นกกระจอกชวา (Java Finch) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแล

นกกระจอกชวา
แชร์ได้เลยที่ปุ่มด้านล่าง

นกกระจอกชวา (Java Finch) มันเป็นนกแก้วจากประเทศอินโดนีเซียที่มีรูปร่างและสีขนที่ดูราวกับเพนกวินตัวจิ๋วที่สามารถนอนอยู่บนฝ่ามือของคุณได้อย่างสบายๆ มาทำความรู้จักกับมันให้มากขึ้นกัน

เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจได้เลย

ข้อมูลทั่วไปของนกกระจอกชวา

  • น้ำหนัก: 20 – 25 กรัม
  • อายุขัย: 6 – 10 ปี
  • ความฉลาด: ฉลาดพอสมควร
  • ความยาวตัว: 15 – 17 ซม.
  • ถิ่นกำเนิด: ประเทศอินโดนีเซีย
  • ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Lonchura oryzivora
  • ลักษณะเฉพาะ: ขนที่หัวเป็นสีดำ บริเวณแก้มเป็นสีขาว ขนบริเวณปีกและอกเป็นสีเทา จะงอยปากสีแดงส้มสดใส

ประวัติของนกกระจอกชวา

นกระจอกสายพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดที่เกาะอันห่างไกลในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งนั่นก็คือเกาะชวา (Java), เกาะบาหลี (Bali), และเกาะบาเวียน (Bawean) พวกมันชอบที่รวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่และจะอยู่อาศัยอยู่ตามพงหญ้าที่ไม่สูงมากนัก ท้องนาและพื้นที่เกษตรกรรมก็เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มันชอบมาหากินและอยู่อาศัยเช่นกัน มันจึงเป็นที่น่ารำคาญของเกษตรกรหลายๆ ท่านที่อาศัยอยู่บนเกาะแห่งนี้ มันถูกนำไปเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงโดยราชวงศ์หมิงในช่วงศตวรรษที่ 17 และในช่วงศตวรรษที่ 20 ก็ได้มีผู้คนนำมันไปขายเป็นสัตว์เลี้ยงในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมันก็ได้นับความนิยมอย่างรวดเร็วแต่เนื่องจากความสามารถในการปรับตัวที่ดีของมัน มันจึงขยายพันธุ์ตามธรรมชาติและเป็นสัตว์ที่ทำลายพืชผลการเกษตร จึงได้มีการสั่งห้ามไม่ให้เลี้ยงมันในบางรัฐของประเทศอเมริกา

    ข้อควรระวัง

ก่อนเลี้ยงนกควรต้องศึกษาเรื่องกฎหมายก่อน ในปัจจุบันนกบางสายพันธุ์ถูกจัดอยู่ใน CITES บัญชีหมายเลข 1, 2, และ 3 ซึ่งแต่ละบัญชีก็จะมีกฎระเบียบที่ต่างกันออกไป ซึ่งคุณต้องตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนว่าในปัจจุบันนกสายพันธุ์นี้อยู่ที่ CITES บัญชีไหนหรือไม่ มีกฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับการซื้อขายครอบครองนกสายพันธุ์นี้ในปัจจุบันอย่างไร ซึ่งต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด และห้ามซื้อนกที่ถูกดักจับจากป่าอย่างผิดกฎหมาย

ลักษณะนิสัยของนกกระจอกชวา 

ต่างจากนกเลี้ยงหลายๆ สายพันธุ์ มันเป็นนกที่มีความขี้อายกับมนุษย์ มันไม่ต้องการการมีปฏิสัมพันธ์กับเจ้าของและคนอื่นๆ มากเหมือนนกตัวอื่น แต่นกบางตัวก็อาจจะมีความขี้อายน้อยกว่านกตัวอื่น และถึงแม้ว่ามันจะมีความขี้อายกับมนุษย์ แต่เนื่องจากว่ามันมักจะอยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ตามธรรมชาติ มันจึงต้องการที่จะเข้าสังคมกับนกตัวอื่น มันจะมีความสุขเมื่อได้อยู่ร่วมกับนกกระจอกตัวอื่น ถึงแม้ว่านกกระจอกตัวผู้บางตัวจะมีความก้าวร้าวกับนกตัวผู้ตัวอื่นอยู่บ้างเล็กน้อยก็ตาม เราไม่ควรเลี้ยงมันตัวเดียวเพราะว่ามันจะเหงา โดดเดี่ยว และหดหู่จนเกินไป ซึ่งสามารถส่งผลให้อายุขัยของมันสั้นลง
 

การพูดคุยและการส่งเสียง

มันจะส่งเสียงและร้องเพลงหลากหลายทำนองเป็นบางครั้งในเวลาที่มันตื่น ถึงแม้ว่าเสียงของมันจะไม่ดังมาก แต่เสียงของมันก็มีความสูงและแหลมพอสมควร มันจึงไม่ค่อยเหมาะกับผู้ที่ค่อนข้างมีปัญหาเรื่องเสียง ส่วนเรื่องการพูด มันไม่ได้มีทักษะการเลียนแบบคำพูดของมนุษย์เหมือนนกแก้วหลายๆ สายพันธุ์ มันจึงไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสอนนกพูด

ลักษณะภายนอกและความหลากหลายของนก

สีและลักษณะภายนอก

สีขนบริเวณหัวและหางของมันจะเป็นสีดำสนิท ขนบริเวณแก้มใต้ดวงตาจะเป็นสีขาว ขนบริเวณหลัง ปีก และหน้าอกจะเป็นสีเทา ขนบริเวณช่วงท้องจะเป็นสีน้ำตาลจางๆ ขนใต้หางจะเป็นสีขาว จะงอยปากและขอบตาของมันจะเป็นสีส้มอมแดง ส่วนขาจะเป็นสีส้มอมแดงเช่นกัน แต่ก็ยังมีนกที่เกิดการกลายพันธุ์ของสีจนมีสีขนที่แตกต่างออกไปจากนี้ ส่วนเรื่องการแยกเพศนก ตัวผู้และตัวเมียจะมีลักษณะภายนอกที่คล้ายคลึงกัน แต่ก็ยังมี 2-3 วิธีที่สามารถแยกเพศมันด้วยการสังเกตจากตาเปล่า หนึ่งในนั้นคือการดูสีขอบตาและจะงอยปาก สีที่บริเวณนี้ของตัวผู้จะเข้มและสดกว่าตัวเมีย
นกกระจอกชวา

การดูแลนกกระจอกชวา

การดูแลด้านอาหารการกิน

อาหารหลักของมันสามารถเป็นอาหารคุณภาพสูงสำหรับนกเล็กโดยเฉพาะที่มีขายหลากหลายยี่ห้อตามท้องตลาด โดยเราสามารถให้มันทานควบคู่ไปกับอาหารสดชนิดต่างๆ เพื่อเสริมสารอาหารให้ครบถ้วน สัดส่วนอาหารสำเร็จรูปกับอาหารสดก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความเหมาะสมกับตัวนก จะลองให้อาหารสำเร็จรูปประมาณ 75% ของปริมาณอาหารทั้งหมดก่อนก็ได้ อาหารสดที่จะมาเสริมให้มันสามารถเป็นผัก หรือผลไม้ชนิดต่างๆ ก็ได้ เช่น เม็ดมะม่วงหิมพานต์, บรอกโคลี่, ผักโขม, ถั่วงอก, องุ่น, กล้วย เป็นต้น อย่าลืมที่จะหั่นอาหารสดเหล่านี้ออกเป็นชิ้นเล็กๆ ขนาดพอดีคำก่อนที่จะนำไปให้นกกินเพราะว่ามันตัวเล็ก และมันมีอาหารบางชนิดที่เป็นอันตรายกับนกมาก ซึ่งถ้าหากนกทานอาหารเหล่านี้เข้าไป มันอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิต ซึ่งผู้เลี้ยงก็ต้องศึกษาเรื่องนี้ไว้ก่อนรับนกมาเลี้ยง

การดูแลขนและความสะอาด

เราไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องขนและความสะอาดของตัวนกมากมายนักเพราะว่ามันสามารถจัดแต่งขนและทำความสะอาดตัวเองได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าหากว่าเนื้อตัวมันเปื้อนจนเกินกว่าที่จะทำความสะอาดด้วยตัวเองได้ เราแนะนำให้นำกะละมังหรือถาดที่มีน้ำตื้นๆ อยู่ข้างในไปให้มัน แล้วมันก็จะลงไปอาบน้ำและทำความสะอาดขนด้วยตัวเอง และเนื่องจากว่ามันตัวเล็กมาก คุณยังสามารถเปิดน้ำเบาๆ ในอ่างล้างหน้าแล้วให้มันเข้าไปอาบน้ำทำความสะอาดตัวเองในนั้นได้เช่นกัน
 

การดูแลเรื่องที่อยู่อาศัย

ผู้เลี้ยงต้องคอยทำความสะอาดที่อยู่ของมันและบริเวณรอบๆ เป็นประจำเพื่อให้นกของคุณห่างไกลจากปัญหาสุขภาพบางอย่าง และเพื่อไม่ให้นกรู้สึกเครียด อึดอัด และเก็บกด กรงของมันไม่ควรมีขนาดที่เล็กจนเกินไป กรงของมันควรมีพื้นที่มากพอให้มันเล่นและสามารถเคลื่อนไหวไปมาได้สะดวก ที่ที่ตั้งกรงของมันควรไม่มีแดดแรงๆ ส่องมาโดนนกโดยตรงเป็นเวลานาน อากาศถ่ายเทสะดวก อุณหภูมิเหมาะสม ไม่สกปรก และไม่อับชื้น และอย่าลืมที่จะนำของเล่นสำหรับนกชนิดต่างๆ เช่น ของเล่นสำหรับนกที่ทำจากไม้ บอลไม้สำหรับนก คอนเชือก บันไดไม้ และอื่นๆ ให้มันกัดเคี้ยวเล่นในยามว่าง

การออกกำลังกายและอื่นๆ

การให้นกได้ออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญอีกส่วนหนึ่งที่จะทำให้นกของคุณมีสุขภาพที่ดี การที่เรามีกรงนกขนาดใหญ่และสูงมากพอให้มันสามารถออกแรงเคลื่อนไหวไปมาและมีของเล่นข้างในกรงจะทำให้มันได้ออกกำลังกายภายในตัว นอกจากจะทำให้นกมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงแล้ว ยังมีส่วนช่วยให้มันไม่เหงา ไม่หดหู่ และไม่มีปัญหาด้านพฤติกรรม มันไม่ต้องการการออกมาเล่นข้างนอกกรงเหมือนนกแก้วหลายๆ ตัว แค่ผู้เลี้ยงมีพื้นที่ในกรงกว้างๆ ให้มัน มีเพื่อนคู่ใจสักตัวอยู่เป็นเพื่อนกับมันในกรง และมีของเล่นมากมายหลากหลายชนิดสำหรับนกให้มันเล่นข้างใน แค่นี้มันก็มีความสุขมากแล้ว แต่ถ้าคุณสะดวก คุณสามารถลองนำมันออกมาเล่นในที่ที่ปลอดภัยข้างนอกกรงบ้างเป็นครั้งคราว
 

ปัญหาสุขภาพที่อาจพบใน Java Finch

มันมีแนวโน้มที่จะได้รับวิตามิน A ไม่เพียงพอ เราจึงควรเสริมอาหารสดที่อุดมไปด้วยวิตามิน A อย่างเช่นมะละกอสุกให้มันทานบ้าง และมันก็มีโอกาสที่จะมีปัญหาสุขภาพที่มักจะพบเจอในนกหลายๆ ชนิด เช่น
 
  • ปัญหาน้ำหนักเกิน (Obesity in Birds): เกิดจากการที่นกทานอาหารประเภทที่มีปริมาณไขมันสูงมากเกินไป ซึ่งจะส่งผลให้นกอ้วน และอาจจะทำให้นกมีปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมาภายหลัง วิธีป้องกัน คือ ลดปริมาณอาหารประเภทที่อุดมไปด้วยไขมัน อย่างเช่น เมล็ดพืชและถั่ว เป็นต้น แล้วไปเพิ่มสัดส่วนอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน แต่มีปริมาณแคลอรี่ที่ต่ำกว่า
  • โรคติดเชื้อโพลีโอมาไวรัส (Polyomavirus): มันเป็นโรคร้ายแรงสำหรับนกที่สามารถติดต่อกันไปยังนกตัวอื่นได้ นับจากวันที่ติดเชื้อมันจะใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ที่จะแสดงอาการ อาการที่สามารถสังเกตได้จากภายนอกคือ นกจะมีอาการเซื่องซึม ท้องบวม เบื่ออาหาร น้ำหนักลด หายใจติดขัดและท้องเสีย แต่นกบางตัวจะไม่แสดงอาการจนกระทั่งเป็นหนักแล้ว การหมั่นรักษาความสะอาดและฆ่าเชื้อที่อยู่รอบตัวมันและไม่ให้มันเข้าใกล้นกตัวอื่นที่ดูสุขภาพไม่ดีจะช่วยลดโอกาสในการเป็นโรคนี้
  • ไรในนก (Bird Mites): ไรในนกนั้นเป็นตัวร้ายที่จะทำให้นกของคุณมีปัญหาสุขภาพ และอาจจะร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต แถมยังสามารถสร้างความรำคาญให้กับผู้เลี้ยงและคนในบ้านอีกด้วย อาการที่สามารถสังเกตได้ คือ น้องจะน้ำหนักตัวลดลง ขนยุ่ง และน้องจะกัดขนและตกแต่งขนบ่อยผิดปกติ ขนร่วง และผิวหนังมีแผล วิธีป้องกันเบื้องต้น คือ หมั่นรักษาความสะอาดกรงของนก ไม่ให้กรงของนกมีความอับชื้น และไม่ให้น้องเข้าใกล้นกจากธรรมชาติตัวอื่น โดยเฉพาะนกพิราบ ที่อาจจะมีไรนกติดมาด้วย
  • โรคซิตาโคซิส (Psittacosis): หรือที่เรียกกันว่า “โรคไข้นกแก้ว” โรคนี้ไม่ได้เป็นกับนกแก้วเท่านั้น มันเป็นโรคที่สามารถติดจากนกและสัตว์ปีกชนิดอื่นๆ เช่น เป็ด สู่คนผ่านทางเดินหายใจ ผู้ที่ติดเชื้อนี้จะมีอาการเป็นไข้ ตัวสั่น ปวดศีรษะ นกที่อาจจะติดเชื้อไวรัสนี้จะมีอาการเซื่องซึม ไม่ค่อยทานอาหาร ถ่ายบ่อย และมูลนกจะมีสีแปลกไปจากปกติ

Java Finch เหมาะกับผู้ที่

  • มีเวลาในการมาอยู่ร่วมกับนกไม่มากนัก
  • มีเพื่อนนกอีกตัวมาอยู่ร่วมกับมัน
  • ชอบนกที่ดูแลง่าย ไม่จำเป็นต้องให้ความสนใจมากมาย
  • มีพื้นที่ในการเลี้ยงนกไม่มากนัก
  • ชอบนกตัวเล็ก

คำถามที่พบบ่อย

  • เข้ากันกับนกสายพันธุ์อื่นได้ไหม: มันเข้ากันกับนกสายพันธุ์อื่นได้ โดยเฉพาะนกที่มีขนาดตัวใกล้เคียงกับมัน
  • ปัญหาสุขภาพเยอะไหม: ถ้าเลี้ยงดูมันมาเป็นอย่างดีและถูกต้อง มันจะไม่ค่อยมีปัญหาสุขภาพ

เรื่องนกๆ ที่คุณอาจจะชอบ

 Banner Image