นกหงส์หยก (Parakeet) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลนกตัวจิ๋ว

นกหงส์หยก
แชร์ได้เลยที่ปุ่มด้านล่าง

นกหงส์หยก (Parakeet)  มันเป็นนกตัวเล็กจากประเทศออสเตรเลียที่มีสีสันสดใส มาพร้อมกับความน่ารักน่าเอ็นดูซึ่งทำให้ใครหลายๆ คนอยากที่จะรับมันเข้ามาเป็นสมาชิกในบ้าน มาทำความรู้จักกับมันให้มากขึ้น

เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจได้เลย

ข้อมูลทั่วไปของนกหงส์หยก

  • น้ำหนัก: 25 – 38 กรัม
  • อายุขัย: 6 – 12 ปี หรือมากกว่านี้
  • ความฉลาด: ฉลาดพอสมควร
  • ความยาวตัว: ราวๆ 18 ซม.
  • ถิ่นกำเนิด: ประเทศออสเตรเลีย 🇦🇺
  • ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Melopsittacus undulatus
  • ลักษณะเฉพาะ: หางยาว จะงอยปากค่อนข้างเล็ก หน้าสั้น มีดวงตากลมๆ ขนาดเล็ก สีสันของขนดูสดใส ที่ปีกและลำคอมันจะมีลายพร้อยสีดำเฉพาะตัวที่สวยงาม หางค่อนข้างยาว

ประวัติของนกหงส์หยก

นกหงษ์หยก หรือที่เรียกกันว่าพาราคีท (Parakeet) หรือบัดด์จี้ (Budgie) มันมีต้นกำเนิดที่ประเทศออสเตรเลีย ผู้เชี่ยวชาญบางท่านเชื่อกันว่านกสายพันธุ์นี้มีอยู่ตั้งแต่เมื่อหลายหมื่นปีที่แล้ว มันมักจะอยู่ร่วมกับเป็นฝูงและออกหาอาหารในช่วงกลางวัน มันเริ่มถูกนำมาเลี้ยงในปี ค.ศ. 1840 มีนักธรรมชาติวิทยาชาวอังกฤษท่านหนึ่งที่ชื่อว่า John Gould ได้นำนกสายพันธุ์นี้จากออสเตรเลียออกไปยังยุโรป และก็มีการเพาะพันธุ์มันในยุโรปมากขึ้นเรื่อยๆ และส่งไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย มันเริ่มจะได้รับความนิยมในอเมริกาในช่วงปี ค.ศ. 1950 และก็ยังคงเป็นนกเลี้ยงยอดนิยมจนถึงในปัจจุบัน
 

ลักษณะนิสัยของนกหงส์หยก

มันมักจะเป็นนกที่มีความอ่อนโยน อ่อนหวาน น่ารัก เชื่อง และเป็นมิตร โดยเฉพาะนกที่ถูกฝึกให้เข้าสังคมกับมนุษย์ตั้งแต่ยังเล็ก มันมีความผูกพันกับเจ้าของสูง เนื่องจากว่ามันเป็นนกที่อยู่รวมกันเป็นฝูง มันจึงต้องการการเข้าสังคม ถ้าหากคุณไม่มีเวลามาอยู่กับมันมากพอ มันก็อาจจะทำให้นกหดหู่ ดื้อรั้น และอาจจะมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมได้ แต่ถ้าเลี้ยงมันเป็นคู่กับนกตัวอื่น มันก็อาจจะสนใจคู่ของมันมากกว่าเจ้าของ แต่ถ้าเรามีเวลามามีปฏิสัมพันธ์กับมันบ้าง มันก็ยังคงผูกพันกับคุณอยู่ดี
 

การพูดคุยและส่งเสียง

เรื่องการส่งเสียง มันมักจะส่งเสียงพูดคุยตามประสานก ซึ่งบางตัวเสียงจะไม่ค่อยดัง แต่บางตัวจะเสียงดังและแหลมมากพอสมควร ส่วนเรื่องการเลียนแบบเสียง มันสามารถเลียนแบบคำพูดต่างๆ ของมนุษย์ได้มากถึง 1,700 คำ โดยเฉพาะนกตัวผู้ มันสามารถพูดได้ชัดเจนพอสมควร และมันสามารถถอดแบบได้กระทั่งสำเนียงเฉพาะของเจ้าของอีกด้วย นอกจากเสียงคนแล้ว มันยังสามารถเลียนแบบเสียงธรรมชาติรอบตัว เช่น เสียงเรียกเข้ามือถือ ได้อีกด้วย

ลักษณะภายนอกและความหลากหลายของนก

สีและลักษณะภายนอก

นกหงส์หยกมักจะมีหลายสีประกอบอยู่ในตัว ซึ่งมักจะมีสีหลักที่เด่นชัดที่สุดหนึ่งสี เช่น สีฟ้าคราม, ฟ้าอ่อน, ฟ้าเข้ม, มิ้นท์, เขียวอ่อน, เขียวเข้ม, เหลือง, เทา, ขาว, และอื่นๆ โดยมักจะมีลายพร้อมสีดำไม่มากก็น้อยที่บริเวณปีกหรือส่วนหัว
นกหงส์หยก

การดูแลนกหงส์หยก

การดูแลด้านอาหารการกิน

เราสามารถซื้ออาหารเม็ดสำหรับนกให้น้องทานได้เลย โดยอาหารเม็ดสำหรับนกสามารถอยู่ที่สัดส่วนประมาณ 50 – 75% ของปริมาณอาหารทั้งหมด แนะนำว่าให้เป็นสูตรที่มีส่วนผสมของธัญพืชและผลไม้อบแห้ง และอีกราวๆ 25% สามารถเป็นอาหารสดชนิดต่างๆ ให้น้องทานเพื่อเสริมสารอาหาร อาหารสดดังกล่าวสามารถเป็นผัก ผลไม้ หรือธัญพืชชนิดต่างๆ ก็ได้ เช่น เมล็ดทานตะวัน, มะละกอ, แอปเปิ้ล (เอาเมล็ดออกแล้ว), คะน้า, ผักโขม, แครอท และอื่นๆ แต่ทั้งนี้ สัดส่วนอาหารเหล่านี้สามารถปรับเปลี่ยนได้แล้วแต่ความเหมาะสม ถ้าน้องทานอาหารสดเหล่านี้ไม่หมดก็ควรเอาออกมาเปลี่ยน ไม่ควรให้น้องทานอาหารค้างคืนที่อาจจะบูดแล้ว ถ้าน้องทานอาหารบูดเหล่านั้นเข้าไป น้องอาจจะป่วยได้ (ถ้าเป็นลูกนกต้องให้อาหารชงสำหรับลูกป้อนโดยเฉพาะก่อน)

การดูแลขนและความสะอาด

นกเป็นสัตว์ที่จะคอยจัดแต่งขนและทำความสะอาดตัวเองอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องกังวลความสะอาดของน้องมากนัก แต่ถ้าหากว่าน้องเริ่มสกปรกและส่งกลิ่นเหม็น เราสามารถนำกะละมังหรือถาดที่มีน้ำตื้นๆ ให้น้องเล่นและอาบน้ำตัวเอง หรือจะเป็นการเปิดก๊อกน้ำเบาๆ ให้น้องอาบน้ำตัวเองก็ได้ 
 

การดูแลเรื่องที่อยู่อาศัย

ถึงแม้ว่ามันจะมีขนาดตัวที่เล็กมาก แต่กรงที่อยู่อาศัยของนกนั้นไม่ควรมีขนาดที่เล็กมากเกินไป กรงควรจะมีพื้นมากพอที่จะให้นกอยู่ได้สบายๆ ที่ที่ตั้งกรงของน้องควรไม่มีแดดแรงส่องถึง ไม่อับชื้น และมีอากาศถ่ายเท และผู้เลี้ยงต้องคอยดูแลความสะอาดของกรงนกอย่างสม่ำเสมอ ในกรงควรมีคอนให้นกเกาะ และควรนำของเล่นสำหรับนกชนิดต่างๆ เช่น ของเล่นที่ทำจากไม้ ชิงช้านก และอื่นๆ เข้าไปให้นกเล่นแก้เบื่อ

การออกกำลังกายและอื่นๆ

เพื่อสุขภาพที่ดี นกก็ต้องการการออกกำลังกายเหมือนสัตว์ชนิดอื่นๆ เช่นกัน คุณสามารถนำน้องออกมาเล่นในห้องที่ปลอดภัยข้างนอกกรงบ้าง ประมาณวันละหนึ่งชั่วโมงหรือมากกว่านี้ก็ดี เพื่อให้มันได้ออกมาบินเล่นเปิดโลกข้างนอกกรง และฝึกให้มีปฏิสัมพันธ์กับคุณและผู้คนในบ้านบ้าง ซึ่งมีส่วนช่วยให้มันเชื่อง ไม่เหงา ไม่หดหู่ ไม่ดื้อรั้น และไม่เก็บกด หรืออาจจะพามันไปบินในที่ที่ปลอดภัยบ้างก็ได้ แต่ทั้งนี้ ควรจะใส่เอี๊ยมเวลาพามันไปบินเพื่อป้องกันไม่ให้นกบินหนีไป
 

ปัญหาสุขภาพที่อาจพบใน Parakeet

  • โรคซิตาโคซิส (Psittacosis): หรือที่เรียกกันว่า “โรคไข้นกแก้ว” มันเป็นโรคที่สามารถติดจากนกและสัตว์ปีกอื่นๆ สู่คนผ่านการหายใจ ผู้ที่ติดเชื้อนี้จะมีอาการเป็นไข้ ตัวสั่น ปวดศีรษะ นกที่อาจจะติดเชื้อไวรัสนี้จะมีอาการเซื่องซึม ถ่ายบ่อย ไม่ค่อยทานอาหาร และมูลนกจะมีสีแปลกไปจากปกติ
  • โรคจะงอยปากและขน (Psittacine beak and feather disease): เป็นโรคที่เกิดจากไวรัสที่สามารถติดต่อกันได้ อาการที่สามารถสังเกตได้จากภายนอก คือ นกขนร่วงเยอะ จะงอยปากผิดรูปและแตก เซื่องซึม บินไม่ค่อยได้ ซึ่งมันอาจจะส่งผลให้เกิดอาการแทรกซ้อนอย่างอื่น ถ้านกคุณมีอาการเหล่านี้ ให้นำน้องไปพบสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมกับแยกนกตัวที่แข็งแรงออกจากกัน เพื่อป้องกันการติดต่อของโรค
  • โรคกระเพาะขยาย (Proventricular Dilatation Disease): อาการที่สามารถสังเกตได้คือ นกจะตัวผอมลง น้ำหนักลดอย่างต่อเนื่อง เซื่องซึม และอาเจียน แต่นกบางตัวอาจจะไม่แสดงอาการออกมาให้เห็นจนกระทั่งเริ่มอาการหนักแล้ว
  • ไรในนก (Bird Mites): ไรในนกนั้นร้ายกว่าที่คุณคิด เพราะมันอาจจะทำให้นกของคุณเสียชีวิตได้ และยังสามารถสร้างความรำคาญให้กับมนุษย์อีกด้วย อาการที่สามารถสังเกตได้ คือ นกจะน้ำหนักตัวลดลง ขนยุ่ง และน้องจะกัดขนและตกแต่งขนบ่อยผิดปกติ ขนร่วง และผิวหนังเป็นแผล วิธีป้องกันเบื้องต้น คือ หมั่นรักษาความสะอาดกรงของน้อง ไม่ให้กรงของน้องมีความอับชื้น และไม่ให้น้องเข้าใกล้นกจากธรรมชาติตัวอื่น โดยเฉพาะนกพิราบ ที่อาจจะมีไรนกติดมาด้วย

ผู้เลี้ยงควรหมั่นสังเกตนกของท่าน ว่ามีอาการผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะอาการผิดปกติเล็กๆ ก็สามารถเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงโรคภัยบางอย่าง และผู้เลี้ยงก็ไม่ควรมองข้ามสัญญาณที่อาจจะบ่งบอกโรคเหล่านั้น เผื่อน้องมีปัญหาสุขภาพจะได้รักษาได้ทันท่วงที

Parakeet เหมาะกับผู้ที่

  • มีเวลาอยู่ร่วมกัน ให้ความสนใจ และดูแลมันบ้าง
  • มีงบประมาณในการเลี้ยงนกไม่มากนัก
  • มีพื้นที่ในการเลี้ยงนกไม่มากนัก
  • ชอบนกที่เชื่อง อ่อนหวาน เป็นมิตร
  • ชอบนกตัวเล็ก

คำถามที่พบบ่อย

  • น้องชอบให้ลูบจับไหม: ถ้าเป็นนกที่เชื่องแล้ว จะสามารถลูบจับได้ตามปกติ
  • ฝึกน้องให้เชื่องยังไง: อยู่กับน้อง เรียกชื่อน้อง พูดคุยกับน้องตั้งแต่ยังเล็กเพื่อให้น้องจำคุณได้ และอาจจะใช้อาหารมาเป็นตัวล่อให้นกมาทานอาหารบนฝ่ามือของคุณเพื่อสร้างความคุ้นเคย 
  • มีน้องขายในไทยไหม: มีขายทั่วไปในไทย

เรื่องนกๆ ที่คุณอาจจะชอบ

 Banner Image