มินิลอป (Mini Lop) มันเป็นสายพันธุ์กระต่ายจากเยอรมนีที่มีเสน่ห์ตรงใบหูที่ตก มาพร้อมกับความตัวเล็กปุ๊กปิ๊กน่ารัก มาทำความรู้จักกับมันกัน
ข้อมูลทั่วไปของมินิลอป
- ขนาดตัว: ค่อนข้างเล็กถึงปานกลาง
- น้ำหนัก: 1.4 – 2.7 กก.
- อายุขัย: 8 – 10 ปี
- ความยาวขน: ปานกลาง
- ถิ่นกำเนิด: ประเทศเยอรมนี 🇩🇪
- ความต้องการการเอาใจใส่: สูง
- ลักษณะเฉพาะ: หูตกขนาดปานกลาง คอสั้น ใบหน้าค่อนข้างกว้าง หูมีความโค้งมน ดูอ้วนกลมน่ารัก มันตัวใหญ่กับกระต่ายพันธุ์ Holland Lop
ประวัติของมินิลอป
กระต่ายสายพันธุ์นี้มีต้นกำเนิดที่ประเทศเยอรมนี ในช่วงปี ค.ศ. 1950 ได้มีนักเพาะพันธุ์กระต่ายท่านหนึ่งที่มีชื่อว่าคุณ Adrian de Cock เขาได้ทำการทดลองพัฒนากระต่ายสายพันธุ์ใหม่ โดยการนำกระต่ายพันธุ์ French Lop, English Lop, Chinchilla, และกระต่ายพันธุ์อื่นๆ จนมันกลายเป็นกระต่ายหูพับที่มีขนาดตัวที่เล็กปุ๊กปิ๊ก ที่เรารู้จักกันในชื่อว่า Mini Lop นั่นเอง
มันได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากองค์กร American Breeder’s Association (ARBA) ในปี ค.ศ. 1980 และองค์กร British Rabbit Council (BRC) ในปี ค.ศ. 1994 จนมาถึงในยุคปัจจุบัน มันกลายเป็นสายพันธุ์กระต่ายที่ได้รับความนิยมมากๆ ในประเทศอังกฤษและสหรัฐอเมริกา มันเป็นถึง 1 ใน 10 สายพันธุ์กระต่ายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก แถมยังได้รับความสนใจจากชาวไทยไม่น้อย
ลักษณะนิสัยและความเป็นมิตรของมินิลอป
มันเป็นกระต่ายที่มีความร่าเริง ขี้เล่น อ่อนหวาน และสบายๆ มันชอบการอยู่ร่วมกับเจ้าของและสมาชิกคนอื่นในบ้าน ส่วนมากมันจะชอบให้เจ้าของลูบไล้ด้วยความรัก เราจึงควรปล่อยมันออกมาจากที่อยู่ของมันบ้างเพื่อที่จะให้มันได้วิ่งเล่นและทำกิจกรรมต่างๆ กับผู้คนรอบข้างเพื่อสร้างความคุ้นเคยซึ่งกันและกัน แต่ทั้งนี้ กระต่ายแต่ละตัวก็สามารถมีบุคลิกเฉพาะของตัวเอง
ความหลากหลายของสีกระต่าย
สีขน
กระต่ายสายพันธุ์นี้มีสีขนหลากหลายสีให้เลือก เช่น สีดำ, สีขาว, สีลาเวนเดอร์, สีน้ำเงิน, สีน้ำตาลแดง, สีครีม, สีส้ม, และสีอื่นๆ อีกมากมาย กระต่ายบางตัวมีสีเดียว บางตัวจะมีถึง 2-3 สีในตัว สามารถจำแนกกลุ่มสีและลายของมันออกเป็นหลายแบบ เช่น สีเรียบ (Self), ลายอกูติ (Agouti), ลายโบรคเค่น (Broken), ลายสีขาวที่มีแต้มสีเข้ม (Pointed White), ลายไล่เฉดสี (Shaded), และอื่นๆ
การดูแลมินิลอป
การดูแลด้านอาหารการกิน
หลายๆ ท่านอาจจะเคยเห็นตัวการ์ตูนกระต่ายที่มักจะมีแครอทอยู่เคียงข้าง จึงทำให้ผู้คนเข้าใจผิดคิดว่าอาหารหลักของกระต่ายคือแครอท แต่ความจริงแล้วอาหารหลักของกระต่ายควรเป็นหญ้าแห้ง ซึ่งสัดส่วนการให้หญ้าแห้งควรอยู่ที่ประมาณ 70 – 80% ของปริมาณอาหารทั้งหมด จะเป็นหญ้าแห้งชนิดทิมโมธี, อัลฟาฟ่า, แพงโกล่า, แอนเดอร์สัน หรืออื่นๆ ก็ได้ ทั้งนี้ หญ้าแต่ละชนิดจะมีสารอาหารที่แตกต่างกันออกไป ผู้เลี้ยงจึงควรเลือกหญ้าที่เหมาะกับกระต่ายของคุณ การให้หญ้าเป็นอาหารหลักของกระต่ายจะดีกว่าฟางมาก เนื่องจากว่ามันมีปริมาณสารอาหารที่จำเป็นสูงกว่า
ส่วนอีกราวๆ 20% ที่เหลือนั้นสามารถเป็นผักใบเขียวและผลไม้ชนิดที่กระต่ายสามารถทานได้ เช่น แอปเปิ้ล, แตงกวา, พริกหวาน, แครอท, ผักชี, ถั่วงอก, แพงพวย, กล้วย, เมลอน, แตงโม, ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ และอื่นๆ แต่ก็มีผักผลไม้บางชนิดที่ไม่ควรให้กระต่ายทานเช่นพืชตระกูลถั่วทั้งหลาย ผู้เลี้ยงจึงควรศึกษาเรื่องนี้ให้ดี
อาหารเม็ดสำหรับกระต่ายนั้นควรให้แต่น้อยเพื่อเสริมสารอาหารที่จำเป็นเท่านั้น ไม่ควรให้มันทานมากเกินไป เพราะอาจจะทำให้น้องน้ำหนักเกินได้ และต้องมีน้ำสะอาดให้เจ้ากระต่ายมากพอเสมอ เนื่องจากว่ากระต่ายต้องการกินน้ำมากพอสมควร
การดูแลขนและความสะอาด
การดูแลขนให้กระต่ายก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เราควรจะใช้แปรงมาหวีขนให้กับกระต่ายอย่างเบามือบ้าง สักสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อกำจัดขนตายที่ติดค้างอยู่ในตัวมันออกมาให้หมด ไม่เช่นนั้นมันก็มีโอกาสที่เจ้ากระต่ายจะเลียขนทำความสะอาดตัวเอง จนขนตายเหล่านั้นเข้าไปอุดตันสะสมที่ทางเดินอาหารจนเกิดเป็นโรคแฮร์บอล (Hairball) ซึ่งสามารถส่งผลเสียร้ายแรงกับกระต่าย รวมถึงมีการตัดเล็บ และดูแลความสะอาดส่วนที่น้องทำความสะอาดเองไม่ได้บ้าง เช่น บริเวณใบหูและรอบดวงตา
การดูแลเรื่องที่อยู่อาศัย
เพื่อความปลอดภัย เราไม่ควรเลี้ยงกระต่ายแบบปล่อยนอกบ้าน เราควรเลี้ยงมันอยู่ในกรงที่สะอาดฃ ไม่อับชื้นและไม่ร้อน กรงควรมีความสูงมากพอที่จะให้มันยืน 2 ขาโดยไม่ชนกับเพดานกรง หรือจะเป็นการล้อมรั้วในบ้านก็ได้ เราควรปล่อยให้กระต่ายออกมาวิ่งเล่นนอกที่อยู่บ้างเพื่อให้มันปลดปล่อยพลังงานและออกกำลังกาย ทั้งนี้ควรระวังสายไฟต่างๆ ให้ดี เพราะมันเป็นสัตว์ที่ชอบเคี้ยวและแทะพอสมควร คุณจึงควรคอยดูแลอย่างใกล้ชิดเมื่อพามันออกมาเดินเล่น รวมถึงไม่ให้มันอยู่ในที่ที่สามารถเจอกับเสียงที่ดังมากๆ เพราะกระต่ายอาจจะตกใจจนถึงขั้นช็อกได้
การดูแลเรื่องการเข้าสังคม
กระต่ายเป็นสัตว์สังคม โดยเฉพาะกระต่ายสายพันธุ์นี้ จึงควรให้มันมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนบ้าง เจ้าของควรแวะมาเยี่ยม มาเล่นด้วย และมาดูแลมันบ้าง เพื่อให้มันคุ้นเคยกับผู้คน ไม่กัด ถีบ และหนีผู้คน รวมถึงควรมีเพื่อนกระต่ายตัวอื่นมาอยู่ร่วมกันกับมันเพื่อไม่ให้มันเหงามากจนเกินไป
โรคภัยต่างๆ ที่อาจพบในกระต่าย Mini Lop
- โรคในระบบทางเดินอาหาร (Gastrointestinal)
- ฟันยาว (Overgrown Teeth)
- มะเร็งมดลูกในกระต่าย (Uterine Adenocarcinoma in Rabbits)
- อาการหัวเอียง (Head Tilt)
- โรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน (Upper Respiratory Tract Infection)
- ก้อนขนอุดตันในทางเดินอาหาร (Hairballs, Trichobezoars)
- โรคติดไวรัสไมโซมาโตซิส (Myxomatosis)
- โรคเลือดออกในกระต่าย (Rabbit Haemorrhagic Disease, RHD)
- โรคไข้สมองอักเสบในกระต่าย (Encephalitozoon Cuniculi, E.cuniculi)
- โรคพาสเจอร์เรลโลซิส (Pasteurellosis)
- โรคหลอดลมอักเสบ (Bronchitis)
- ติดเชื้อสแตฟฟิลโลคอคโคซีส (Staphylococcus aureus)
- ไรที่ผิวหนัง (Sarcoptic Mange in rabbits)
- ไรในหู (Ear mites)
- โรคฝีในกระต่าย (Rabbit Abscesses)
Mini Lop เหมาะกับผู้ที่
- ชอบกระต่ายที่ตัวค่อนข้างเล็ก (แต่ใหญ่กว่า Holland lop)
- ชอบกระต่ายที่ขนไม่ยาวมากนัก
- สามารถสละเวลาอยู่ร่วมกับมันบ้าง
- ชอบกระต่ายที่มีสีและลวดลายหลากหลายให้เลือก
- ชอบกระต่ายหูตก
คำถามที่พบบ่อย
- มันต่างกับกระต่ายพันธุ์ Holland lop ยังไง: ต่างกันเรื่องขนาดตัวเป็นหลัก กระต่ายพันธุ์นี้หนักได้มากถึง 2.7 กก. แต่เจ้า Holland lop หนักได้ถึงราวๆ 1.8 กก.
เรื่องกระต่ายที่คุณอาจจะชอบ
อ่านเรื่องไหนต่อดี
7 บ้านสุนัขกลางแจ้งและในบ้าน แบบไหนดี มีความทนทาน ปี 2023
110+ ชื่อสุนัขภาษาเกาหลี ที่มีกลิ่นอายความเป็นโซล
10 อาหารแมว Meo แบบไหนดีและเหมาะกับน้องแมวของคุณบ้าง ปี 2023
10 อาหารสุนัขพุดเดิ้ล ยี่ห้อไหนดีและเหมาะกับน้องตัวเล็ก ปี 2023
ฮีทสโตรกในกระต่าย (Heatstroke in Rabbit) อาการ และวิธีป้องกัน
ไม้ตกแมว ไม้ล่อแมว แบบไหนดีและคนชอบใช้บ้าง ปี 2023
วันแมวโลกหรือวันแมวสากลคืออะไร มาดูกัน
กระต่ายฮาวานา (Havana rabbit) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแล