อาการฮีทสโตรก หรือ โรคลมแดดในสุนัขนั้นเป็นอาการที่พบได้ค่อนข้างบ่อยในหน้าร้อน โดยเฉพาะหน้าร้อนเมืองไทย ที่ร้อนจนเหมือนจะแผดเผาทุกสิ่ง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงชนิดต่างๆ โดยเฉพาะ สุนัขและแมว ควรที่จะมีความรู้ด้านนี้อย่างยิ่ง ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบพาสัตว์เลี้ยงของคุณไปทำกิจกรรมกลางแจ้งยิ่งต้องรู้เป็นพิเศษ
เชื่อว่าหลายๆท่านอาจจะคิดว่า สุนัขเป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแรง สามารถทนต่อสภาพแวดล้อมและอุณหภูมิต่างๆได้หมด ก็จริงที่ว่าสุนัขบางสายพันธุ์สามารถทนต่ออุณหภูมิได้ดี แต่ว่ามันก็มีขีดจำกัดอยู่ดี
อาการฮีทสโตรกในสุนัข คืออะไร
อาการฮีทสโตรกในสุนัขนั้นคือการที่สุนัขมีอุณหภูมิในร่างกายสูงมากเกิน 40 องศาโดยประมาณ (สุนัขบางสายพันธุ์อาจจะทนได้น้อยกว่านี้) และร่างกายนั้นก็ไม่สามารถที่จะควบคุม จัดการ หรือปรับความร้อนภายในร่างกายนั้นได้ ทำให้อุณหภูมิในร่างกายเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอาจจะส่งผลร้ายแรงกับเจ้าตูบ ถ้าหากปฐมพยาบาลไม่ทัน
สายพันธุ์สุนัขที่ควรจะระวังเรื่องฮีทสโตรกเป็นพิเศษ
สุนัขบางสายพันธุ์มีขีดจำกัดในการทนความร้อนได้น้อยกว่าสุนัขพันธุ์อื่นๆ จึงควรเอาใจใส่เรืองนี้เป็นพิเศษ เช่น
- ปั๊ก
- ชิสุ
- ปักกิ่ง
- เชาเชา
- โกลเด้น รีทรีฟเวอร์
- สุนัขตระกูล bulldog ทั้งหลาย
- คาวาเลียร์ คิง ชาร์ลส์ สแปเนียล
- สุนัขสายพันธุ์ที่มีหน้าสั้นอื่นๆ
อาการที่เกิดขึ้นเมื่อสุนัขเป็นฮีทสโตรก
- เหนื่อยหอบ
- ปากแห้งกร้าว
- สีเหงือกผิดปกติ
- เซื่องซึม
- มึนงง
- ชัก
ฮีตสโตรกในสุนัขเกิดจากอะไร
โรคลมแดดในสุนัขสามารถเกิดจากการที่สุนัขของคุณใช้พลังงานหนักเกินไปในกลางแจ้งหรือในที่อากาศร้อนมาก เช่น การวิ่งเล่น หรือว่าเจ้าของพาไปวิ่งออกกำลังกาย เป็นต้น และเมื่อสุนัขใช้พลังงานเยอะ บวกกับแดดที่ร้อนจัด ก็อาจจะทำให้เกิดฮีทสโตรกได้ การที่สุนัขตากแดดเฉยๆเป็นเวลานานก็สามารถทำให้เกิดอาการนี้ได้เช่นเดียวกัน
คุณรู้อะไรไหมว่าสุนัขก็สามารถเป็นฮีทสโตรกได้โดยที่ไม่ต้องโดนแดดเลยเหมือนกัน เช่น การที่คุณปล่อย หรือว่าลืมสุนัขไว้บนรถในวันที่อากาศร้อนจัด ยิ่งถ้ารถตากแดดอยู่ยิ่งกระตุ้นให้อาการฮีทสโตรกเกิดง่ายขึ้น คุณจึงไม่ควรทิ้งสุนัขไว้บนรถในวันที่อากาศร้อนจัดเป็นอันขาด
อันตรายของฮีทสโตรกในสุนัข
เมื่อสุนัขเกิดอาการฮีทสโตรก ให้รีบพาสุนัขไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะถ้าหากว่าอาการฮีทสโตรกนั้นหนักจริงๆ อาจจะทำให้สุนัขเสียชีวิตภายใน 15 นาที นอกจากนี้อาการฮีทสโตรกนั้นสามารถทำให้เกิดอาการข้างเคียงได้อีก เช่น อวัยวะภายในร่างกายเสียหาย เป็นต้น
วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น
ในระหว่างที่พาสุนัขไปพบแพทย์ คุณต้องปฐมพยาบาลสุนัขเบื้องต้นก่อน นั่นคือการช่วยลดความร้อนในร่างกายสุนัขให้ต่ำลง วิธีการคือ
- ให้เอาผ้าไปชุบกับน้ำที่อุณหภูมิเย็น (แต่ไม่เย็นมาก) แล้วก็นำมาเช็ดตามจุดต่างๆ ของสุนัข เช่น หัว ท้อง รักแร้ ขา เป็นต้น
- หมั่นเปลี่ยนน้ำ และเปลี่ยนผ้าที่ดูดซับความร้อนมาแล้ว แล้วก็หมั่นเช็ดตัวให้สุนัขเรื่อยๆ เพื่อลดอุณหภูมิในร่างกายในตัวสุนัขให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนถึงโรงพยาบาล
วิธีป้องกัน
- อย่าให้สุนัขอยู่ในกลางแจ้งนานเกินไป โดยเฉพาะวันที่อาการร้อน
- พยายามให้สุนัขอยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเท และมีร่มเงา
- อย่าทิ้งสุนัขไว้บนรถในวันที่อากาศร้อน
- ให้สุนัขวิ่งเล่นหรือออกกำลังกายในช่วงที่แดดไม่แรงแทน เช่น ช่วงเช้า ช่วงเย็น
- อย่าให้สุนัขของคุณขาดน้ำเป็นเวลานาน
สรุป
อย่ามองข้ามเรื่องความร้อนที่สุนัขของคุณเจอในแต่ละวัน เพราะว่ามันอาจจะทำให้เกิดความสูญเสียเหมือนกับที่คนเลี้ยงสุนัขหลายๆคนต้องพบเจอ สุนัขก็เหมือนคน ที่ไม่สามารถทนความร้อนที่สูงมากเกินไปได้ พยายามให้สุนัขอยู่ในที่ๆ เย็น อากาศถ่ายเทสะดวก งดวิ่งเล่นหนักๆ ช่วงกลางวัน ในวันที่อากาศร้อน และอย่าให้สุนัขขาดน้ำ เท่านี้ก็ป้องกันฮีทสโตรกในสุนัขได้เป็นอย่างดีแล้ว
เรื่องเจ้าตูบที่คุณอาจจะชอบ
อ่านเรื่องไหนต่อดี
แมวโคราช (Korat Cat) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลแมว
บรัสเซิลส์ กริฟฟัน (Brussels Griffon) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลสุนัข
นกกระเจี๊ยบแดง (Crimson Rosella) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแล
10 อาหารสุนัขไซบีเรียน ยี่ห้อไหนดีและช่วยให้ขนนุ่มสวยเงางาม ปี 2023
ออตเตอร์ฮาวด์ (Otterhound) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลสุนัขสายพันธุ์นี้
220+ ชื่อแมวจากอาหาร มีหลากหลายภาษาให้เลือก
บอมเบย์ (Bombay) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลแมวสายพันธุ์นี้
100+ ชื่อแมวสีเทา ที่ดูดีและมีความเรียบหรูเข้ากันกับสีขนของน้อง