นกฟินช์เจ็ดสี (Gouldian Finch) มันเป็นนกตัวเล็กจากประเทศออสเตรเลียที่มีเฉดสีมากมายอยู่ในตัว ที่จะมาเติมสีสันให้วันของคุณไม่น่าเบื่ออีกต่อไป มาทำความรู้จักกับมันให้มากขึ้นกันเถอะ
ข้อมูลทั่วไปของนกฟินช์เจ็ดสี
- น้ำหนัก: 11 – 15 กรัม
- อายุขัย: 6 – 10 ปี
- ความฉลาด: ฉลาดพอสมควร
- ความยาวตัว: 12 – 15 ซม.
- ถิ่นกำเนิด: ประเทศออสเตรเลีย 🇦🇺
- ชื่ออื่น: Rainbow Finch
- ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Erythrura gouldiae
- ลักษณะเฉพาะ: มีสีสันบทตัวถึง 7 สี ที่แบ่งสัดส่วนบนร่างกายอย่างชัดเจนและสวยงาม
ประวัติของนกฟินช์เจ็ดสี
นกสายพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดที่ประเทศออสเตรเลีย มันชอบที่จะอยู่ในบริเวณป่าเขตร้อนและทุ่งหญ้าที่มีแหล่งน้ำอยู่ใกล้เคียง ในช่วงปี ค.ศ. 1840 นักปักษีวิทยาชาวอังกฤษท่านหนึ่งที่ชื่อว่า คุณ John Gould ได้ค้นพบมันและได้หลงใหลในเสน่ห์เฉพาะตัวของมัน จึงได้นำมันกลับมายังประเทศอังกฤษเพื่อเป็นของขวัญให้แก่ภรรยาของเขา ซึ่งนั่นเป็นตัวจุดชนวนให้มันเริ่มได้รับความสนใจและเป็นที่นิยมของชาวอังกฤษอย่างรวดเร็ว และเนื่องจากว่าผู้คนต้องการตัวมันเป็นอย่างมาก จนเกิดการดักจับนกในป่าและส่งออกเป็นจำนวนมาก ประกอบกับการตัดไม้ทำลายป่าที่เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของมัน จึงทำให้จำนวนประชากรของนกสายพันธุ์นี้ในป่าลดลงอย่างรวดเร็ว
ข้อควรระวัง
ก่อนเลี้ยงนกควรต้องศึกษาเรื่องกฎหมายก่อน ในปัจจุบันนกบางสายพันธุ์ถูกจัดอยู่ใน CITES บัญชีหมายเลข 1, 2, และ 3 ซึ่งแต่ละบัญชีก็จะมีกฎระเบียบที่ต่างกันออกไป ซึ่งคุณต้องตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนว่าในปัจจุบันนกสายพันธุ์นี้อยู่ที่ CITES บัญชีไหนหรือไม่ มีกฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับการซื้อขายครอบครองนกสายพันธุ์นี้ในปัจจุบันอย่างไร ซึ่งต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด และห้ามซื้อนกที่ถูกดักจับจากป่าอย่างผิดกฎหมาย
ลักษณะนิสัยของนกฟินช์เจ็ดสี
มันเป็นนกที่มีความกระฉับกระเฉง ขี้สงสัย และมีชีวิตชีวา มันชอบที่จะเคลื่อนไหวไปมาและหาสิ่งของมากัดเคี้ยวเล่น เราจึงควรมีของเล่นสำหรับนกอย่างน้อยหนึ่งชิ้นให้มันเล่นข้างใน และเช่นเดียวกับนกฟินช์หลายๆ ตัว นกส่วนมากไม่ค่อยต้องการการมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์และไม่ค่อยชอบให้ผู้คนมาลูบจับตัวมัน ถ้าคุณกำลังมองหานกขี้อ้อนที่มีความติดคน ให้มองข้ามนกสายพันธุ์นี้ไปได้เลย แต่ถ้าอยากเลี้ยงนกสวยงามไว้ดูเล่นเพลินๆ พวกมันคือคำตอบ แต่ถึงแม้ว่ามันจะไม่มีปฏิสัมพันธ์ลึกซึ้งกับมนุษย์มากนัก แต่ว่ามันมีความต้องการในการเข้าสังคมกับนกตัวอื่น ผู้เลี้ยงจึงควรมีนกฟินช์ตัวอื่นมาอยู่เป็นเพื่อนกับมัน เพื่อไม่ให้มันรู้สึกเหงาและหดหู่
การพูดคุยและการส่งเสียง
ในบางครั้งมันก็จะส่งเสียงหรือร้องเพลงบ้างเป็นครั้งคราวตามประสานก แต่เสียงของมันมีความดังในระดับที่พอดี แถมยังมีความไพเราะน่าฟัง มันจึงเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหากับเสียงกรีดร้องดังๆ ของนก ส่วนเรื่องการเลียนแบบเสียง มันไม่มีทักษะในการเลียนแบบคำพูดของมนุษย์ หากคุณกำลังมองหานกที่พูดได้ นกแก้วปากขอหลายๆ สายพันธุ์น่าจะเหมาะกับคุณมากกว่า
ลักษณะภายนอกและความหลากหลายของนก
สีและลักษณะภายนอก
โดยหลักๆ นกสายพันธุ์นี้จะมีสีหัว 3 สีให้เลือก นั่นคือหัวสีแดง, สีดำ, และสีเหลืองส้ม ส่วนสีตัวจะประกอบไปด้วยหลากหลายสี เช่น สีส้ม, ขาว, เขียว, เหลือง, ฟ้า, และม่วง จะงอยปากจะเป็นสีขาวครีมและจะมีแต้มสีต่างๆ ที่ปลายปาก และเนื่องจากนกบางตัวมีการกลายพันธุ์ของสี จึงเกิดเป็นนกสีใหม่ๆ มากมายให้ท่านเลือก
การดูแลนกฟินช์เจ็ดสี
การดูแลด้านอาหารการกิน
อาหารหลักของมันสามารถเป็นอาหารคุณภาพสูงสำหรับนกเล็กโดยเฉพาะที่มีขายหลากหลายยี่ห้อตามท้องตลาด โดยเราสามารถให้มันทานควบคู่ไปกับอาหารสดชนิดต่างๆ เพื่อเสริมสารอาหารให้ครบถ้วน สัดส่วนอาหารสำเร็จรูปกับอาหารสดก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความเหมาะสมกับตัวนก จะลองให้อาหารสำเร็จรูปประมาณ 75% ของปริมาณอาหารทั้งหมดก่อนก็ได้ อาหารสดที่จะมาเสริมให้มันสามารถเป็นผัก ถั่ว หนอนนก หรือผลไม้ชนิดต่างๆ ก็ได้ เช่น เม็ดมะม่วงหิมพานต์, บรอกโคลี่, ผักโขม, แครอท, องุ่น, กล้วย เป็นต้น อย่าลืมที่จะหั่นอาหารสดเหล่านี้ออกเป็นชิ้นเล็กๆ ขนาดพอดีคำก่อนที่จะนำไปให้นกกินเพราะว่ามันตัวเล็ก และมันมีอาหารบางชนิดที่เป็นอันตรายกับนกมาก ซึ่งถ้าหากนกทานอาหารเหล่านี้เข้าไป มันอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิต ซึ่งผู้เลี้ยงก็ต้องศึกษาเรื่องนี้ไว้ก่อนรับนกมาเลี้ยง
การดูแลขนและความสะอาด
เราไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องขนและความสะอาดของตัวนกมากมายนักเพราะว่ามันสามารถจัดแต่งขนและทำความสะอาดตัวเองได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าหากว่าเนื้อตัวมันเปื้อนจนเกินกว่าที่จะทำความสะอาดด้วยตัวเองได้ เราแนะนำให้นำกะละมังหรือถาดที่มีน้ำตื้นๆ อยู่ข้างในไปให้มัน แล้วมันก็จะลงไปอาบน้ำและทำความสะอาดขนด้วยตัวเอง และเนื่องจากว่ามันตัวเล็กมาก เราจึงสามารถให้มันเข้าไปอาบน้ำตัวเองในอ่างล้างหน้าได้
การดูแลเรื่องที่อยู่อาศัย
ผู้เลี้ยงต้องคอยทำความสะอาดที่อยู่ของมันและบริเวณรอบๆ เป็นประจำเพื่อให้นกของคุณห่างไกลจากปัญหาสุขภาพบางอย่าง และเพื่อไม่ให้นกรู้สึกเครียด อึดอัด และเก็บกด กรงของมันไม่ควรมีขนาดที่เล็กจนเกินไป กรงของมันควรมีพื้นที่มากพอให้มันเล่นและสามารถเคลื่อนไหวไปมาได้สะดวก ที่ที่ตั้งกรงของมันควรไม่มีแดดแรงๆ ส่องมาโดนนกโดยตรงเป็นเวลานาน อากาศถ่ายเทสะดวก อุณหภูมิเหมาะสม ไม่สกปรก และไม่อับชื้น และอย่าลืมที่จะนำของเล่นสำหรับนกชนิดต่างๆ เช่น ของเล่นสำหรับนกที่ทำจากไม้ บอลไม้สำหรับนก กระดองปลาหมึกเสริมแคลเซียมสำหรับนก และอื่นๆ ให้มันกัดเคี้ยวเล่นในยามว่าง
การออกกำลังกายและอื่นๆ
การให้นกได้ออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญอีกส่วนหนึ่งที่จะทำให้นกของคุณมีสุขภาพที่ดี การที่เรามีกรงนกขนาดใหญ่และกว้างมากพอให้มันสามารถออกแรงเคลื่อนไหวไปมาและมีของเล่นข้างในกรงจะทำให้มันได้ออกกำลังกายภายในตัว นอกจากจะทำให้นกมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงแล้ว ยังมีส่วนช่วยให้มันไม่เบื่อ ไม่เครียด ไม่หดหู่ และไม่มีปัญหาด้านพฤติกรรม มันไม่ต้องการการออกมาเล่นข้างนอกกรงเหมือนนกแก้วหลายๆ ตัว แค่ผู้เลี้ยงมีพื้นที่ในกรงกว้างๆ ให้มัน มีเพื่อนคู่ใจสักตัวอยู่เป็นเพื่อนกับมันในกรง และมีของเล่นมากมายหลากหลายชนิดสำหรับนกให้มันเล่นข้างใน แค่นี้มันก็มีความสุขมากแล้ว
ปัญหาสุขภาพที่อาจพบใน Gouldian Finch
มันมีโอกาสที่จะมีปัญหาสุขภาพที่มักจะพบเจอในนกหลายๆ ชนิด เช่น
- โรคติดเชื้อโพลีโอมาไวรัส (Polyomavirus): มันเป็นโรคร้ายแรงสำหรับนกที่สามารถติดต่อกันไปยังนกตัวอื่นได้ นับจากวันที่ติดเชื้อมันจะใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ที่จะแสดงอาการ อาการที่สามารถสังเกตได้จากภายนอกคือ นกจะมีอาการเซื่องซึม ท้องบวม เบื่ออาหาร น้ำหนักลด หายใจติดขัดและท้องเสีย แต่นกบางตัวจะไม่แสดงอาการจนกระทั่งเป็นหนักแล้ว การหมั่นรักษาความสะอาดและฆ่าเชื้อที่อยู่รอบตัวมันและไม่ให้มันเข้าใกล้นกตัวอื่นที่ดูสุขภาพไม่ดีจะช่วยลดโอกาสในการเป็นโรคนี้
- ไรในนก (Bird Mites): ไรในนกนั้นเป็นตัวร้ายที่จะทำให้นกของคุณมีปัญหาสุขภาพ และอาจจะร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต แถมยังสามารถสร้างความรำคาญให้กับผู้เลี้ยงและคนในบ้านอีกด้วย อาการที่สามารถสังเกตได้ คือ น้องจะน้ำหนักตัวลดลง ขนยุ่ง และน้องจะกัดขนและตกแต่งขนบ่อยผิดปกติ ขนร่วง และผิวหนังมีแผล วิธีป้องกันเบื้องต้น คือ หมั่นรักษาความสะอาดกรงของนก ไม่ให้กรงของนกมีความอับชื้น และไม่ให้น้องเข้าใกล้นกจากธรรมชาติตัวอื่น โดยเฉพาะนกพิราบ ที่อาจจะมีไรนกติดมาด้วย
- โรคซิตาโคซิส (Psittacosis): หรือที่เรียกกันว่า “โรคไข้นกแก้ว” โรคนี้ไม่ได้เป็นกับนกแก้วเท่านั้น มันเป็นโรคที่สามารถติดจากนกและสัตว์ปีกชนิดอื่นๆ เช่น เป็ด สู่คนผ่านทางเดินหายใจ ผู้ที่ติดเชื้อนี้จะมีอาการเป็นไข้ ตัวสั่น ปวดศีรษะ นกที่อาจจะติดเชื้อไวรัสนี้จะมีอาการเซื่องซึม ไม่ค่อยทานอาหาร ถ่ายบ่อย และมูลนกจะมีสีแปลกไปจากปกติ
- ปัญหาน้ำหนักเกิน (Obesity in Birds): เกิดจากการที่นกทานอาหารประเภทที่มีปริมาณไขมันสูงมากเกินไป ซึ่งจะส่งผลให้นกอ้วน และอาจจะทำให้นกมีปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมาภายหลัง วิธีป้องกัน คือ ลดปริมาณอาหารประเภทที่อุดมไปด้วยไขมัน อย่างเช่น เมล็ดพืชและถั่ว เป็นต้น แล้วไปเพิ่มสัดส่วนอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน แต่มีปริมาณไขมันและแคลอรี่ที่ต่ำ
Gouldian Finch เหมาะกับผู้ที่
- มีเวลาในการมาอยู่ร่วมกับนกไม่มากนัก
- มีเพื่อนนกอีกตัวมาอยู่ร่วมกับมัน
- มีพื้นที่ในการเลี้ยงนกไม่ค่อยเยอะ
- ชอบนกตัวเล็กที่ไม่ส่งเสียงดังมากนัก
- ชอบนกที่ไม่ต้องการความสนใจจากเจ้าของมากนัก
คำถามที่พบบ่อย
- เข้ากันกับนกสายพันธุ์อื่นได้ไหม: มันเข้ากันกับนกสายพันธุ์อื่นได้ โดยเฉพาะนกที่มีขนาดตัวใกล้เคียงกับมัน
- มีขายในไทยไหม: มีขายทั่วไปในไทย
เรื่องนกๆ ที่คุณอาจจะชอบ
อ่านเรื่องไหนต่อดี
ปลอกนิ้วแปรงฟันสุนัขและแมว แบบไหนดีและคนชอบใช้
อัฟกัน ฮาวนด์ (Afghan Hound) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลสุนัข
คีชอน (Keeshond) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลสุนัข
15 สายพันธุ์สุนัขที่ไม่เหมาะกับคนเป็นภูมิแพ้
10 เสื้อกันหนาวสุนัข แบบไหนดีและช่วยให้ความอบอุ่น ปี 2023
อาหารที่นกกินไม่ได้ – 11 อาหารต้องห้ามที่ห้ามให้นกกินเด็ดขาด
12 สายพันธุ์สุนัขที่ไม่ซนมากจนเกินไป แถมยังน่ารักอีกด้วย
ลาซา แอพโซ (Lhasa Apso) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลสุนัข