาง การดูแลรักษาผิวของมันให้สะอาดและไม่อับชื้นจะช่วยลดโอกาสที่มันจะมีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนัง

นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่จะเจอโรคภัยอื่นๆ อีก เช่น

ต้อกระจก(Cataract): สามารถเกิดขึ้นได้ในสุนัขทุกช่วงอายุ
กระจกตาเสื่อม (Corneal Degeneration/ Dystrophy): วิธีสังเกตุก็คือ มันจะมีจุดเล็กๆ สีขาว ในกระจกตา พบได้บ่อยในสุนัขวัยชรา
โรคลมแดด (Heatstroke): เกิดจากร่างกายของสุนัขระบายความร้อนที่สูงไม่ได้
จอประสาทตาเสื่อม (Progressive Retinal Atrophy)
โรคข้อศอกเสื่อม (Elbow Dysplasia)
โรคข้อศอกเสื่อม (Elbow Dysplasia)
โรคข้อสะโพกเสื่อม (Hip dysplasia)
โรคหัดสุนัข (Canine Distemper)
โรคอ้วน (Obesity)
โรคลำไส้อักเสบ (Canine Parvo Virus)
โรคเบาหวาน (Diabetes)
ไตวาย (Kidney Failure)