ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ (Labrador Retriever) ข้อมูล นิสัยและการดูแลสุนัขแสนรู้

ลาบราดอร์
แชร์ได้เลยที่ปุ่มด้านล่าง
ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ (Labrador Retriever) เป็นสายพันธุ์สุนัขจากแคนาดาที่ตัวค่อนข้างใหญ่ มันขึ้นชื่อเรื่องความใจดี เป็นมิตร ขี้เล่น แถมยังเฉลียวฉลาดมาก ว่านอนสอนง่าย เป็นสุนัขครอบครัวที่ดีเยี่ยม ไปทำความรู้จักเจ้าตูบสายพันธุ์นี้ให้มากขึ้นกว่าเดิมในบทความนี้กัน

ข้อมูลทั่วไปของลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์

  • ขนาดตัว:  ปานกลางค่อนใหญ่
  • ความสูง:  ตัวผู้: 57-63 ซม. ตัวเมีย: 54-60 ซม.
  • น้ำหนัก:  ตัวผู้: 30–36 กก. ตัวเมีย: 26–32 กก.
  • ลักษณะเฉพาะ:  หูใหญ่ หูพับ หน้าคล้ายสุนัขพันธุ์โกลเดนแต่ขนสั้นกว่า 
  • อายุขัย:  10-12 ปี
  • ปริมาณการผลัดขน: สูง
  • ความยาวขน: สั้น
  • ความฉลาด:  มาก
  • ถิ่นกำเนิด:  เกาะนิวฟันด์แลนด์, แคนาดา

ประวัติของ Labrador Retriever

บรรพบุรุษของเจ้าลาบราดอร์นั้นมีชื่อว่า St. John’s water dog ซึ่งมันอาศัยอยู่ที่เกาะนิวฟันด์แลนด์ในประเทศแคนาดาที่ในปัจจุบันมันสูญพันธุ์ไปแล้ว มันเป็นสุนัขสำหรับนำมาช่วยงานชาวประมง มันเป็นสุนัขที่ขึ้นชื่อในด้านการว่ายน้ำที่คล่องแคล่ว สามารถช่วยชาวประมงจับปลาได้ ความอึดที่ยอดเยี่ยม มันสามารถว่ายน้ำได้ในระยะทางที่ไกลมาก นอกจากนี้ยังเป็นมิตรกับมนุษย์ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมชาวประมงเลือกที่จะใช้งานมันเพื่อช่วยในการประมง
 
ในช่วงปี ค.ศ.1800 ขุนนางอังกฤษได้มาเยือนเกาะนิวฟันด์แลนด์ในประเทศแคนาดา ที่ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของสุนัขสายพันธุ์นี้ พวกเขาได้พบกับสุนัขพันธุ์นี้และหลงไหลในตัวพวกมัน จึงได้ติดสินใจนำมันกลับไปลองเลี้ยงที่ประเทศอังกฤษ พวกเขาลองนำมันไปล่าสัตว์ ชนิดต่างๆ เช่น นกเป็ดน้ำ และพวกเขาก็ยังทำการพัฒนาและปรับปรุงสายพันธุ์นี้ต่อมาเรื่อยๆ จนกลายมาเป็นเจ้าลาบราดอร์ที่ทุกๆ คนรู้จัก
 
หลังจากนั้น ลาบราดอร์ก็เริ่มจะเป็นที่รู้จักทั่วโลก ทางสโมสร American Kennel Club (AKC) ได้ยอมรับสายพันธุ์สุนัขนี้อย่างเป็นทางการในปี ค.ศ.1917 ใบปัจจุบัน มันเป็นสุนัขหนึ่งสายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยงมากๆ ในหลากหลายประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ เจ้าชายวิลเลียมแห่งอังกฤษทรงเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้เช่นกัน นอกจากนี้ในบางประเทศยังใช้มันเป็นสุนัขตำรวจอีกด้วย เพราะความฉลาดแสนรู้ของมัน

ลักษณะนิสัยของลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์

มันเป็นสุนัขที่มีความใจดี อ่อนโยน เป็นมิตรกับผู้คนและสัตว์เลี้ยงอื่นๆ  มีความสามารถในการเข้าสังคมที่ดี มันจึงเหมาะอย่างมากสำหรับการเป็นสุนัขสำหรับครอบครัว คุณสามารถผูกมิตรกับสุนัขพันธุ์นี้ได้อย่างรวดเร็ว มันยังสามารถปรับตัวให้อยู่กับสุนัขและสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน
 
มันเป็นสุนัขที่แอคทีพ พลังงานเยอะที่ชื่นชอบการออกแรง การปลดปล่อยพลัง เช่น การทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัว การวิ่งออกกำลังกายกลางแจ้ง การวิ่งเล่นกับสุนัขตัวอื่นๆ และอื่นๆ เพื่อเป็นการปลดปล่อยพลังงานที่มีในตัวมันอย่างเหลือล้นออกมา มันจึงเหมาะกับผู้เลี้ยงที่มีเวลาในการพามันไประเบิดพลังงานในตัวนอกบ้าน

ความหลากหลายของสีสุนัข

สีตา

ลาบราดอร์จะมีตาโทนสีดำหรือน้ำตาล

สีขน

โทนสีน้ำตาลทั้งหลาย เช่น น้ำตาล, น้ำตาลอ่อน สีน้ำตาลแดง สีน้ำตาลช็อคโกแลต นอกจากนี้ยังมีสีดำและสีขาวครีมอีกด้วย

ความเป็นมิตรของลาบราดอร์ที่มีต่อเด็ก และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ

มันเป็นมิตรกับเด็กๆ ภายในบ้านและผู้คนในครอบครับเป็นอย่างมาก มันมีคงามใจดีต่อเด็ก ขี้เล่น ชอบกิจกรรมที่ต้องเข้าสังคมกับผู้อื่น ชอบให้คนมาเล่นด้วย มันจึงเป็นเพื่อนคลายเหงาที่ดีเยี่ยมให้กับเด็กๆ และผู้คนภายในบ้าน
 
มันมีความเป็นมิตรต่อสุนัขตัวอื่นๆ และสัตว์เลี้ยงตัวอื่น เช่น แมว คุณน่าจะเคยเห็นคลิปวีดีโอในอินเทอร์เน็ต ที่ว่าเจ้าลาบราดอร์ชอบอยู่ด้วยกันกับแมว เล่นกับแมว นอนกับแมว บางครั้งชอบเอาคางไปหนุนแมวเวลานอน เรียกได้ว่ามันเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์สุนัขที่เป็นเพื่อแท้ของเจ้าเหมียวเลยก็ว่าได้
ลาบราดอร์

การดูแลลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์

การดูแลด้านการออกกำลังกาย

มันเป็นสุนัขพันธุ์ที่ต้องการการออกกำลังกายอย่าสม่ำเสมอ คุณควรพามันออกไปเดินนอกบ้านออกกำลังกายบ้าง วันละประมาณ 30 ถึงหนึ่งชั่วโมงก็พอแล้ว จะเป็นการพามันออกไปเดินเล่นตามสวนสาธารณะและบริเวณบ้านก็ได้ หรือไม่ก็ลองหากิจกรรมต่างๆ ที่ทำให้สุนัขได้ออกแรง เช่น การพามันไปว่ายน้ำ ซึ่งมีส่วนช่วยในการปลดปล่อยพลังงานที่มีมากมายในตัวของมันเพื่อลดความเครียด ลดโอกาสที่มันจะกัดข้าวของภายในบ้านเล่น และเพื่อสุขภาพร่างกายที่ดีในระยะยาวของมัน แนะนำว่าควรเลือกช่วงเวลาในการพาสุนัขไปเดินเล่นให้ดี ไม่ควรให้เจ้าตูบไปเดินเล่นตอนกลางวัน เพราะมันมีโอกาสทำให้สุนัขเป็น (heatstroke) ได้ง่าย ควรเลือกช่วงเช้า หรือ ช่วงเย็นจะดีกว่า เพราะว่าเป็นช่วงที่แดดอ่อน อุณหภูมิกำลังพอดี เหมาะสำหรับการพาสุนัขไปทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยกัน 

เรื่องการดูแลขนและความสะอาด

ขนที่สั้นเตียนของมันนั้นดูแลง่าย แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่ต้องการการดูแลเรื่องขน เราควรนำแปรงมาแปรงขนให้มันเป็นครั้งคราว ใบช่วงที่มันผลัดขนเราก็ควรแปรงขนมันเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อช่วยมันนำขนที่ถูกผลัดออกมาจากตัวมันให้หมด ส่วนเรื่องความสะอาด อย่าลืมที่จะเช็ดทำความสะอาดใบหน้า รอบดวงตา และใบหูให้มัน รวมถึงมีการตัดเล็บ และอาบน้ำให้มันบ้าง โดยปกติเราจะอาบน้ำสุนัขทุกๆ 1-3 เดือน แต่ถ้ามันชอบไปเล่นจนเนื้อตัวสกปรก ก็สามารถอาบน้ำมันบ่อยกว่าเดิมได้

การดูแลเรื่องการเข้าสังคมและการฝึกสอน

ถึงแม้ว่ามันจะอ่อนโยนและอัธยาศัยดีมากๆ อยู่แล้ว แต่ว่าเราก็ควรฝึกการเข้าสังคมให้มันบ้าง ด้วยการพามันไปทำกิจกรรมกับคนในบ้าน พาไปพบปะผู้คนและสุนัขตัวใหม่ๆ เพื่อให้มันสามารถอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นได้ดีขึ้น มันจะเป็นเล่นและพี่เลี้ยงให้กับเด็กๆ ภายในบ้านได้อย่างยอดเยี่ยมเลยล่ะ ส่วนเรื่องการฝึกสอน มันเป็นสุนัขที่ฉลาดมากอยู่แล้ว แถมยังมีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ การสอนอะไรสักอย่างให้มันจึงไม่ใช่เรื่องที่ยากเลย

การดูแลด้านสุขภาพโดยรวม

พยายามควบคุมรูปร่าง และน้ำหนักตัวของสุนัขให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเพื่อช่วยลดโอกาสการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคข้อสะโพกเสื่อม (Hip dysplasia) และโรคอ้วน (Obesity) เป็นต้น ด้วยการพาเจ้าตูบไปทำกิจกรรมและออกกำลังกายนอกบ้านอย่างพอดี อีกส่วนนึงคือการควบคุมและเอาใจใส่คุณภาพปริมาณอาหารของสุนัขให้ดี ถ้าเป็นอาหารทั่วไป ก็ควรให้อาหารที่ไม่ได้ใส่เกลือและปรุงแต่งรสชาติใดๆ เพิ่มเติม เช่น เนื้อไก่ เนื้อหมู ไข่ไก่ ข้าวเปล่า ผัก ถั่ว และผลไม้ชนิดที่สุนัขทานได้ เป็นต้น ถ้าเป็นอาหารสำหรับสุนัขก็สามารถเลือกสูตรที่เข้ากับสุนัขของตนเองได้เลย เช่น สูตรสุนัขใหญ่ เป็นต้น

โรคภัยต่างๆ ที่อาจพบใน Labrador Retriever

  • รคข้อสะโพกเสื่อม (Hip dysplasia): เป็นปัญหาสุขภาพที่สุนัขสายพันธุ์ใหญ่อื่นๆ และลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์มักจะเจอ วิธีการช่วยลดโอกาสการเกิดโรคนี้ในสุนัขก็คือการควบคุมน้ำหนักตัวของสุนัขให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของสายพันธุ์ ด้วยการพามันออกไปวิ่งเล่นทำกิจกรรมนอกบ้านอย่างพอเหมาะเป็นประจำ และใส่ใจในเรื่องอาหารการกินของสุนัขให้พอดี
  • กระเพาะอาหารขยายและบิดตัว (Gastric dilatation-volvulus): มักจะเกิดกับสุนัขขนาดตัวค่อนข้างใหญ่ที่มีอกลึก อาการคือ ท้องบวมผิดปกติ ยืนตัวโก่ง น้ำลายไหลเยอะ กระสับกระส่าย และสุนัขดูมีความเจ็บปวดที่ท้อง
  • โรคจอประสาทตาเสื่อม (Progressive Retinal Atrophy): เป็นโรคเกี่ยวกับดวงตาที่สามารถสืบทอดทางกรรมพันธุ์ได้ อาการคือ สุนัขดูมองเห็นได้ไม่ค่อยดีในที่มืด และมักจะเดินชนสิ่งต่างๆ รอบตัว
 

นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่จะเจอโรคภัยอื่นๆ อีก เช่น

  • ต้อกระจก(Cataract): สามารถเกิดขึ้นได้ในสุนัขทุกช่วงอายุ
  • กระจกตาเสื่อม (Corneal Degeneration/ Dystrophy): วิธีสังเกตุก็คือ มันจะมีจุดเล็กๆ สีขาว ในกระจกตา พบได้บ่อยในสุนัขวัยชรา
  • โรคลมแดด (Heatstroke): เกิดจากร่างกายของสุนัขระบายความร้อนที่สูงไม่ได้
  • โรคข้อศอกเสื่อม (Elbow Dysplasia)
  • โรคอ้วน (Obesity)
  • โรคลำไส้อักเสบ (Canine Parvo Virus)
  • ฟันผุ (Tooth decay)
  • โรคเบาหวาน (Diabetes)
  • ไตวาย (Kidney Failure)
  • โรคตับอักเสบ (Hepatitis)
  • โรคหลอดลมอักเสบ (Bronchitis)
  • กลากเกลื้อน (Ringworm)

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับเจ้า Labrador Retriever

  • เป็นสุนัขที่แอคทีพ
  • ขี้เล่น ใจดี
  • มันฉลาดมาก
  • ชอบการออกแรง ใช้แรง
  • เป็นมิตรกับผู้คนและสัตว์เลี้ยงอื่นๆ

Labrador Retriever เหมาะกับผู้ที่

  • ชอบสุนัขที่ตัวค่อนข้างใหญ่
  • ชอบสุนัขขนสั้น
  • ชอบสุนัขเป็นมิตร ไม่ดุ
  • มีเวลาพาสุนัขไปทำกิจกรรมนอกบ้าน
  • เลี้ยงสุนัขไว้เฝ้าบ้าน
  • มีเล็กๆ และสัตว์เลี้ยงอื่นภายในบ้าย

คำถามที่พบบ่อย

  • เลี้ยงในหอพักได้ไหม: ได้ แต่ไม่ค่อยแนะนำเนื่องจากขนาดตัว
  • ดุไหม: ไม่ค่อยดุ
  • เลี้ยงกับแมวได้ไหม: สามารถเลี้ยงกับแมวได้สบายๆ
  • เลี้ยงกับเด็กได้ไหม: สามารถเลี้ยงกับเด็กได้เป็นอย่างดี
  • เหมาะกับผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ไหม: ไม่ค่อยเหมาะกับผู้ที่เป็นภูมิแพ้
  • เฝ้าบ้านได้ไหม: ได้

เรื่องเจ้าตูบที่คุณอาจจะชอบ

 Banner Image