สุนัขพันธุ์ปักกิ่ง (Pekingnese) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแล

สุนัขพันธุ์ปักกิ่ง
แชร์ได้เลยที่ปุ่มด้านล่าง

สุนัขพันธุ์ปักกิ่ง (Pekingnese) เป็นสุนัขที่มาจากประเทศจีน ที่มีขนตรงแผงคอที่ทำให้ดูราวกับว่ามันเป็นสิงโตขนาดจิ๋ว มาพร้อมกับดวงตากลมโต ขนยาวสลวย และหน้าตาที่น่ารัก Dog lover หลายๆ คนหลงเสน่ห์ในตัวมัน ดังนั้น มาทำความรู้จักกับมันให้มากขึ้นในบทความนี้กัน

ข้อมูลทั่วไปของเจ้าปักกิ่ง 

  • ขนาดตัว:  เล็ก
  • ความสูง: 15 – 23 ซม. วัดจากหัวไหล่
  • น้ำหนัก: 3.2 – 6.4 กิโลกรัม
  • อายุขัย:  12 – 15 ปี
  • ความยาวขน: ยาว
  • ความฉลาด:  ปานกลาง
  • ถิ่นกำเนิด:  ประเทศจีน 🇨🇳 
  • การเอาใจใส่: สูง
  • ปริมาณการผลัดขน: สูง
  • ลักษณะเฉพาะ: ปากและจมูกสั้น ตากลมโต บางตัวจะมีสีดำปริเวณปากและใบหน้า ขนยาวสลวย ตัวเล็กพอสมควร หางเต็มไปด้วยขน

ประวัติของสุนัขพันธุ์ปักกิ่ง

เพราะว่าขนที่แผงคอของมัน คนจีนจึงมีความเชื่อหนึ่งที่เชื่อว่า เจ้าปักกิ่งเป็นสิงโต ซึ่งเป็นสัตว์มงคลของจีนที่ถูกย่อขนาดลงโดยท่านพระพุทธเจ้า สุนัขสายพันธุ์นี้เป็นอีกหนึ่งสุนัขเก่าแก่ของจีนมีต้นกำเนิดตั้งแต่ 2,000 ปีที่แล้วในประเทศจีน ชื่อของมันมาจากเมืองหลวงของประเทศจีน นั่นก็คือเมืองปักกิ่งนั่นเอง สุนัขพันธุ์นี้เป็นที่นิยมของเหล่าชนชั้นสูง ขุนนางและเจ้าชายของจีนมาช้านาน ในตอนแรกสุนัขสายพันธุ์นี้จะอยู่หลังกำแพงวังเท่านั้น ยังไม่ได้มีการขายให้กับคนธรรมดาที่อยู่นอกกำแพงวัง จนถึงช่วงปี ค.ศ.1860 ซึ่งอยู่ในช่วงสงครามฝิ่น ทหารชาวอังกฤษได้ทำการบุกเข้ามาในพระราชวังฤดูร้อนซึ่งเป็นที่ประทับของเหล่าราชวงศ์ในยุคสมัยนั้น และได้พบกับเจ้าปักกิ่ง 5 ตัว ที่รอดตาย และพวกมันทั้ง 5 ตัวก็ถูกส่งตัวกลับไปที่ประเทศอังกฤษเพื่อเป็นของขวัญแก่ราชินีวิคตอเรียและเหล่าชนชั้นสูงของอังกฤษ ซึ่งท่านๆ เหล่านั้นก็โปรดปรานมันเป็นอย่างมาก แล้วมันก็เริ่มเป็นที่สนใจและเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นในประเทศอังกฤษ หลังจากนั้นที่ประเทศจีน สุนัขพันธุ์นี้ก็เริ่มได้ออกมาใช้ชีวิตที่นอกกำแพงวังเหมือนสุนัขอื่นๆ แล้ว
 
ในช่วงปี ค.ศ.1890 ได้มีการส่งสุนัขสายพันธุ์นี้ไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา มันได้รับการจดทะเบียนอย่างเป็นทางการโดย American Kennel Club ในปี ค.ศ.1906 และแล้วสุนัขสายพันธุ์นี้ก็เริ่มเป็นที่รู้จักในอเมริกาเช่นกัน ในปัจจุบันมันก็ยังเป็นสุนัขที่ได้รับความนิยมอยู่ โดยเฉพาะในบรรดาผู้ที่ชื่นชอบสุนัขตัวเล็ก ที่พกไปไหนง่าย

ลักษณะนิสัยของเจ้าปักกิ่ง

มันเป็นสุนัขที่ค่อนข้างจะเป็นมิตรกับครอบครัว น่ารัก ไม่แอคทีพเท่าไหร่ นิสัยดี มีอารมณ์ขี้อ้อนบ้างในบางครั้ง สามารถเข้ากันกับผู้คนและสัตว์ตัวอื่นๆ ได้เหมือนกัน มันเป็นสุนัขที่มีความรักเจ้าของ ชอบใช้เวลาอยู่ร่วมกับเจ้าของและสมาชิกในครอบครัว นอกจากนี้มันเป็นสุนัขที่มีความมั่นใจในตัวเอง กล้าหาญ หยิ่งทะนง และในบางครั้งจะมีความเฉี่อยชา ดื้อดึง ซึ่งทำให้ต้องใช้ความอดทนสักหน่อยเวลาจะฝึกสอนอะไรสักอย่างให้กับมัน
 
เนื่องจากว่ามันมีความตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา มันจึงเป็นสุนัขที่สามารถเฝ้าบ้านได้ เวลามันพบเจอสัตว์ตัวอื่นหรือคนแปลกหน้าที่พยายามจะเข้ามาในเขตแดนของมัน มันจะเห่าเตือนให้ผู้นั้นออกจากอาณาเขตของมัน แต่มันก็ไม่เห่าพร่ำเพรื่อ จึงเหมาะสำหรับคนไม่ชอบสุนัขที่เห่าเยอะจนเกินไป

ความหลากหลายของสีสุนัข

สีตา

เจ้าปักกิ่งสายพันธุ์แท้จะมีสีตาโทนสีดำและโทนสีน้ำตาล

สีขน

มันเป็นสุนัขที่มีหลากหลายสีให้เลือก เช่น สีน้ำตาลล้วน สีดำล้วน สีเนื้อล้วน และแบบสองสีในตัวซึ่งหายากกว่า เช่น สีขาว-ดำ, สีขาว-น้ำตาล  สุนัขบางตัวจะมีสีดำที่บริเวณปากและใบหน้า 

ความเป็นมิตรของเจ้าตูบที่มีต่อเด็ก และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ

ถ้าเป็นเด็กๆ ที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ที่มันยังเป็นลูกสุนัข ก็ไม่น่าจะมีปัญหาใดๆ ในการเลี้ยงด้วยกัน เนื่องจากว่ามันเป็นสุนัขที่มีความรักให้กับเด็กๆ ในครอบครัว ชอบใช้เวลาแต่ละวันไปกับการอยู่ด้วยกันกับสมาชิกในครอบครัว ถึงแม้ว่าในบางครั้งมันจะรักสันโดษ เฉี่อยชา ชอบอยู่คนเดียว และไม่ค่อยลุกไปเล่นกับเด็ก แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรในการเลี้ยงด้วยกัน เราควรจะกำชับเด็กสักนิดว่าไม่ให้เล่นแรงจนล้ำเส้นมันมากเกินไป แต่ถ้าเป็นเด็กที่พึ่งรู้จักเราก็ต้องให้เวลาพวกเขาในการทำความคุ้นเคยและรู้จักกันให้มากขึ้นก่อน
 
 
ถ้าเลี้ยงมันกับสัตว์ตัวอื่นตั้งแต่เด็ก มันสามารถอยู่ร่วมกับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ เช่น แมว และสุนัขตัวอื่นได้เช่นกัน  สามารถกินด้วยกับ นอนด้วยกับ ใช้ชีวิตร่วมกับสัตว์ตัวอื่นได้ แต่ถ้าเป็นสุนัข หรือสัตว์ตัวอื่นที่พึ่งเคยเจอหน้ากัน เราก็ต้องให้เวลามันค่อยๆ ทำความรู้จักและสร้างความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันก่อน ถึงจะนำมันมาเลี้ยงด้วยกัน

การดูแลสุนัขพันธุ์ปักกิ่ง 

การดูแลด้านการออกกำลังกาย

มันเป็นสุนัขสายพันธุ์ที่ต้องการการออกกำลังกายบ้างนิดหน่อย คุณควรจะมีเวลาในการพาเจ้าตูบไปเดินเล่น วิ่งเล่นนอกบ้าน หรือไม่ก็ให้มันเล่น ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับคุณและคนในครอบครัวก็ได้ เช่น เล่นบอลสุนัขกับมัน สัก 20-30 นาทีต่อวันก็เพียงพอแล้ว เพื่อช่วยปลดปล่อยพลังงานที่มีในตัวสุนัข ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดความเครียดให้สุนัข และเพื่อให้สุนัขมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ ห่างไกลจากปัญหาสุขภาพ
 

การดูแลเรื่องการเข้าสังคมและการฝึกสอน

คุณควรพามันไปทำความรู้จัก และทำกิจกรรมกับคนในครอบครัวตั้งแต่ที่มันยังเป็นลูกสุนัข เพื่อให้มันคุ้นเคยและรักผู้คนในครอบครัว รวมถึงให้มันไปพบปะกับผู้คนแปลกหน้า สุนัขตัวอื่น และสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ เพื่อฝึกทักษะในการเข้าสังคมกับผู้อื่น มีส่วนช่วยให้มันสามารถเปิดใจรับคนใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้นในตอนโต สามารถใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้ดีในตอนโต รวมถึงฝึกสอนสิ่งต่างๆ ตั้งแต่มันยังเล็ก เพราะโตมามัน อาจจะสอนยากนิดนึง
 

เรื่องการดูแลขนและความสะอาด

คุณควรจะดูแลเรื่องขนให้มันบ้างเนื่องจากว่ามันเป็นสุนัขที่มีขนสองชั้น   คุณควรแปรงขนให้มันสักอาทิตย์ละครั้ง เพื่อให้ขนของมันไม่พันกันเป็นก้อนและเพื่อเอาขนที่ค้างอยู่ในตัวสุนัขออกมา ในช่วงที่มันผลัดขน เราก็ควรแปรงขนมันให้บ่อยขึ้นเพื่อกำจัดขนที่ค้างอยู่ในตัวมันออกมาให้หมด รวมถึงมีการอาบน้ำ เล็มขนอุ้งเท้า และตัดเล็บให้ตัวสุนัขบ้างเป็นครั้งคราวหากว่าตัวมันเริ่มสกปรก ส่วนรอบๆ ดวงตาก็ใช้สำลีชุบกับน้ำยาทำความสะอาดตาสุนัขหรือไม่ก็น้ำเปล่า แล้วก็ทำการเช็ดรอบๆ ดวงตาอย่างเบามือ
 

การดูแลเรื่องสุขภาพโดยรวม

พวกเราอยู่ในประเทศไทยเมืองร้อน เราก็ควรจะระวังเรื่องฮีทสโตรกในสุนัขบ้าง ยิ่งเป็นสุนัขหน้าสั้นที่เป็นลมแดดง่ายอย่างเจ้าปักกิ่ง ยิ่งควรระวังเป็นพิเศษ เราควรให้สุนัขอยู่ในที่ที่อากาศไม่ร้อนจนเกินไป มีอากาศถ่ายเท ไม่มีแดดส่องลงมาตรงๆ มีน้ำดื่มมากพอ พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้สุนัขทำกิจกรรม ออกแรงเยอะเกินไปในช่วงกลางวัน และห้ามลืมสุนัขทิ้งไว้บนรถที่ดับแล้วในช่วงกลางวันเป็นอันขาด

พยายามควบคุมรูปร่าง และน้ำหนักตัวของสุนัขให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเพื่อช่วยลดโอกาสการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคอ้วน (Obesity) ด้วยการพาเจ้าตูบไปทำกิจกรรมและออกกำลังกายบ้าง อีกส่วนนึงคือการควบคุม เอาใจใส่คุณภาพและปริมาณอาหารของสุนัขให้ดี ถ้าเป็นอาหารทั่วไป ก็ควรให้อาหารที่ดี มีประโยชน์ เช่น  เนื้อไก่ เนื้อหมู ตับหมู ข้าวเปล่า ผัก ไข่ ที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งรสชาติใดๆ มาคลุกรวมกัน และผลไม้ชนิดที่สุนัขสามารถทานได้ในปริมาณที่เหมาะสม  ถ้าเป็นอาหารสำหรับสุนัขก็สามารถเลือกสูตรที่เหมาะสมกับสุนัขของคุณได้เลย เช่น สูตรสุนัขเล็ก ขนมที่มนุษย์ทานควรให้แต่น้อย หรือไม่ให้เลยจะดีกว่า

โรคภัยต่างๆ ที่อาจพบใน Pekingnese

  • โรคสะบ้าเคลื่อน (Patellar Luxation): คือโรคภัยที่สุนัขสายพันธุ์นี้และสุนัขสายพันธุ์เล็กตัวอื่นๆ มักจะเจอ มันเป็นโรคที่สามารถถ่ายทอดได้ทางกรรมพันธุ์  วิธีการช่วยลดโอกาสการเกิดโรคนี้ในสุนัขก็คือเราต้องควบคุมน้ำหนักตัวของมันให้เหมาะสม ด้วยการควบคุมปริมาณอาหารให้เหมาะสมกับขนาดตัว หมั่นพามันไปออกกำลังกาย และหลีกเลี่ยงไม่ให้สุนัขได้รับแรกกระแทกแรงๆ ที่ข้อเข่า เช่น การตกจากที่สูง 
  • โรคระบบทางเดินหายใจผิดปกติ (Brachycephalic airway syndrome): เป็นปัญหาสุขภาพที่มักจะพบเจอในสุนัขที่มีใบหน้าสั้น อาการที่สามารถบ่งบอกว่าสุนัขอาจจะเป็นโรคนี้ คือ สุนัขหายใจเข้าออกเสียงดังผิดปกติ สุนัขดูเหนื่อยง่าย นอนกรนเสียงดัง และดูมีความลำบากในการหายใจ ซึ่งต้องได้รับการรักษาจากสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  • โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท (Intervertebral Disc Disease): เป็นปัญหาสุขภาพที่มักจะเจอในสุนัขที่ลำตัวยาว อาการที่สามารถสังเกตได้ คือ สุนัขดูอ่อนแรง ไม่ค่อยเคลื่อนไหว และหันหัวลำบาก
 

นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่จะเจอโรคภัยอื่นๆ อีก เช่น

  • ต้อกระจก(Cataract): สามารถเกิดขึ้นได้ในสุนัขทุกช่วงอายุ
  • กระจกตาเสื่อม (Corneal Degeneration/ Dystrophy): วิธีสังเกตก็คือ มันจะมีจุดเล็กๆ สีขาว ในกระจกตา พบได้บ่อยในสุนัขวัยชรา
  • โรคลมแดด (Heatstroke): เกิดจากร่างกายของสุนัขระบายความร้อนที่สูงไม่ได้
  • จอประสาทตาเสื่อม (Progressive Retinal Atrophy)
  • โรคหลอดลมอักเสบ (Bronchitis)
  • โรคผิวหนังอักเสบเป็นหนองในสุนัข (Pyoderma)
  • ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานต่ำ (Hypothyroidism)
  • โรคลำไส้อักเสบ (Canine Parvo Virus)
  • โรคพยาธิหนอนหัวใจ (Heartworm)
  • ไตวาย (Kidney Failure)
  • กลากเกลื้อน (Ringworm)

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับเจ้า  Pekingnese

  • เป็นสุนัขที่รักเจ้าของและครอบครัว
  • ในบางตัวอาจจะมีความรักสันโดษ ชอบอยู่เฉยๆ
  • มีมุมขี้อ้อนบ้างบางเวลา
  • เป็นสุนัขที่มีขนสองชั้น ในช่วงผลัดขน ต้องเตรียมตัวรับมือนิดนึง
  • ต้องการการออกกำลังกายเล็กน้อย
  • ควรได้รับการฝึกสอนในด้านต่างๆ ตั้งแต่ยังเด็ก

Pekingnese เหมาะกับผู้ที่

  • ชอบสุนัขที่ไม่ซุกซนจนเกินไป
  • มีความอดทนในการฝึกสอนมันมากพอ
  • มีเวลาดูแลมันบ้าง
  • ชอบสุนัขขนาดเล็ก
  • มีเด็กๆ ภายในบ้าน
  • ชอบสุนัขที่ไม่เห่าพร่ำเพรื่อ

คำถามที่พบบ่อย

  • เลี้ยงในหอพักได้ไหม: ได้สบายๆ
  • ดุไหม: ไม่ดุ
  • เลี้ยงกับแมวได้ไหม: สามารถเลี้ยงกับแมวได้
  • เลี้ยงกับเด็กได้ไหม: สามารถเลี้ยงกับเด็กได้ 
  • เฝ้าบ้านได้ไหม: พอเห่าเฝ้าบ้านได้
  • เหมาะกับผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ไหม: ไม่ค่อยเหมาะกับผู้ที่เป็นภูมิแพ้

เรื่องเจ้าตูบที่คุณอาจจะชอบ

 Banner Image