อ็อกซี่แคท (Ocicat) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลแมว

แชร์ได้เลยที่ปุ่มด้านล่าง

อ็อกซี่แคท (Ocicat) มันเป็นสายพันธุ์แมวจากสหรัฐอเมริกาที่ดูคล้ายคลึงกับแมวป่า แต่ความจริงแล้วมันเป็นแมวบ้านที่มีความน่ารักและเป็นมิตรมากๆ มาทำความรู้จักกับมันให้มากขึ้นในบทความนี้กัน

เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจได้เลย

ข้อมูลทั่วไป
ประวัติ
ลักษณะนิสัยและความเป็นมิตร
ความหลากหลายและสีตัวแมว
การดูแลแมว
โรคภัยต่างๆ ที่อาจพบ
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับมัน
อ็อกซี่แคท เหมาะกับผู้ที่
คำถามที่พบเจอบ่อย

ข้อมูลทั่วไปของอ็อกซี่แคท

ขนาดตัว: ปานกลาง
ความสูง: 23-28 ซม. วัดจากไหล่
น้ำหนัก: ตัวเมีย: 2.7 – 4 กก. ตัวผู้ 4 – 6.5 กก.
อายุขัย: 15 – 18 ปี
ความยาวขน: สั้น
ความฉลาด: ค่อนข้างฉลาด
ถิ่นกำเนิด: ประเทศสหรัฐอเมริกา 🇺🇸
ความต้องการการเอาใจใส่: ปานกลาง
ลักษณะเฉพาะ: หูตั้ง ดวงตากลมโต ที่ตัวมักจะมีลายที่แลดูเหมือนลายของเสือดาว

ประวัติของอ็อกซี่แคท

แมว Ocicat นั้นมีต้นกำเนิดที่ประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงปี ค.ศ. 1964 มันเกิดจากการที่มีผู้เพาะพันธุ์แมวท่านหนึ่งที่ชื่อว่า Virginia Daly เธอได้ทำการทดลองผสมแมวข้ามสายพันธุ์ระหว่างแมววิเชียรมาศของไทย กับแมว Abyssinian รวมถึงมีแมวบางสายพันธุ์ที่มีลายจุดบนตัวในคอกที่สอง การพยายามที่จะพัฒนาแมวสายพันธุ์ใหม่นี้ดำเนินการไปหลายปี จนได้แมวเพศเมียตัวหนึ่งที่มีชื่อว่า Tonga ที่มีลักษณะภายนอกและลวดลายที่คล้ายคลึงกับแมวป่า

ในเวลาต่อมา เจ้าแมวที่ชื่อว่า Tonga ถูกนำมาผสมข้ามสายพันธุ์ร่วมกับแมวพันธุ์วิเชียรมาศ, Abyssinian, และ American Shorthair อีกครั้ง จนมักออกมาเป็นพ่อพันธุ์แมวตัวแรกของสายพันธุ์ Ocicat หลังจากนั้นก็ได้มีการเพาะพันธุ์แมว Ocicat อย่างจริงจัง จนในที่สุด มันก็ได้รับการจดทะเบียนอย่างเป็นทางการโดยองค์กร Cat Fanciers’ Association ในปี ค.ศ.1966 และมันยังได้เป็นแชมป์ในการประกวดแมวในปี ค.ศ. 1986 โดยองค์กร International Cat Association (TICA) อีกด้วย

ลักษณะนิสัยของอ็อกซี่แคท และความเป็นมิตร

มันเป็นแมวที่มีความขี้เล่น ชอบการทำกิจกรรมต่างๆ ที่ใช้พลังงาน มันเป็นแมวที่มีความเป็นมิตรต่อคนแปลกหน้าและสัตว์เลี้ยงตัวอื่น สามารถเข้ากันกับผู้ที่พึ่งเคยจะพบกันได้ไว แต่แมวบางตัวก็อาจจะมีบุคลิกที่ดูขี้อายบ้าง มันจะเป็นมิตรกับเจ้าของและผู้คนในครอบครัวมากเป็นพิเศษ จะสังเกตได้ว่าแมวหลายๆ ตัว ชอบที่จะเดินตามเจ้าของที่มันรักไปทุกที่ มันสามารถอยู่ตัวเดียวได้เช่นกัน แต่ว่ามันไม่ชอบการถูกทิ้งให้อยู่ตัวเดียวเป็นเวลานาน

นอกจากนี้มันยังเป็นแมวที่มีความฉลาดพอตัว สามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้ไวพอสมควร คุณสามารถนำมันมาสอนให้นั่งลง และขอมือได้อย่างง่ายดาย

คลิปความน่ารักของมัน

ความหลากหลายของสีแมว

สีตา

สามารถเป็นตาสีอะไรก็ได้นอกจากสีฟ้า ที่พบเจอบ่อยๆ คือสีเหลือง

สีขน

จากการระบุโดยองค์กร GCCF มันมีสีทั้งหมด 12 สี โดยสีขนที่สามารถพบเจอได้บ่อยๆ จะมี

สีช็อกโกแลต (Chocolate)
สีน้ำตาลอ่อน (Tawny)
สีน้ำตาลเข้ม หรือสีอบเชย (Cinnamon)
สีน้ำเงิน (Blue)
สีน้ำตาลอมเหลืองอ่อน (Fawn)
สีลาเวนเดอร์ (Lavender)
และสีอื่นๆ ที่มีสีเงินเป็นสีหลักบนตัว

รูปตัวอย่างสีและลายของมัน

การดูแลอ็อกซี่แคท

การดูแลด้านการออกกำลังกาย

ถึงแม้ว่าแมวจะเป็นสัตว์ที่ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายมากมายเหมือนสุนัข แต่ว่ามันก็ควรออกกำลังกายบ้างเป็นครั้งคราว ผู้เชี่ยวชาญด้านแมวหลายท่านแนะนำว่ามันควรได้รับการออกกำลังกายประมาณ 30 นาทีต่อวัน เราจึงควรกระตุ้นให้มันได้ใช้พลังงานบ้าง จะเป็นการซื้อเสาฝนเล็บมาให้มันลับเล็บเล่น เพื่อช่วยให้แมวรู้สึกผ่อนคลาย ได้ยืดส่วนต่างๆ ของร่างกาย ได้ออกกำลังกาย และช่วยลดโอกาสการเกิดรอยขีดข่วนบนเฟอร์นิเจอร์ที่บ้านของคุณ หรือจะเป็นการใช้ไม้ล่อแมว ของเล่นแมว หรือจะเป็นเลเซอร์ล่อแมวไปหยอกล้อกับเจ้าเหมียวก็ได้ ให้มันได้วิ่งออกแรงไล่ตะปบสิ่งเหล่านั้น หรือถ้าคุณสะดวก คุณสามารถจูงมันไปเดินเล่นออกกำลังกายนอกบ้านบ้างเป็นครั้งคราว มันมีส่วนช่วยให้แมวมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง อยู่กับเราไปได้นานๆ

เรื่องการดูแลขนและความสะอาด

เนื่องจากว่ามันเป็นแมวที่ขนสั้น การดูแลขนให้มันจึงเป็นเรื่องง่าย แค่นำแปรงมาแปรงขนให้มัน ประมาณ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อช่วยกำจัดขนตายที่อยู่ในตัวแมวออกมาให้หมด ในช่วงที่มันผลัดขนก็ควรแปรงบ่อยกว่าปกติ ถึงแม้ว่าส่วนมากแมวจะใช้เวลาในการทำความสะอาดตัวเองได้มากถึง 50% ของเวลาที่มันตื่น แต่ว่าเราก็ควรช่วยมันทำความสะอาดร่างกายบ้างหากมันเริ่มสกปรกมอมแมมมากจริงๆ ด้วยการทำความสะอาดใบหน้า รอบบริเวณดวงตา ใบหู ตัดเล็บ และอาจจะมีการอาบน้ำให้มันบ้างหากจำเป็น รวมถึงคอยทำความสะอาด ดูดฝุ่นบริเวณที่น้องเหมียวอาศัยอยู่ และพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้มันไปเดินเล่นแถวพงหญ้ามากเกินไป เพื่อช่วยลดโอกาสการเกิดหมัดในแมว

การดูแลเรื่องสุขภาพโดยรวม

ถึงแม้แมวจะมีโอกาสเป็นโรคลมแดดน้อยกว่าสุนัข แต่เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าอากาศในประเทศไทยร้อนแผดเผามากแค่ไหน โดยเฉพาะในหน้าร้อน เราจึงควรระวังเรื่องโรคลมแดดในแมวไว้บ้าง วิธีป้องกันเบื้องต้น คือ เราควรให้แมวอยู่ในที่ที่อากาศไม่ร้อน ไม่อบอ้าว ไม่มีแดดส่องลงมาโดนแมวตรงๆ มีอากาศถ่ายเท มีน้ำดื่มให้มันมากพอ และไม่ทิ้งมันไว้บนรถยนต์ร้อนๆ หากคุณชอบพามันไปเดินเล่นนอกบ้าน ก็ควรเลือกช่วงเวลาที่แดดไม่แรง

ความรู้ฮีทสโตรกในแมว

คอยควบคุมรูปร่าง และน้ำหนักตัวของแมวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานอยู่เสมอ เพื่อช่วยลดโอกาสการเกิดโรคต่างที่เกี่ยวกับน้ำหนักตัว ด้วยการให้เจ้าเหมียวได้ทำกิจกรรมต่างๆ ที่ได้ออกแรงบ้าง อีกส่วนนึงคือการควบคุม เอาใจใส่คุณภาพและปริมาณอาหารของแมวให้ดี เลือกประเภทอาหารที่เหมาะสมกับตัวแมว จะเป็นการทานอาหารแบบบาร์ฟ อาหารปกติทั่วไป หรือจะเป็นอาหารแบบเม็ดหรือแบบเปียกสำหรับแมวก็ได้ ถ้าเป็นอาหารทั่วไปก็ควรเป็นอาหารที่ดี มีประโยชน์ เช่น ปลาทู เครื่องในไก่ ข้าวเปล่า ผักและผลไม้ที่แมวทานได้ โดยไม่ใส่เกลือหรือเครื่องปรุงใดๆ เพิ่มเติม ในปริมาณที่เหมาะสมกับขนาดตัวของมัน ถ้าเป็นอาหารสำหรับแมวก็ให้ลองเลือกสูตรและยี่ห้อที่เหมาะกับแมวของคุณ เช่น สูตรแคลอรี่ต่ำ หากแมวมีอาการแพ้อาหารก็ให้ลองเปลี่ยนยี่ห้อหรือประเภทของอาหารดู ประกอบกับการขอคำแนะนำจากสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม

วิธีคำนวนปริมาณการให้อาหารแมว

โรคภัยต่างๆ ที่อาจพบใน Ocicat

ปัญหาเกี่ยวกับช่องปากละฟัน (Dental and Gum Issues): โดยอาการที่สามารถสังเกตได้ นั่นคือแมวจะมีกลิ่นปากที่แรง ไม่ค่อยทานข้าว น้ำลายไหล และสีเหงือกผิดปกติ เราสามารถช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคนี้ให้เจ้าเหมียวด้สนการหมั่นดูแลทำความสะอาดช่องปากให้แมว โดยการแปรงฟันให้มันด้วยยาสีฟันสำหรับแมวเป็นครั้งคราว
โรคกล้ามเนื้อหัวใจหนาผิดปกติ (Hypertrophic cardiomyopathy): อาการที่สามารถบ่งบอกว่าแมวอาจจะเป็นโรคนี้ คือการที่แมวหายใจไม่ค่อยออก เบื่ออาหาร หัวใจเต้นผิดปกติ อาเจียน และซึมเศร้า แต่ว่าแมวบางตัวอาจจะไม่แสดงอาการป่วยที่สามารถสังเกตุได้ออกมาให้เห็นเลย จึงควรพามันไปตรวจสุขภาพบ้างเป็นครั้งคราว