โนวา สก๊อตเทีย ดั๊ก โทริ่ง รีทริฟเวอร์ (Nova Scotia Duck Tolling Retriever)

Nova Scotia Duck Tolling Retriever
แชร์ได้เลยที่ปุ่มด้านล่าง

โนวา สก๊อตเทีย ดั๊ก โทริ่ง รีทริฟเวอร์ (Nova Scotia Duck Tolling Retriever) มันเป็นสายพันธุ์สุนัขจากประเทศแคนาดา ที่มีขนยาวสลวยสีแดงเงางามซึ่งดูน่าสัมผัสมากๆ ชื่อของมันยาวซะเหลือเกิน ขออนุญาตเรียกสั้นๆ ว่าเจ้าโทเลอร์ (Toller) ก็แล้วกัน มาทำความรู้จักกับมันให้มากขึ้นในบทความนี้กันเถอะ

ข้อมูลทั่วไปของสุนัขสายพันธุ์นี้

  • ขนาดตัว: ปานกลาง
  • ความสูงจากไหล่: ตัวเมีย 42 – 51 ซม.  ตัวผู้ 45 – 55 ซม.
  • น้ำหนัก: ตัวเมีย 17 – 20 กก.  ตัวผู้ 20 – 24 กก.
  • อายุขัย: 10 – 14 ปี
  • ความยาวขน: ยาว
  • ความฉลาด: ฉลาดพอสมควร 
  • ถิ่นกำเนิด: ประเทศแคนาดา 🇨🇦
  • ความต้องการการเอาใจใส่: สูง
  • ปริมาณการผลัดขน: ปานกลางถึงสูง
  • ลักษณะเฉพาะ: รูปร่างสมส่วน ขนสีน้ำตาลแดงที่มีความเงางาม ใบหูพับลงขนาดใหญ่ มักมีขนสีขาวบริเวณอก

ประวัติของเจ้า Toller

สุนัขสายพันธุ์นี้ได้รับการพัฒนาขึ้นมาในช่วงศตวรรษที่ 19 ในเมืองโนวาสโกเซีย (Nova Scotia) ที่ตั้งอยู่ในประเทศแคนาดา ในปัจจุบันยังไม่ทราบเป็นที่แน่ชัดว่ามันเกิดขึ้นจากสุนัขสายพันธุ์ไหน แต่ผู้เชี่ยวชาญบางท่านคาดว่ามันเกิดจากการที่ชาวแคนาดานำสุนัขพันธุ์โกลเด้น (Golden Retriever), ค็อกเกอร์ สแปเนียล (Cocker Spaniel), ไอริชเซตเตอร์ (Irish Setter), และสุนัขตัวอื่นๆ มาผสมพันธุ์เข้าด้วยกัน จนกลายมาเป็นสุนัขขนสีแดงขนาดปานกลางอย่าง Nova Scotia Duck Tolling Retriever หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่าเจ้าโทเลอร์ (Toller)
 
ในอดีต ชาวแคนาดานิยมใช้มันเพื่อช่วยในการล่านกเป็ดน้ำ โดยวิธีการในการล่านกเหล่านี้จะค่อนข้างแยบยล โดยเจ้าของของสุนัขจะซุ่มอยู่ในมุมลับสายตาเพื่อรอนกน้ำ แล้วทำการปาลูกบอลหรือกิ่งไม้ลงไปในบริเวณน้ำตื้นๆ ใกล้ชายฝั่ง เพื่อให้สุนัขวิ่งไปคาบสิ่งของเหล่านี้ และด้วยขนสีแดงและขนบริเวณอกที่มีสีขาว ประกอบกับการที่ผิวน้ำมีการกระเพื่อมจากการละเล่นของสุนัข นกเป็ดน้ำเหล่านี้ก็มักจะเกิดความสงสัยและว่ายน้ำมาดูใกล้ๆ เพื่อสำรวจ แล้วคนที่ซุ่มอยู่ก็จะทำการยิงเพื่อสังหารนกเหล่านี้ แล้วสุนัขก็จะคาบนกเหล่านี้ก็มาให้เจ้าของของมัน
 
มันถูกส่งตัวไปยังประเทศต่างๆ ในยุโรป รวมถึงประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย จึงทำให้มันเริ่มเป็นที่สนใจของผู้คน และทำให้เกิดการเพาะพันธุ์มันให้มีจำนวนมากขึ้นที่ประเทศเหล่านี้ จนในที่สุด มันก็ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากองค์กร American kennel club (AKC) ในปี ค.ศ. 2003 ส่วนในยุคปัจจุบัน มันกลายเป็นเพื่อนคู่ใจของคนรักเจ้าตูบหลายๆ ครอบครัวในต่างประเทศ แต่ในไทยอาจจะยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักกัน

ลักษณะนิสัยของเจ้า Toller

มันมีความใจดี เชื่อฟัง อ่อนโยน และรักใคร่ผู้คนในครอบครัวเป็นอย่างมาก จึงทำให้มันมักจะเป็นที่รักของคนที่อยู่รอบตัว มันยังเป็นสุนัขที่มีความขี้เล่น กระฉับกระเฉง ซุกซน ฉลาดเฉลียว มีชีวิตชีวา และพลังงานสูงมาก มันจึงสามารถสร้างสีสันและความสนุกสนานให้กับคุณได้เป็นอย่างดี การวิ่งเล่นและการได้เล่นของเล่นที่ชอบคือกิจกรรมสุดโปรดของมัน มันต้องการการวิ่งเล่นและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อปลดปล่อยพลังงาน ถ้ามันรู้สึกเบื่อมากเกินไป มันอาจจะระบายความเก็บกดด้วยการหาข้าวของในบ้านที่มีค่ามากัดแทะเล่น มันจึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาพาสุนัขไปวิ่งเล่นบ้าง

ความหลากหลายของสีสุนัข

สีตา

มันเป็นสุนัขที่มีตาโทนสีน้ำตาล
 

สีขนและสีตัว

สีขนมาตรฐานของมันที่ระบุโดยองค์กร AKC จะมีเพียงสองสี นั่นคือ
 
  • สีแดง (Red)
  • สีแดงอมทอง (Red Gold)

ความเป็นมิตรของเจ้าตูบที่มีต่อเด็กและสัตว์เลี้ยง

ถ้ามันได้รับการฝึกให้เข้าสังคมมาเป็นอย่างดี มันจะมีความเป็นมิตรสูงมาก มันจึงเข้ากันได้ดีมากกับเด็กๆ ภายในบ้าน รวมถึงสุนัขตัวอื่นและสัตว์เลี้ยงตัวอื่นในบ้านอีกด้วย มันชอบการเข้าสังคมเป็นอย่างมาก มันจึงสามารถอยู่ร่วมกันกับสุนัขตัวอื่นได้สบายๆ และด้วยความขี้เล่น กระฉับกระเฉง และความซุกซนของมัน มันจึงสามารถเป็นเพื่อนเล่นที่ดีให้กับคนรอบตัว มันสามารถวิ่งเล่นกับเด็กๆ ได้ทั้งวันโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเลย แต่ถ้าเป็นสัตว์ที่ตัวเล็กกว่ามันมากๆ เราอาจจะต้องใช้เวลาสักระยะให้มันทำความคุ้นเคยด้วยกันก่อน เพราะสุนัขบางตัวอาจจะมีนิสัยที่ชอบไล่จับสัตว์ตัวเล็ก
Nova Scotia Duck Tolling Retriever

การดูแลเจ้าโทเลอร์

การดูแลด้านการออกกำลังกาย

Nova Scotia Duck Tolling Retriever เป็นสุนัขที่มีระดับพลังงานที่สูง จึงทำให้มันต้องการการออกกำลังกายเพื่อปลดปล่อยพลังงานอย่างสม่ำเสมอ คุณจึงควรจะแบ่งเวลามาพาเจ้าตูบไปเดินเล่นข้างนอก ว่ายน้ำ วิ่งเล่นออกกำลังกาย หรือจะให้มันทำกิจกรรมต่างๆ ที่ได้ออกแรงกับคนในครอบครัวก็ได้ เช่น การเล่นลูกบอลกับมัน เราแนะนำว่าระยะเวลาควรจะอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง หรือมากกว่านี้ก็ดี เพื่อให้สุนัขปลดปล่อยพลังงานอันมากมายในตัว ซึ่งมีส่วนช่วยเจ้าตูบมีสุขภาพร่างกายที่ดี ไม่เครียด และไม่เบื่อหน่าย ถึงแม้ว่าสุนัขบางตัวอาจจะมีความขี้เกียจมากกว่าปกติ เราก็ควรกระตุ้นให้มันได้ออกกำลังกายบ้างสักเล็กน้อย
 

การดูแลเรื่องการเข้าสังคมและการฝึกสอน

ถึงแม้ว่ามันจะมีทักษะการเข้าสังคมที่ดีอยู่แล้ว แต่คุณควรพามันไปทำความคุ้นเคยและทำกิจกรรมร่วมกับสมาชิกในครอบครัวตั้งแต่ที่มันยังเป็นลูกสุนัข เพื่อให้มันรู้สึกรักและคุ้นเคยกับพวกเขา รวมถึงให้มันไปพบเจอกับคนแปลกหน้า สุนัขตัวอื่น และสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นด้วย เพื่อให้มันเรียนรู้วิธีการผูกมิตรกับผู้อื่น ส่วนเรื่องการฝึกสอนสุนัข ก็จริงอยู่ว่ามันเป็นสุนัขที่ฉลาด แต่ในบางครั้งอาจจะมีความซุกซนและดื้อรั้นอยู่บ้าง จึงทำให้การฝึกสอนมันต้องใช้ความอดทนและความใจเย็น การสอนมันตั้งแต่มันยังเป็นลูกสุนัขโดยมีขนมและคำชมเชยเป็นรางวัลตอบแทนให้มัน จะทำให้การสอนเป็นไปอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น
 

เรื่องการดูแลขนและความสะอาด

ขนยาวสลวยของมันนั้นจะเป็นขนแบบสองชั้น แถมปริมาณการผลัดขนของมันก็ค่อนข้างเยอะ มันจะผลัดขนราวๆ ปีละสองครั้ง เราจึงจำเป็นต้องดูแลขนให้มันอย่างสม่ำเสมอ โดยการนำหวีหรือถุงมือสำหรับหวีขนสัตว์มาแปรงขนให้มันเป็นประจำทุกสัปดาห์ ในช่วงที่มันผลัดขนก็ควรขนแปรงขนให้บ่อยกว่าเดิม เพื่อให้ขนของมันไม่จับตัวกันเป็นก้อน และช่วยนำขนตาย รวมถึงสิ่งสกปรกต่างๆ ที่ติดอยู่ในตัวมันออกมา ส่วนเรื่องความสะอาด เราควรตัดเล็บ ทำความสะอาดใบหู เช็ดใบหน้า และอาบน้ำให้มันบ้างในบางเวลา ความถี่นั้นขึ้นอยู่กับความสกปรกของสุนัข
 

การดูแลเรื่องสุขภาพโดยรวม

อย่างที่เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าอากาศในประเทศไทยร้อนมากๆ โดยเฉพาะในหน้าร้อน เราจึงควรระวังเรื่องโรคลมแดดในสุนัขไว้บ้างก็ดี วิธีป้องกันเบื้องต้น คือ เราควรให้สุนัขอยู่ในที่ที่อากาศไม่ร้อน มีอากาศถ่ายเท ไม่อบอ้าว ไม่มีแดดแรงส่องลงมาโดนสุนัขตรงๆ ไม่ให้สุนัขวิ่งเล่นและทำกิจกรรมหนักๆ ในช่วงกลางวัน หมั่นเช็คว่าเรามีน้ำดื่มให้มันมากพอ และเลือกช่วงเวลาในการพาสุนัขออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านให้ดี

ผู้เลี้ยงควรควบคุมรูปร่างและน้ำหนักตัวของสุนัขให้อยู่ในระดับมาตรฐานอยู่เสมอ เพื่อช่วยลดโอกาสการเกิดโรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับความอ้วนให้เจ้าตูบ ด้วยการพาเจ้าตูบไปวิ่งเล่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อีกส่วนนึงคือการควบคุมเอาใจใส่คุณภาพและปริมาณอาหารของสุนัขให้ดี เลือกประเภทอาหารที่คุณสะดวกและเหมาะสมกับสุนัขของคุณ จะเป็นการทานอาหารปกติทั่วไป ทานอาหารแบบบาร์ฟ หรือจะเป็นอาหารที่ทำมาเพื่อสุนัขโดยเฉพาะเลยก็ได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นอาหารแบบใด เราก็ต้องให้มันทานในปริมาณที่พอเหมาะกับขนาดตัว และหลีกเลี่ยงไม่ให้มันทานขนมสำหรับมนุษย์ที่มีแคลอรี่สูงมากเกินไป

โรคภัยต่างๆ ที่อาจพบ

  • โรคจอประสาทตาเสื่อม (Progressive Retinal Atrophy): ซึ่งจะทำให้สุนัขมีความบกพร่องเรื่องการมองเห็น และอาจจะนำไปสู่การตาบอด ซึ่งมันเป็นโรคที่สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ อาการที่สามารถสังเกตได้คือ สุนัขมองเห็นได้ไม่ดีในที่มืด และเดินชนสิ่งรอบตัวอยู่บ่อยๆ
  • ภาวะไทรอยด์ต่ำผิดปกติ (Hypothyroidism): เกิดจากการที่สุนัขมีระดับฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำกว่าระดับทั่วไปซึ่งถือว่าเป็นความผิดปกติของร่างกาย
  • โรคข้อสะโพกเสื่อม (Hip Dysplasia): เป็นปัญหากระดูกที่สุนัขขนาดกลางถึงใหญ่มักจะเจอ เราสามารถลดโอกาสการเกิดโรคนี้ให้สุนัขได้โดยการควบคุมน้ำหนักสุนัขให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ด้วยการคุมปริมาณและคุณภาพของอาหารให้อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะพอดี และการพาสุนัขออกไปวิ่งออกกำลังกายเป็นครั้งคราวในปริมาณที่พอเหมาะ
 

โรคภัยอื่นๆ ที่สามารถพบเจอในสุนัข

  • ต้อกระจก(Cataract)
  • โรคหัดสุนัข (Canine Distemper)
  • โรคอ้วน (Obesity)
  • โรคลำไส้อักเสบ (Canine Parvo Virus)
  • โรคพยาธิหนอนหัวใจ (Heartworm)
  • ฟันผุ (Tooth decay)
  • โรคเบาหวาน (Diabetes)
  • โรคหลอดลมอักเสบ (Bronchitis)
  • ข้อสะโพกเสื่อม (Hip Dysplasia)
  • โรคข้อศอกเสื่อม (Elbow Dysplasia)
  • โรคผิวหนังอักเสบเป็นหนองในสุนัข (Pyoderma)
  • กลากเกลื้อน (Ringworm)

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับเจ้าโทเลอร์

  • มันมีความขี้เล่น ร่าเริง และกระฉับกระเฉง
  • มีความใจดี ผูกพัน และรักผู้คนในครอบครัว
  • มันสามารถอยู่ร่วมกันกับผู้คนและสุนัขตัวอื่นได้ดี
  • ปริมาณการผลัดขนของมันค่อนข้างเยอะ

Toller เหมาะกับผู้ที่

  • ชอบสุนัขขนาดกลาง
  • มีเวลาอยู่ร่วมกับมัน ดูแลขน และมีปฏิสัมพันธ์กับมันเป็นประจำ
  • ชอบสุนัขที่มีความขี้เล่น ซุกซน ร่าเริง
  • ชอบสุนัขที่มีความเป็นมิตรสูง เข้ากันกับคนรอบตัวได้ง่าย
  • ชอบสุนัขขนยาวเงางาม

คำถามที่พบบ่อย

  • เลี้ยงง่ายไหม: ไม่ง่ายมากนัก ต้องมีการดูแลขนและการพามันไปทำกิจกรรมต่างๆ
  • เลี้ยงกับสุนัขตัวอื่นได้ไหม: เลี้ยงกับสุนัขตัวอื่น และแมวตัวอื่นได้ดี
  • เลี้ยงกับเด็กได้ไหม: เลี้ยงกับเด็กๆ ในครอบครัวได้ดีมาก
  • เหมาะกับผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ไหม: ไม่ได้เป็นสุนัขที่เหมาะกับคนเป็นภูมิแพ้มากนัก
  • มันเห่าเยอะไหม: โดยปกติมันเห่าไม่ค่อยเยอะ แต่บางตัวก็อาจจะมีนิสัยที่ชอบเห่ามากกว่าปกติได้

เรื่องเจ้าตูบที่คุณอาจจะชอบ

 Banner Image