ลีออนเบอร์เกอร์ (Leonberger) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลสุนัข

แชร์ได้เลยที่ปุ่มด้านล่าง

ลีออนเบอร์เกอร์ (Leonberger) เป็นสุนัขจากประเทศเยอรมนี ที่ถึงแม้จะดูตัวใหญ่บึกบึน และมีความน่าเกรงขาม แต่ว่ามันอาจจะเป็นสุนัขที่ไม่ได้น่ากลัวเหมือนลักษณะภายนอกของมันก็ได้ มาค้นหาคำตอบนั้นในบทความนี้กัน

เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจได้เลย

ข้อมูลทั่วไป
ประวัติ
ลักษณะนิสัย
ความหลากหลายและสีตัวสุนัข
ความเป็นมิตรต่อเด็ก และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ
การดูแล
โรคภัยต่างๆ ที่อาจพบ
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับสุนัขสายพันธุ์นี้
ลีออนเบอร์เกอร์ เหมาะกับผู้ที่
คำถามที่เจอบ่อย

ข้อมูลทั่วไปของลีออนเบอร์เกอร์

ขนาดตัว: ใหญ่
ความสูง: ตัวเมีย: 65–75 ซม. ตัวผู้: 72–81 ซม. วัดจากไหล่
น้ำหนัก: ตัวเมีย: 42–64 กก. ตัวผู้: 50–76 กก.
อายุขัย: 8 – 9 ปี
ความยาวขน: ปานกลาง
ความฉลาด: ปานกลาง
ถิ่นกำเนิด: ประเทศเยอรมนี 🇩🇪
ปริมาณการผลัดขน: สูง
ความต้องการการเอาใจใส่: ปานกลาง
ลักษณะเฉพาะ: หูพับ ปากใหญ่ มักจะมีสีดำบริเวณปากและใบหน้า หางตกและเต็มไปด้วยขน

ประวัติของลีออนเบอร์เกอร์

สุนัขสายพันธุ์นี้มีต้นกำเนิดที่เมือง Leonberg ในประเทศเยอรมนี ในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 มีชายผู้หนึ่งที่ชื่อว่า Heinrich Essig ซึ่งเป็นนักการเมืองในสมัยนั้น เขาอยากได้สุนัขสักสายพันธุ์ที่มีความใหญ่โตและสง่างามเหมือนสิงโต เหมาะกับชนชั้นสูงของยุโรป ได้ทำการทดลองผสมสุนัขข้ามสายพันธุ์ระหว่างสุนัขพันธุ์ Newfoundland และ St.Bernard จนมันกลายออกมาเป็นสุนัข Leonberger ที่เรารู้จักกัน หลังจากนั้นไม่นาน มันก็เริ่มเป็นที่นิยมในเหล่าบรรดาชนชั้นสูง ขุนนาง และเชื้อราชวงศ์ของประเทศฝรั่งเศส ฮังการี เยอรมนี และอิตาลี

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จำนวนสุนัขสายพันธุ์นี้ลดลงอย่างรวดเร็วจนเกือบจะสูญพันธุ์ แต่ก็ยังมีผู้ที่ชื่นชอบในสุนัขสายพันธุ์นี้พยายามที่จะฟื้นฟูประชากรของมัน ในที่สุดพวกเขาก็ทำสำเร็จ มันได้ถูกส่งตัวไปยังแคนาดาและสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรกในช่วงศตวรรษที่ 20 รัฐบาลแคนาดามักจะใช้มันเป็นสุนัขสำหรับกู้ภัยทางน้ำ มันพึ่งจะได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากสโมสร American Kennel Club ในปี ค.ศ. 2010 ที่ผ่านมานี้เอง

ลักษณะนิสัยของลีออนเบอร์เกอร์

ในตอนที่สุนัขยังเล็ก มันอาจจะเป็นสุนัขที่มีความซุกซน ขี้เล่นมากเกินไปบ้าง แต่พอมันโตเต็มวัยแล้วมันจะมีความนิ่งกว่าเดิม มันเป็นสุนัขที่มีความอ่อนโยน สงบ เป็นมิตร ใจเย็น น่ารัก และมันยังมีความจงรักภักดี ซื่อสัตย์ และรักเจ้าของ รวมถึงสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ ที่มันรักอีกด้วย มันชอบใช้เวลาอยู่ร่วมกับคนที่มันรัก แถมมันยังสามารถปกป้องพวกเขาให้ปลอดภัยอยู่เสมอ

มันมีสัญชาตญาณการปกป้องมากับตัว เมื่อมันพบเจอคนแปลกหน้าที่กำลังเข้ามาในอาณาเขตของมัน มันก็จะเห่าเตือนผู้นั้นให้ออกห่างจากพื้นที่ของตน ด้วยขนาดตัวที่ใหญ่กำยำและหน้าตาที่มีความดุ คงไม่ค่อยมีใครที่จะดึงดันบุกรุกเข้ามาในพื้นที่ของมัน จึงเหมาะสำหรับการนำมันไปเฝ้าบ้าน

ความหลากหลายของสีสุนัข

สีตา

มันเป็นสุนัขที่มีตาโทนสีดำและโทนสีน้ำตาล

สีขนและสีตัว

มันเป็นสุนัขที่มีสีให้เลือกไม่มากมายนัก จะมีสีหลักๆ 4 แบบ นั่นคือ

สีน้ำตาลแดง (Red)
สีน้ำตาลอมเหลือง (Yellow)
สีครีม (Sandy)
สีน้ำตาลทอง (Golden)

รูปตัวอย่างสีขนของมัน

ความเป็นมิตรของเจ้าตูบที่มีต่อเด็ก และสัตว์เลี้ยง

มันเป็นสุนัขที่ขึ้นชื่อว่าเป็นยักษ์ใหญ่ใจดี มันมีความเป็นมิตรกับเจ้าของ สมาชิกครอบครัว รวมถึงเด็กๆ ภายในบ้านอีกด้วย มันมีความขี้เล่นอยู่บ้างเล็กน้อย สามารถเล่นเป็นเพื่อนคลายเหงาให้กับเด็กๆ ได้ดี แต่ถ้าเป็นเด็กเล็กควรจะระวังไว้สักนิดนึง เนื่องจากว่าเจ้าตูบนั้นตัวใหญ่และน้ำหนักตัวเยอะ มันอาจจะเผลอชนหรือเผลอทับเด็กตัวน้อยๆ ได้ ผู้ปกครองควรคอยดูแลอยู่ห่างๆ

มันมีความเป็นมิตรกับสุนัขตัวอื่น และสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นที่อยู่ร่วมกับมันมาตั้งแต่เด็กเช่นกัน มันสามารถใช้ชีวิตร่วมกับพวกเขาได้ดีพอสมควร แต่ถ้าเป็นเด็ก หรือสัตว์ตัวอื่นที่มันพึ่งจะเคยเห็นหน้า มันก็ต้องใช้เวลาสักนิดในการทำความรู้จักและทำความคุ้นเคยกับผู้ที่เข้ามาใหม่

คลิปความน่ารักอ่อนโยนของมัน

การดูแลลีออนเบอร์เกอร์

การดูแลด้านการออกกำลังกาย

คุณควรจะมีเวลาในการพาเจ้าตูบไปเดินเล่น วิ่งเล่นออกกำลังกายบ้าง หรือจะให้มันทำกิจกรรมต่างๆ ที่ได้ออกแรงกับสมาชิกในครอบครัวก็ได้ เช่น การเล่นชักเย่อกับมัน ประมาณ 30-40 นาทีต่อวันหรือมากกว่านี้ เพื่อช่วยปลดปล่อยพลังงานที่มีในตัวสุนัข ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดความเครียดให้เจ้าตูบ และเพื่อให้เจ้าตูบมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และห่างไกลจากปัญหาสุขภาพหลายๆ อย่าง และอยู่เคียงข้างเราไปนานๆ

การดูแลเรื่องการเข้าสังคมและการฝึกสอน

เราควรฝึกการเข้าสังคมให้มันบ้าง ไม่ควรขังหรือกักบริเวณมันให้อยู่ในที่แคบๆ ตัวเดียวทั้งวัน เพราะมันอาจจะทำให้สุนัขเครียด เก็บกด รักสันโดษ อาจจะมีความก้าวร้าวได้ คุณควรพามันไปทำความรู้จัก และทำกิจกรรมร่วมกับสมาชิกในครอบครัวตั้งแต่ที่มันยังเป็นลูกสุนัข เพื่อให้มันรู้สึกคุ้นเคยและรักพวกเขา รวมถึงให้มันไปเข้าสังคมกับคนแปลกหน้า สุนัขตัวอื่น และสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นตั้งแต่มันยังเป็นลูกสุนัขอยู่เสมอ เพื่อฝึกทักษะในการเข้าสังคมให้มัน มีส่วนช่วยให้มันสามารถเปิดใจรับผู้อื่นได้ดีมากขึ้น ส่วนเรื่องการฝึกสอน ควรฝึกสอนกสิ่งที่จำเป็นให้กับมันตั้งแต่มันยังเป็นลูกสุนัข เพื่อความง่ายในการเรียนรู้

เรื่องการดูแลขนและความสะอาด

มันเป็นสุนัขที่มีขนสองชั้น และผลัดขนค่อนข้างเยอะ การดูแลขนจึงเป็นเรื่องจำเป็น คุณควรเอาหวีมาแปรงขนให้มัน 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์หรือมากกว่านั้น เพื่อกำจัดขนตายและสิ่งสกปรกที่ติดค้างอยู่ในตัวมันให้หมด ช่วงที่มันผลัดขนก็ควรแปรงขนมันให้บ่อยกว่าเดิม รวมถึงมีการทำความสะอาดใบหน้า บริเวณรอบดวงตา ใบหู มีการตัดเล็บ แปรงฟัน และอาบน้ำให้สุนัขบ้าง ความถี่ก็ขึ้นอยู่กับความสกปรกมอมแมมของสุนัข ถ้ามันชอบไปนอนกลิ้งกับสิ่งสกปรกก็ควรอาบน้ำมันบ่อยกว่าปกติ

การดูแลเรื่องสุขภาพโดยรวม

อย่างที่เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าอากาศในประเทศไทยร้อนมากๆ โดยเฉพาะในหน้าร้อน เราจึงควรระวังเรื่องโรคลมแดดในสุนัขไว้บ้าง วิธีป้องกันเบื้องต้น คือ เราควรให้สุนัขอยู่ในที่ที่อากาศไม่ร้อน มีอากาศถ่ายเท ไม่อบอ้าว ไม่มีแดดส่องลงมาโดนสุนัขตรงๆ ไม่ให้สุนัขวิ่งเล่นเยอะเกินไปในช่วงกลางวัน มีน้ำดื่มให้มันมากพอ และเลือกช่วงเวลาที่แดดอ่อนในการพาสุนัขออกไปเล่นนอกบ้าน

10 อาหารต้องห้ามสำหรับสุนัข

คอยควบคุมรูปร่าง และน้ำหนักตัวของสุนัขให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานอยู่เสมอ เพื่อช่วยลดโอกาสการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคอ้วน (Obesity) ด้วยการพาเจ้าตูบไปวิ่งเล่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อีกส่วนนึงคือการควบคุม เอาใจใส่คุณภาพและปริมาณอาหารของสุนัขให้ดี เลือกประเภทอาหารที่เหมาะสมกับตัวสุนัข จะเป็นการทานอาหารแบบบาร์ฟ อาหารปกติทั่วไป หรือจะเป็นอาหารแบบเม็ดหรือแบบเปียกสำหรับสุนัขก็ได้ ถ้าเป็นอาหารทั่วไปก็ควรเป็นอาหารที่ดี มีประโยชน์ เช่น เนื้อไก่สุก เครื่องใน ข้าวเปล่า ผักและผลไม้ที่สุนัขทานได้ โดยไม่ใส่เกลือหรือเครื่องปรุงใดๆ เพิ่มเติม ในปริมาณที่เหมาะสมกับขนาดตัวของมัน ถ้าเป็นอาหารสำหรับสุนัขก็ให้ลองเลือกสูตรและยี่ห้อที่เหมาะกับสุนัขของคุณ ถ้าหากมันมีอาการแพ้อาหารก็ให้เปลี่ยนประเภทหรือยี่ห้อของอาหาร ประกอบกับการขอคำปรึกษาจากสัตวแพทย์เพิ่มเติม

วิธีคำนวนปริมาณการให้อาหารสุนัข

โรคภัยต่างๆ ที่อาจพบใน Leonberger

โรคข้อสะโพกเสื่อม (Hip dysplasia): มันเป็นปัญหาสุขภาพที่สุนัขตัวใหญ่มักจะพบ แต่ว่าเราสามารถช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคนี้ให้เจ้าตูบได้ โดยการคอยควบคุมน้ำหนักตัวของมันให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ด้วยการพามันออกไปวิ่งเล่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อเผาผลาญพลังงานส่วนเกิน แคอยควบคุมปริมาณและคุณภาพอาหารของมันให้ดี ปริมาณอาหารควรพอเหมาะกับขนาดตัว ไม่ให้มันทานมากเกินไป และถ้าเป็นไปได้ ไม่ควรให้สุนัขไปวิ่งเล่นบนพื้นที่ลื่นและมีความมันวาวอย่างพื้นกระเบื้องและพื้นหินอ่อน เพราะมันอาจจะลื่นล้มจนเป็นต้นตอของปัญหาสะโพก
ต้อกระจก (Cataract): เป็นปัญหาเกี่ยวกับดวงตาที่มักจะพบในสุนัขที่เริ่มมีอายุแล้ว ซึ่งสามารถเกิดจากกรรมพันธุ์หรือการได้รับอาการบาดเจ็บที่ดวงตา
กระเพาะอาหารขยายและบิดตัว (Gastric dilatation-volvulus): เกิดจากการที่กระเพาะขยายตัวจากการสะสมของแก๊ส อาหาร หรือน้ำ และเกิดการบิดตัวขึ้นที่กระเพาะอาหาร ซึ่งมักจะเกิดกับสุนัขขนาดใหญ่

นอกจากนี้ยังมีโอกาสในการเกิดโรคภัยอื่นๆ อีก เช่น

ต้อกระจก(Cataract): สามารถเกิดขึ้นได้ในสุนัขทุกช่วงอายุ
กระจกตาเสื่อม (Corneal Degeneration/ Dystrophy): วิธีสังเกตก็คือ มันจะมีจุดเล็กๆ สีขาว ในกระจกตา พบได้บ่อยในสุนัขวัยชรา
โรคลมแดด (Heatstroke): เกิดจากร่างกายของสุนัขระบายความร้อนที่สูงไม่ได้
จอประสาทตาเสื่อม (Progressive Retinal Atrophy)
โรคข้อศอกเสื่อม (Elbow Dysplasia)
โรคพิษสุนัขบ้า (Riabies)
โรคตับอักเสบ (Hepatitis)
โรคผิวหนังอักเสบเป็นหนองในสุนัข (Pyoderma)
โรคเบาหวาน (Diabetes)
ไตวาย (Kidney Failure)