แมวหิมาลายัน (Himalayan cat) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลแมว

แมวหิมาลายัน
แชร์ได้เลยที่ปุ่มด้านล่าง

แมวหิมาลายัน (Himalayan cat) มันเป็นสายพันธุ์แมวจากสหรัฐอเมริกา ที่เรียกได้ว่าเป็นแมวเปอร์เซียที่มีลายแต้มสีสวยๆ ของแมววิเชียรมาศอยู่ในตัว แล้วมันมีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง มาค้นหาคำตอบในบทความนี้กัน 

ข้อมูลทั่วไปของแมวหิมาลายัน

  • ขนาดตัว: ค่อนข้างเล็กจนถึงปานกลาง
  • ความสูง: 25 – 30 ซม. วัดจากไหล่
  • น้ำหนัก: 3.1 – 5.4 กก.
  • อายุขัย: 9 – 15 ปี
  • ความยาวขน: ยาว
  • ความฉลาด: ปานกลาง
  • ถิ่นกำเนิด: ประเทศสหรัฐอเมริกา 🇺🇸 
  • ความต้องการการเอาใจใส่: สูง
  • ลักษณะเฉพาะ: ขนยาวๆ ที่ดูมีความนุ่มฟู บางตัวมีแต้มสีเข้มเหมือนกับแมวพันธุ์วิเชียรมาศ หูตั้งทรงสามเหลี่ยม ปากค่อนข้างสั้น

ประวัติของแมวหิมาลายัน

มันเป็นแมวสายพันธุ์ที่ค่อนข้างใหม่ มันมีต้นกำเนิดที่ประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงปี ค.ศ. 1930 โดยเกิดจากการที่นักเพาะพันธุ์แมวใน 2 สายพันธุ์แมวที่ได้รับความนิยมมากในขณะนั้น นั่นคือแมวพันธุ์วิเชียรมาศของไทย และแมวเปอร์เซียมาผสมข้ามสายพันธุ์กัน จนมันกลายมาเป็นแมววิเชียรมาศ ที่ยังคงมีแต้มสีเข้มตามจุดต่างๆ ของร่างกาย แต่ว่าขนของมันจะยาวเหมือนแมวเปอร์เซีย ซึ่งเจ้าแมวตัวนี้นั่นก็คือแมวหิมาลายันในบทความนี้นั่นเอง
 
ต้องขอบคุณนักเพาะพันธุ์ชาวอเมริกันที่ชื่อว่า Marguerita Goforth ที่พยายามจะเพาะพันธุ์แมวหิมาลายันให้มีจำนวนที่มากขึ้น ในที่สุด มันก็ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากองค์กร Cat Fanciers’ Association (CFA) ในปี ค.ศ. 1957 ซึ่งความนิยมของแมวสายพันธุ์นี้ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนมันได้รับความนิยมสูงสุดในปี ค.ศ. 1996 ในปัจจุบัน มันยังคงได้รับความนิยมจากคนรักแมวจากหลายๆ ประเทศอยู่บ้าง ซึ่งมันถือว่าเป็นอีกหนึ่งความหลากหลายของแมวเปอร์เซีย

ลักษณะนิสัยและความเป็นมิตรของแมวหิมาลายัน

มันเป็นแมวที่มีความอ่อนหวาน อ่อนโยน เชื่อง ใจเย็น ไม่ซุกซน และสงบ แต่ในบางครั้งมันอาจจะมีขี้เล่นอยู่บ้างเล็กน้อย มันจะไม่ซุกวนเกินไปจนทำให้คุณปวดหัว แค่คุณมีเสาลับเล็บให้มันฝนเล็บเล่น มีของเล่นแมวชนิดต่างๆ ให้มันไล่ตะปบเล่น มันก็มีความสุขแล้ว มันเป็นแมวที่มีความเป็นมิตรกับผู้คนและสัตว์เลี้ยงตัวอื่น สามารถเข้ากันกับผู้อื่นได้ง่าย มันมีความรักให้กับเจ้าของและสมาชิกคนอื่นในครอบครัว มันชอบการมีปฏิสัมพันธ์กับคนที่มันรักและใช้เวลาอยู่ร่วมกับพวกเขา จึงไม่แปลกใจเลยที่มันจะเป็นที่รักของคนรอบตัวและสัตว์เลี้ยงตัวอื่น

ความหลากหลายของสีแมว

สีตา

สีตาของแมวสายพันธุ์นี้จะเป็นโทนสีฟ้า

 

สีขน

แมวสายพันธุ์นี้มีสีขนเป็นสีครีมหรือสีขาว ส่วนลวดลายบนตัวของมันจะเป็นแบบแต้มสี (Color point) ซึ่งแต้มสีนี้สามารถเป็นสีน้ำตาลไหม้ (Seal), สีช็อคโกแลต (Chocolate), สีน้ำเงิน (Blue), สีน้ำตาลแดง (Red), สีลาเวนเดอร์ (Lilac), สีครีม (Cream)
แมวหิมาลายัน

การดูแลแมวหิมาลายัน

การดูแลด้านการออกกำลังกาย

ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแมวที่ไม่ค่อยกระตือรือร้น แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านแนะนำว่าแมวควรได้รับการออกกำลังกายบ้าง ผู้เลี้ยงจึงควรกระตุ้นให้มันได้ออกแรงปลดปล่อยพลังงานบ้าง จะเป็นการซื้อเสาฝนเล็บมาให้มันได้ออกแรงขีดข่วนฝนเล็บ เพื่อช่วยให้แมวรู้สึกผ่อนคลาย ได้ยืดเหยียดออกกำลังกาย และลดโอกาสที่แมวจะไปขีดข่วนเฟอร์นิเจอร์และข้าวของในบ้านของคุณ 
 
จะเป็นการซื้อคอนโดแมวไว้ให้มันปีนป่ายสำรวจ หรือจะเป็นการใช้ไม้ตกแมว ของเล่นแบบติดพื้น หรือจะเป็นขนไก่ไปเล่นหยอกล้อกับเจ้าเหมียวก็ได้ เพื่อให้มันได้วิ่งออกแรง กระโดด และไล่ตะปบสิ่งเหล่านั้น มันมีส่วนช่วยให้แมวมีกล้ามเนื้อแข็งแรง มีสุขภาพดี ห่างไกลจากปัญหาสุขภาพบางอย่าง 
 

เรื่องการดูแลขนและความสะอาด

มันเป็นแมวที่ขนยาว จึงจำเป็นที่จะใส่ใจเรื่องการดูแลขนให้มัน ด้วยการนำแปรงมาหวีขนให้มันบ้าง ประมาณ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อให้ขนของมันไม่พันกันเป็นก้อน และเพื่อกำจัดขนตาย รวมถึงสิ่งสกปรกที่ติดค้างอยู่ในตัวแมวออกมาให้หมด และถึงแม้ว่าส่วนมากแมวจะใช้เวลาในการทำความสะอาดตัวเองได้มากถึง 50% ของเวลาตอนมันตื่นทุกวันอยู่แล้ว แต่ว่าเราก็ควรช่วยมันทำความสะอาดร่างกายในจุดที่มันทำความสะอาดเองไม่ได้บ้าง เช่น บริเวณใบหน้า รอบดวงตา ใบหู ด้วยสำลีหรือผ้าสะอาดอย่างเบามือ รวมถึงมีการตัดเล็บ แปรงฟัน และอาจจะมีการอาบน้ำให้มันบ้างหากว่ามันเริ่มสกปรกมาก และไม่ควรให้มันไปคลุกคลีกับแมวตัวอื่นที่ไม่รู้จัก เพราะมันเสี่ยงต่อการติดหมัดแมวจากแมวตัวอื่น
 

การดูแลเรื่องสุขภาพโดยรวม

ถึงแม้แมวจะมีโอกาสเป็นโรคลมแดดน้อยกว่าสุนัขพอสมควร แต่อากาศในประเทศไทยนั้นร้อนมากๆ แถมมันยังเป็นแมวที่มีใบหน้าที่ค่อนข้างสั้นซึ่งเสี่ยงต่อการเป็นลมแดดมากกว่าแมวหลายๆ สายพันธุ์ ผู้เลี้ยงจึงควรศึกษาเรื่องนี้ไว้บ้าง วิธีป้องกันเบื้องต้น คือ เราควรให้แมวอยู่ในที่ที่อากาศไม่ร้อนและไม่อบอ้าว ไม่มีแดดแรงส่องมากระทบตัวมันตรงๆ เป็นเวลานาน มีน้ำสะอาดให้มันดื่มมากพอ และควรเช็คให้แน่ใจเสมอว่าคุณไม่ได้ลืมมันทิ้งไว้บนรถยนต์ร้อนๆ ที่ดับเครื่องแล้ว ถ้าหากคุณชอบพาแมวออกไปเดินเล่นนอกบ้าน ก็ควรพามันออกข้างนอกในช่วงที่แดดอ่อน เช่น ตอนเช้า
คอยควบคุมรูปร่าง และน้ำหนักตัวของแมวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของสายพันธุ์อยู่เสมอ เพื่อช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวกับน้ำหนักตัว เช่น โรคอ้วน (Obesity) ด้วยการกระตุ้นให้เจ้าเหมียวได้ออกแรงทำกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเผาผลาญแคลอรี่ส่วนเกิน อีกส่วนนึงคือการควบคุมและเอาใจใส่คุณภาพและปริมาณอาหารของแมว เลือกประเภทอาหารที่เหมาะสมกับตัวแมว จะเป็นการทานอาหารแบบบาร์ฟที่มีข้อดีหลายอย่าง เป็นอาหารปกติทั่วไป เป็นอาหารแมวแบบเม็ดที่เก็บได้นาน หรือจะเป็นอาหารแมวแบบเปียกที่ช่วยกระตุ้นความอยากอาหารของแมวก็แล้วแต่ความสะดวกและเหมาะสม ถ้าเป็นอาหารทั่วไปก็ควรเป็นอาหารที่ดี มีประโยชน์ เช่น เนื้อไก่ เนื้อปลาทู ไข่ไก่ ข้าวเปล่า ผักและผลไม้ที่แมวทานได้มาคลุกให้เข้ากัน โดยไม่ใส่เกลือหรือเครื่องปรุงรสใดๆ ลงไปเพิ่มเติม ในปริมาณที่เหมาะสมกับขนาดของตัวแมว ถ้าเป็นอาหารสำหรับแมวโดยเฉพาะก็ให้เลือกสูตรที่เหมาะสมกับแมวของคุณ เช่น สูตรแคลอรี่ต่ำ ส่วนขนมที่มนุษย์ทานก็ควรให้มันทานในปริมาณที่น้อย หรือไม่ให้มันทานเลยจะดีกว่า เนื่องจากขนมเหล่านี้มักจะมีพลังงานและโซเดียมสูง
 

โรคภัยต่างๆ ที่อาจพบในแมว Himalayan cat

  • โรคถุงน้ำในไต (Polycystic Kidney Disease): โรคนี้สามารถถ่ายทอดได้ทางกรรมพันธุ์ ถ้าพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ของแมวเป็นโรคนี้ ก็มีโอกาสที่ลูกแมวของมันจะเป็นด้วย อาการที่สามารถบ่งบอกว่าแมวของคุณอาจจะเป็นโรคนี้ นั่นคือการที่แมวมีความกระหายน้ำมากผิดปกติ ปัสสาวะบ่อย น้ำหนักลด อาเจียน เซี่องซึม และอาจจะมีความดันโลหิตสูง 
  • โรคหอบหืดในแมว (Feline Asthma): เป็นโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจชนิดหนึ่งที่พบได้ในแมวทุกเพศทุกวัย สิ่งที่สามารถกระตุ้นให้แมวมีปัญหาสุขภาพนี้ได้ นั่นคือควันบุหรี่ สารเคมี และฝุ่นละออง และอื่นๆ อาการที่สามารถสังเกตได้ คือ แมวจะดูเหนื่อยง่าย และมักจะมีการไอมากผิดปกติ

 

นอกจากนี้ยังมีโอกาสเจอโรคภัยอื่นๆ ดังนี้

  • โรคเชื้อราแมว (Ringworm)
  • โรคพิษสุนัขบ้าในแมว (Rabies)
  • การบาดเจ็บจากการตกจากที่สูง (High-rise syndrome)
  • โรคลิวคีเมีย (Feline Leukemia Virus)
  • โรคเอดส์แมว (Feline Immunodeficiency Virus)
  • โรคเบาหวาน (Diabetes)
  • โรคไตในแมว (Kidney Disease)
  • โรคไข้หัดแมว (Panleukopenia)
  • มะเร็งชนิดต่างๆ (Cancer)
  • โรคพยาธิหัวใจในแมว (Heart Worm Disease in Cats)
  • โรคระบบทางเดินปัสสาวะส่วนล่างในแมว (Feline Lower Urinary Tract Disease)
  • โรคอ้วน (Obesity)

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ Himalayan cat

  • เป็นแมวที่มีความรักให้กับผู้คนในครอบครัว
  • มันมีความเป็นมิตรกับคนแปลกหน้าและสัตว์ตัวอื่น
  • มันเป็นแมวที่ไม่ค่อยซุกซน มักจะอยู่เงียบๆ
  • มันเป็นแมวที่มีความอ่อนหวาน และสงบ
  • มันมีโรคภัยที่มักจะเจอบ่อยๆ ที่ผู้เลี้ยงควรทราบ

Himalayan cat เหมาะกับผู้ที่

  • ชอบแมวที่มีความสงบ ไม่ค่อยซุกซน
  • ชอบแมวขนยาว
  • มีพื้นที่ที่ไม่ร้อนให้มันอยู่
  • มีเวลาอยู่ร่วมกับมัน ดูแลขน และทำกิจกรรมกับมันบ้าง
  • มีเด็กๆ สุนัข และแมวตัวอื่นอยู่ภายในบ้าน

คำถามที่พบบ่อย

  • หาซื้อได้ที่ไหน: ในประเทศไทยมีแมวสายพันธุ์นี้ขายอยู่บ้าง สามารถค้นหาได้ตาม Facebook และ Google
  • ปัญหาสุขภาพเยอะไหม: แมวบางตัวจะมีปัญหาสุขภาพที่มักจะเจอในแมวเปอร์เซียทั่วไป

เรื่องเจ้าเหมียวที่คุณอาจจะชอบ

 Banner Image