ฮีทสโตรก หรือ โรคลมแดดในแมวนั้นเป็นอาการอาจจะพบได้ในหน้าร้อน โดยเฉพาะหน้าร้อนเมืองไทย ผู้ที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงชนิดต่างๆ โดยเฉพาะ แมวและสุนัข ควรที่จะศึกษาเรื่องฮีทสโตรกอย่างยิ่ง ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบพาสัตว์เลี้ยงของคุณไปทำกิจกรรมกลางแจ้งยิ่งควรต้องรู้เอาไว้
แม้ว่าแมวจะมีโอกาศการเกิดฮีทสโตรก (heatstroke) ได้น้อยกว่าสุนัข แต่ว่ามันก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่งโดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในเมืองร้อนอย่างพวกเรา
ฮีทสโตรกในแมว คืออะไร
อาการฮีทสโตรกในแมวนั้นคือการที่อุณหภูมิในร่างกายแมวสูงกว่า 39.8 องศาโดยประมาณ (แมวบางสายพันธุ์อาจทนได้น้อยกว่านี้) และร่างกายนั้นก็ไม่สามารถที่จะจัดการ หรือปรับความร้อนภายในร่างกายได้ ทำให้อุณหภูมิในร่างกายเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอาจจะส่งผลเสียร้ายแรงกับเจ้าเหมียวถ้าหากได้รับการรักษาที่ถูกต้องไม่ทัน
สายพันธุ์แมวที่ควรจะระวังเรื่องฮีทสโตรกเป็นพิเศษ
แมวบางสายพันธุ์มีขีดจำกัดในการทนความร้อนได้น้อยกว่าแมวพันธุ์อื่นๆ เช่น
- เปอร์เซีย
- หิมาลายัน
- บริทิส ชอร์ตแฮร์
- สก๊อตทิช โฟลด์
- แมวสายพันธุ์ที่มีหน้าสั้นอื่นๆ
อาการของแมวที่เป็นฮีทสโตรก
- หายใจเร็วผิดปกติ
- มึนงง เซื่องซึม
- เหนื่อยหอบ
- ปากแห้งกร้าว
- สีเหงือกผิดปกติ
- เกิดอาการชัก
ฮีตสโตรกในแมวเกิดจากอะไร
โรคลมแดดในแมวสามารถเกิดจากการที่แมวของคุณอยู่ในกลางแจ้งหรือในที่อากาศร้อนมาก เช่น โรงรถ บวกกับแมวไม่สามารถระบายความร้อนด้วยการขับเหงื่อเหมือนที่มนุษย์ทำได้ ก็อาจจะทำให้เกิดฮีทสโตรกได้
แมวสามารถเป็นฮีทสโตรกได้โดยที่ไม่ต้องโดนแดดเลยเหมือนกัน เช่น การที่คุณปล่อย หรือว่าลืมสุนัขไว้บนรถ หรือในโรงรถในวันที่อากาศร้อนจัด ยิ่งถ้ารถตากแดดอยู่ยิ่งกระตุ้นให้อาการฮีทสโตรกเกิดง่ายขึ้น คุณจึงไม่ควรทิ้งแมวไว้ในที่ร้อนๆในวันที่อากาศร้อนจัดเป็นอันขาด
อันตรายของฮีทสโตรกในแมว
เมื่อแมวเกิดอาการฮีทสโตรก ให้รีบพาเจ้าเหมียวไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะถ้าหากว่าอาการฮีทสโตรกนั้นหนักจริงๆ มันสามารถทำให้เกิดอาการข้างเคียงได้อีก เช่น อวัยวะภายในร่างกายเสียหาย เป็นต้น และอาจจะหนักถึงขั้นเสียชีวิตหากได้รับการรักษาที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ทันเวลา
วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น
ในระหว่างที่พาแมวไปพบแพทย์ คุณต้องปฐมพยาบาลแมวเบื้องต้นก่อน วิธีการคือ
- ให้เอาผ้าไปชุบกับน้ำที่อุณหภูมิเย็น (แต่ไม่เย็นมาก) แล้วก็นำมาเช็ดตามจุดต่างๆ ของแมว เช่น รักแร้ ท้อง หัว ขา ลำคอ เป็นต้น
- หมั่นเปลี่ยนน้ำ และเปลี่ยนผ้าที่ดูดซับความร้อนมาแล้ว แล้วก็หมั่นเช็ดตัวให้แมวเรื่อยๆ เพื่อช่วยลดอุณหภูมิในร่างกายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนถึงโรงพยาบาล
วิธีป้องกันฮีทสโตรกในแมว
- อย่าให้แมวอยู่ในกลางแจ้งนานเกินไป โดยเฉพาะวันที่อาการร้อน
- ให้แมวอยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเท และมีร่มเงา
- อย่าให้แมวของคุณขาดน้ำเป็นเวลานาน
- อย่าทิ้งแมวไว้ในที่ร้อนๆ เช่น บนรถ โรงรถ ในวันที่อากาศร้อน
สรุป
อย่ามองข้ามเรื่องฮีทสโตรกในแมว ถึงแม้ว่าโอกาสที่จะเกิดจะต่ำกว่าสุนัข เพราะว่ามันอาจจะทำให้เกิดความสูญเสียเหมือนกับที่คนรักแมวหลายๆคนต้องพบเจอ พยายามให้เจ้าเหมียวอยู่ในที่ๆ เย็น อากาศถ่ายเทสะดวก อย่าพาไปตากแดดนานเกินไป และอย่าให้แมวขาดน้ำ เท่านี้แมวของคุณก็ห่างไกลกับโรคลมแดดแล้ว
เรื่องเจ้าเหมียวที่คุณอาจจะชอบ
อ่านเรื่องไหนต่อดี
นกแก้วคาคาริกิ (Kakariki Parrot) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแล
เคสแอร์แทคแมว และปลอกคอแมว Airtag แบบไหนดี ปี 2023
ปุลิ (Puli) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลสุนัขขนเกลียว
มอลทิพู (Maltipoo) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลสุนัข
ผักผลไม้ที่กระต่ายกินได้ และผักผลไม้ที่ห้ามให้กระต่ายกิน
ปาปิยอง (Papillon) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลสุนัขสายพันธุ์นี้
คีชอน (Keeshond) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลสุนัข
นกกาลาห์ (Rose-Breasted Cockatoo) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแล