นกเลิฟเบิร์ด (Lovebird) มันเป็นนกตัวเล็กจากทวีปแอฟริกาที่มีสีสันสดใสสะดุดตา มาพร้อมกับเสียงแหลมๆ ที่ชวนแสบแก้วหู มาทำความรู้จักกับมันให้มากขึ้นกัน
เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจได้เลย
ข้อมูลทั่วไปของนกเลิฟเบิร์ด
- น้ำหนัก: 40 – 70 กรัม
- อายุขัย: 10 – 20 ปี
- ความฉลาด: ฉลาดพอสมควร
- ความยาวตัว: 13 – 17 ซม.
- ถิ่นกำเนิด: ทวีปแอฟริกา
- ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Agapornis
- ลักษณะเฉพาะ: ตัวเล็ก ดวงตากลมโต จะงอยปากค่อนข้างเล็ก สีขนบนตัวมีความฉูดฉาดและสดใส หางสั้นพอสมควร
ประวัติของนกเลิฟเบิร์ด
ได้มีการค้นพบฟอสซิลของนกตระกูลนี้ ซึ่งคาดว่ามันมีอายุมากถึง 1.9 ล้านปีก่อน นั่นหมายความว่านกตระกูลนี้เป็นนกโบราณที่กำเนิดขึ้นมาอย่างช้านานแล้ว มันมีถิ่นกำเนิดที่บริเวณทวีปแอฟริกา แต่ว่าเราสามารถพบเห็นมันตามธรรมชาติที่ป่าแทบจะทั่วโลก พวกมันมักจะอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูงเล็กและออกหากินเมล็ดพืชและผลไม้ตามป่าในช่วงกลางวัน ซึ่งผู้คนได้นำนกเหล่านี้มาของเลี้ยงไว้ดูเล่น และความนิยมของมันในฐานะสัตว์เลี้ยงก็เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นจนถึงยุคปัจจุบัน
ข้อควรระวัง
ก่อนเลี้ยงนกควรต้องศึกษาเรื่องกฎหมายก่อน ในปัจจุบันนกบางสายพันธุ์ถูกจัดอยู่ใน CITES บัญชีหมายเลข 1, 2, และ 3 ซึ่งแต่ละบัญชีก็จะมีกฎระเบียบที่ต่างกันออกไป ซึ่งคุณต้องตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนว่าในปัจจุบันนกสายพันธุ์นี้อยู่ที่ CITES บัญชีไหนหรือไม่ มีกฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับการซื้อขายครอบครองนกสายพันธุ์นี้ในปัจจุบันอย่างไร ซึ่งต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด และห้ามซื้อนกที่ถูกดักจับจากป่าอย่างผิดกฎหมาย
ลักษณะนิสัยของนกเลิฟเบิร์ด
มันเป็นนกที่มีความซุกซน ขี้เล่น ขี้สงสัย กระฉับกระเฉง และมีชีวิตชีวา มันชอบที่จะออกมาสำรวจโลกข้างนอกกรงและใช้เวลาอยู่กับเจ้าของและคู่ของมัน แต่มันสามารถหวงอาณาเขตได้เช่นกัน โดยเฉพาะนกตัวเมียที่อยู่ในช่วงเจริญพันธุ์ นอกจากนี้ มันยังเป็นนกที่ต้องการการเข้าสังคมเป็นอย่างมาก ถ้ามันผูกพันกับคุณแล้ว มันจะเป็นเพื่อนที่ดีเลยล่ะ แต่ถ้ามันไม่ได้รับการเข้าสังคมกับมนุษย์มากพอ มันอาจจะมีความก้าวร้าว จนอาจจะถึงขั้นไม่ยอมให้เจ้าของแตะตัวได้ ดังนั้น การให้เวลากับนกสายพันธุ์นี้จึงสำคัญมาก มันไม่เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาให้มัน
การพูดคุยและการส่งเสียง
ในบางครั้ง นกเลิฟเบิร์ดจะส่งเสียงดังและแหลมมาก โดยเฉพาะในเวลาที่มันพยายามจะเรียกร้องความสนใจจากคุณ ซึ่งเสียงดังๆ ของมันก็อาจจะไปรบกวนคนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง คุณจึงควรเลี้ยงมันในที่ที่สามารถเก็บเสียงร้องของมันได้บ้าง ส่วนเรื่องการเลียนแบบเสียง นกบางตัวจะเลียนแบบคำพูดของมนุษย์ได้บ้างนิดหน่อย ซึ่งคำพูดเหล่านั้นจะไม่ค่อยชัดเจน จึงไม่ค่อยเหมาะในการนำมันมาสอนพูดมากนัก
ลักษณะภายนอกและความหลากหลายของนก
สีและลักษณะภายนอก
นกสายพันธุ์นี้มีสีขนให้เลือกหลากหลายแบบมากๆ ไม่ว่าจะเป็นโทนสีฟ้า, ส้ม, เขียว, ขาว, เหลือง, น้ำเงิน, และอื่นๆ โดยนกส่วนมากจะมีสีขนมากกว่า 1 สีในตัว ใบหน้าของมันมักจะมีสีที่แตกต่างกับสีขนที่ปีก ซึ่งนกเหล่านี้บางตัวจะมีขอบตา บางตัวไม่มีขอบตา ซื่อราคาของมันจะขึ้นอยู่กับความหายากของสีด้วยนะ สีที่ดูแปลกตามีแนวโน้มที่จะแพงกว่าสีปกติ

การดูแลนกเลิฟเบิร์ด
การดูแลด้านอาหารการกิน
เราสามารถซื้ออาหารสำหรับนกโดยเฉพาะที่มีขายทั่วไปให้น้องทานได้เลย แนะนำว่าให้เป็นสูตรที่มีส่วนผสมของธัญพืชและผลไม้อบแห้ง เพื่อให้นกได้รับสารอาหารที่จำเป็นครบถ้วน โดยเราสามารถให้มันทานควบคู่ไปกับอาหารสดชนิดต่างๆ เพื่อเสริมสารอาหาร สัดส่วนอาหารเม็ดกับอาหารสดก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความเหมาะสม อาหารสดดังกล่าวสามารถเป็นผัก ผลไม้ หรือธัญพืชชนิดต่างๆ ก็ได้ เช่น เมล็ดทานตะวัน, มะละกอ, แอปเปิ้ล (เอาเมล็ดออกแล้ว), คะน้า, ผักโขม, ส้ม, และอื่นๆ แต่ทั้งนี้ มันมีพืชผักผลไม้บางชนิดที่ห้ามให้นกทานเช่นกัน ซึ่งมันอาจจะเป็นอันตรายกับนก และถ้าน้องทานอาหารสดเหล่านี้ไม่หมดก็ควรเอาออกมาเปลี่ยน ไม่ควรให้น้องทานอาหารค้างคืนเพราะอาหารเหล่านี้อาจจะบูดแล้ว ถ้าน้องทานอาหารบูดเหล่านั้นเข้าไป น้องอาจจะป่วยได้ (ถ้าเป็นลูกนกต้องให้อาหารชงสำหรับลูกป้อนโดยเฉพาะก่อน)
การดูแลขนและความสะอาด
โดยปกตินกจะเป็นสัตว์ที่คอยดูแลความสะอาดและจัดแต่งขนตัวเองเป็นกิจวัตรประจำวันอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องไปใส่ใจเรื่องความสะอาดของตัวนกมากนัก แต่ถ้าหากว่าน้องเริ่มสกปรกและส่งกลิ่นเหม็น เราสามารถนำกะละมังหรือถาดน้ำที่มีน้ำตื้นๆ ให้มันเล่นและอาบน้ำตัวเอง หรือจะเป็นการเปิดก๊อกน้ำเบาๆ ให้น้องเข้าไปอาบน้ำทำความสะอาดตัวเองก็ได้ เราไม่ควรนำกระบอกฉีดน้ำฟ๊อกกี้ไปฉีดตัวมันให้มันอาบเนื่องจากว่ามันตัวเล็ก การใช้ฟ๊อกกี้จะเหมาะกับนกที่มีขนาดตัวค่อนข้างใหญ่
การดูแลเรื่องที่อยู่อาศัย
ก็จริงที่ว่ามันเป็นนกที่ตัวเล็กมาก แต่กรงที่อยู่ของมันนั้นไม่ควรมีขนาดเล็กเกินไปจนอึดอัด กรงควรมีขนาดใหญ่มากพอที่จะมีพื้นที่ให้มันเล่นบ้าง ที่ที่ตั้งกรงของมันควรไม่มีแดดแรงๆ ส่องมาโดนนกโดยตรง ไม่อับชื้น และมีอากาศถ่ายเท ผู้เลี้ยงต้องคอยดูแลเรื่องสุขอนามัยของกรงนกอย่างสม่ำเสมอเพื่อสุขภาพที่ดีของตัวนกเอง ในกรงควรมีคอนให้นกยืนเกาะ เราควรนำของเล่นสำหรับนกชนิดต่างๆ เช่น ของเล่นเชือกพันเกลียว ของเล่นที่ทำจากไม้ บอลไม้ และอื่นๆ เข้าไปในกรงให้นกกัดเคี้ยวเล่นในยามว่าง
การออกกำลังกายและอื่นๆ
นกก็ต้องการการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีเหมือนสัตว์ชนิดอื่นๆ เช่นกัน คุณสามารถนำน้องออกมาเล่นในห้องที่ปลอดภัยข้างนอกกรงบ้าง ประมาณวันละหนึ่งชั่วโมงหรือมากกว่านี้ก็ดี เพื่อให้มันได้ออกมาสำรวจโลกข้างนอกกรง ยืดเหยียดเส้นสาย เดินเล่นบินเล่น และออกมาฝึกให้มีปฏิสัมพันธ์กับคุณและผู้คนในบ้านบ้าง ซึ่งมีส่วนช่วยให้มันเชื่อง ไม่เหงา ไม่ก้าวร้าว และไม่เก็บกด ถ้าคุณมีพื้นที่ที่ปลอดภัยนอกบ้านให้นกบิน คุณสามารถลองพามันออกไปบินเล่นเพื่อสุขภาพกายและใจที่ดี โดยการใส่เอี้ยมนกให้มันแล้วพามันไปบินได้เลย
ปัญหาสุขภาพที่อาจพบใน Lovebird
- โรคจะงอยปากและขน (Psittacine beak and feather disease): เป็นโรคที่เกิดจากไวรัสที่สามารถติดต่อกันได้ อาการที่สามารถสังเกตได้จากภายนอก คือ จะงอยปากผิดรูปและแตกถลอก เซื่องซึม ขนร่วงเยอะ บินไม่ค่อยได้ ซึ่งมันอาจจะส่งผลให้เกิดอาการแทรกซ้อนอย่างอื่น ถ้านกคุณมีอาการเหล่านี้ ให้นำน้องไปพบสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมกับแยกนกตัวที่แข็งแรงออกจากกัน เพื่อป้องกันการติดต่อของโรค
- โรคกระเพาะขยาย (Proventricular Dilatation Disease): อาการที่สามารถสังเกตได้คือ นกจะตัวผอมลง น้ำหนักลดอย่างไม่ทราบสาเหตุ เซื่องซึม และอาเจียน แต่นกบางตัวอาจจะไม่แสดงอาการออกมาให้เห็นจนกระทั่งเริ่มอาการหนักแล้ว
- ไรในนก (Bird Mites): ไรในนกนั้นอันตรายกับนกกว่าที่คุณคิด เพราะมันอาจจะทำให้นกของคุณเสียชีวิตได้ และยังสามารถสร้างความรำคาญให้กับผู้เลี้ยงและคนในบ้านอีกด้วย อาการที่สามารถสังเกตได้ คือ นกจะน้ำหนักตัวลดลง ขนยุ่ง และน้องจะกัดขนและตกแต่งขนบ่อยผิดปกติ ขนร่วง และผิวหนังเป็นแผล วิธีป้องกันเบื้องต้น คือ หมั่นรักษาความสะอาดกรงของน้อง ไม่ให้กรงของน้องมีความอับชื้น และไม่ให้น้องเข้าใกล้นกจากธรรมชาติตัวอื่น โดยเฉพาะนกพิราบ ที่อาจจะมีไรนกติดมาด้วย
- โรคซิตาโคซิส (Psittacosis): หรือที่เรียกกันว่า “โรคไข้นกแก้ว” มันเป็นโรคที่สามารถติดจากนกและสัตว์ปีกอื่นๆ สู่คนผ่านการหายใจ ผู้ที่ติดเชื้อนี้จะมีอาการเป็นไข้ ตัวสั่น ปวดศีรษะ นกที่อาจจะติดเชื้อไวรัสนี้จะมีอาการเซื่องซึม ถ่ายบ่อย ไม่ค่อยทานอาหาร และมูลนกจะมีสีแปลกไปจากปกติ
Lovebird เหมาะกับผู้ที่
- ชอบนกที่มีหลากหลายสีให้เลือก
- ไม่ได้ต้องการนกที่พูดได้ดี
- มีพื้นที่ในการเลี้ยงนกไม่มากนัก
- ชอบนกตัวเล็ก
- มีเวลาอยู่ร่วมกัน ให้ความสนใจ และดูแลมันเป็นประจำ
- มั่นใจว่าเสียงดังและแหลมของนกจะไม่ไปรบกวนคนอื่น
คำถามที่พบบ่อย
- น้องชอบให้ลูบจับไหม: ส่วนมากจะให้เจ้าของลูบจับได้ตามปกติ แต่ตัวที่ไม่เชื่องก็อาจจะมีความหวงตัวได้
- จะทำให้มันเชื่องยังไงดี: เราควรฝึกมันให้เข้าสังคมกับคุณและสมาชิกในบ้านตั้งแต่มันยังเด็ก หมั่นมาหามัน เรียกชื่อมัน ใช้มือไปให้อาหารเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับมัน ปล่อยมันให้มามีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน มีเวลามาอยู่ร่วมกับมันเป็นประจำ เป็นต้น
- มีน้องขายในไทยไหม: มีขายทั่วไปในไทย
เรื่องนกๆ ที่คุณอาจจะชอบ
อ่านเรื่องไหนต่อดี
12 สายพันธุ์สุนัขขี้เล่น ที่ทำให้บ้านของคุณเต็มไปด้วยความสนุกสนาน
7 คอกสุนัข แบบไหนดีและมีพื้นที่กว้างขวาง ปี 2023
อาหารแมวเกรด Holistic ยี่ห้อไหนดีและมีคุณภาพ ปี 2023
10 อาหารสุนัขเฟรนช์บูลด็อก ยี่ห้อไหนดีและช่วยบำรุงผิวหนัง ปี 2023
250+ ชื่อแมวตัวผู้ในหลายภาษา ที่ฟังดูเข้ากันกับเจ้าเหมียว
นกแก้วเซเนกัล (Senegal Parrot) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลนก
ประตูแมว แบบไหนดี มีความมินิมอล และรีวิวปังบ้าง ปี 2023
10 อาหารสุนัข Holistic ยี่ห้อไหนดีและมีประโยชน์กับร่างกายสุนัข ปี 2023