เยอรมันเชพเพิร์ด (German Shepherd) ข้อมูล นิสัยและการดูแลสุนัข

แชร์ได้เลยที่ปุ่มด้านล่าง

เยอรมันเชพเพิร์ด (German Shepherd) หรือ อัลเซเชี่ยน เป็นสายพันธุ์สุนัขจากเยอรมนีที่ตัวใหญ่ มันขึ้นชื่อเรื่องความเฉลียวฉลาด รัก หวงแหนเจ้าของและคนในครอบครัว และความสามารถในหลายๆ ด้านที่ล้นเหลือของมัน ไปทำความรู้จักมันเพิ่มเติมกันในบทความนี้กัน

เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจได้เลย

ข้อมูลทั่วไป
ประวัติ
ลักษณะนิสัย
สายพันธุ์ของเชพเพิร์ดและความหลากหลายของสี
ความเป็นมิตรต่อเด็ก และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ
การดูแลเยอรมันเชพเพิร์ด
โรคภัยต่างๆ ที่อาจพบ
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับสุนัขสายพันธุ์นี้
เชพเพิร์ด เหมาะกับผู้ที่
คำถามที่เจอบ่อย

ข้อมูลทั่วไปของเยอรมันเชพเพิร์ด

ขนาดตัว: ใหญ่
ความสูง: ตัวผู้: 60–65 ซม. ตัวเมีย: 55–60 ซม.
น้ำหนัก: เพศผู้: 30–40 กก. เพศเมีย: 25–33 กก.
อายุขัย: 9-13 ปี
ปริมาณการผลัดขน: สูง
ความยาวขน: ปานกลาง
ความฉลาด: มาก
ถิ่นกำเนิด: ประเทศเยอรมนี
ลักษณะเฉพาะ: หูใหญ่ทรงสามเหลี่ยมที่ตั้งขึ้น รูปร่างดี ปากค่อนข้างยาว หางตก บริเวณใบหน้ามักจะมีสีดำ

ประวัติของ German Shepherd

สุนัขสายพันธุ์นี้สืบเชื้อสายมาจากสุนัขที่รับใช้มนุษย์มานานหลายร้อยปี มันถูกพัฒนาสายพันธุ์มาเรื่อยๆ จนกลายมาเป็นเยอรมันเชพเพิร์ดที่เรารู้จักกันในช่วงศตวรรษที่ 19 ผู้คนในเยอรมนีใช้สุนัขพันธุ์นี้ในการต้อนฝูงแกะและใช้มันปกป้องเหล่าฝูงแกะจากนักล่าทั้งหลาย มันเป็นสุนัขรับใช้ของเกษตรกรที่มีความฉลาดเฉลียว ปราดเปรียว แข็งแกร่ง เฝ้าสถานที่ได้ดี และมีความสามารถในการดมกลิ่นที่ดี มันเลยอยู่คู่กับครอบครัวเกษตรกรที่ประเทศเยอรมนีมาช้านานหลายร้อยปี ชื่อเสียงของมันเริ่มกระจายไปทั่วโลกและผู้คนก็หันมาเลี้ยงและเพาะพันธุ์มันอย่างรวดเร็วในช่วงปี ค.ศ.1900 จนในที่สุดทางสโมสร American Kennel Club (AKC) ได้ยอมรับสายพันธุ์สุนัขนี้อย่างเป็นทางการในปี ค.ศ.1908

ในยุคปัจจุบัน เจ้าตูบสายพันธุ์นี้ก็ยังคงเป็นที่นิยมทั่วโลก มีทั้งผู้คนที่เลี้ยงมันไว้ในบ้านเพื่อเป็นเพื่อนและเป็นสุนัขเฝ้าบ้าน มีทั้งผู้คนที่นำมันไปฝึกฝนเพื่อการแข่งขันกีฬาหลากหลายประเภท บางคนก็เลี้ยงและฝึกมันให้เป็นสุนัขดมกลิ่นเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจ เช่น สุนัขหาทรัฟเฟิล นอกจากนี้ มันยังเลี้ยงและฝึกให้เป็นสุนัขตำรวจสำหรับใช้ในการสืบสวนคดีและจับคนร้ายอีกด้วย

ลักษณะนิสัยของเยอรมันเชพเพิร์ด

มันอาจจะเป็นสายพันธุ์สุนัขที่ดูสันโดษ เย็นชา ไม่ค่อยอยากจะทำความรู้จักคุณในช่วงแรก แต่ถ้าหากได้อยู่ด้วยกันสักระยะหนึ่ง มันจะนึกว่าคุณเป็นเจ้าของมัน ซึ่งมันจะจงรักภักดี ซื่อสัตย์ และรักเจ้าของมันอย่างยิ่ง และมันก็จะรักและปกป้องสมาชิกในครอบครัวของนายมันอีกด้วย แต่ถ้าหากเราอบรมและเลี้ยงดูมันมาไม่ดี มันก็อาจจะมีพฤติกรรมก้าวร้าวกับคุณได้เช่นกัน ดังนั้น มันจะดีกว่าถ้าคุณไปศึกษาวิธีการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้จากผู้เชี่ยวชาญที่เลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้มานานเพิ่มเติม

อุปนิสัยของเจ้าตูบพันธุ์นี้คือ อยากรู้อยากเห็น กล้าหาญ ระวังตัวอยู่เสมอ มั่นใจ ปกป้องคนใกล้ตัว และยังเป็นหนึ่งในสุนัขที่ฉลาดและสอนง่ายมากที่สุดในโลก มันจึงเป็นสุนัขเฝ้าบ้านที่หลายๆ ท่านแนะนำ

ความหลากหลายของสีสุนัข

สีตา

เชพเพิร์ดจะมีตาโทนสีดำหรือน้ำตาล

สีขน

มีหลายหลายสีให้เลือกมากๆ ไม่ว่าจะเป็นโทนสีน้ำตาลทั้งหลาย เช่น น้ำตาล-ดำ, น้ำตาลอ่อน-ดำ, สีน้ำตาลแดง-ดำ, สีน้ำตาลช็อคโกแลต-ดำ, น้ำตาลล้วน นอกจากนี้ยังมีสีดำล้วน สีขาวล้วนและยังมีแบบ 3 สีอีกด้วย

รูปตัวอย่างสีและลายของมัน

ความเป็นมิตรของเชพเพิร์ดที่มีต่อเด็ก และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ

เยอร์มันเชพเพิร์ดเป็นมิตรต่อเด็กๆ และคนอื่นๆ ในครอบครัว ถ้ามันผ่านการอบรม ฝึกสอน และเลี้ยงมาเป็นอย่างดีและถูกต้อง มันคอยตาม ปกป้องเด็กๆ ของคุณราวกับว่าเป็นบอดี้การ์ดคนนึงเลยทีเดียว แต่ถ้าหากมันถูกเลี้ยงมาอย่างผิดๆ ก็อาจจะเป็นอันตรายกับครอบครัวคุณเช่นเดียวกัน ดังนั้น ควรเลี้ยงมันด้วยความรัก ดุในเวลาที่ควรดุ และควรศึกษาวิธีเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้อย่างถูกต้องเพิ่มเติมจากผู้ที่เคยเลี้ยงเจ้าเชพเพิร์ดมาหลายปี

มันสามารถเลี้ยงกับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ได้ เช่น แมว เป็นต้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเข้ากันได้ทันทีที่เจอหน้ากันเลย มันต้องใช้เวลาในการทำความคุ้นเคยกับสัตว์เลี้ยงตัวใหม่สักนิดหน่อย แต่ทุกอย่างมันจะง่ายขึ้นถ้าหากคุณเลี้ยงเจ้าเชพเพิร์ดกับสัตว์เลี้ยงอื่นมาตั้งแต่มันยังเป็นลูกสุนัข ทุกอย่างอยู่บนพื้นฐานที่ว่าเราต้องเลี้ยงดู ฝึกฝนเจ้าเชพเพิร์ดอย่างถูกต้องตั้งแต่เด็ก

คลิปความอ่อนโยนของมันที่มีต่อเด็ก

การดูแลเยอรมันเชพเพิร์ด

การดูแลด้านการออกกำลังกาย

อัลเซเชี่ยนเป็นสุนัขพันธุ์ที่ชอบใช้พลัง ต้องการการออกกำลังกายอย่าสม่ำเสมอ คุณควรพามันออกไปเดินนอกบ้านออกกำลังกายบ้าง วันละประมาณ 30 ถึงหนึ่งชั่วโมงในช่วงเช้าหรือช่วงเย็นก็พอแล้ว จะเป็นการพามันออกไปเดินเล่นตามสวนสาธารณะและบริเวณบ้านก็ได้ หรือไม่ก็ลองหากิจกรรมต่างๆ ที่ทำให้สุนัขได้ออกแรง เช่น การปาลูกบอลหรือจานร่อนไปให้มันวิ่งเก็บ เป็นการช่วยปลดปล่อยพลังงานของมันในตัวของมันเพื่อลดความเครียดที่สะสมและเพื่อสุขภาพร่างกายที่ดีในระยะยาวของมัน

การดูแลด้านการฝึกสอน

คุณควรที่จะใช้เวลากันมันในช่วงวัยเด็กเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ฝึกสอนมันและอย่าลังเลที่จะดุมันบ้างในเวลาที่มันทำผิด ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันกับคนในครอบครัว เพื่อทำให้มันรักคุณและรู้สึกสบายใจที่จะอยู่ในบ้านหลังนี้ คุณควรรู้ไว้ว่านิสัย พฤติกรรม และความรักเจ้าของของมันส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับการเลี้ยงและการฝึกฝนของคุณ ดังนั้น ความรู้และความเข้าใจในการเลี้ยงเป็นสิ่งสำคัญ และเราควรพามันไปพบปะกับผู้คนใหม่ๆ และสุนัขตัวอื่นตั้งแต่เด็กเพื่อฝึกทักษะการเข้าสังคมให้มัน ซึ่งมีส่วนช่วยให้มันสามารถเปิดใจรับผู้คนใหม่ๆ และอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นได้ดีมากขึ้น

เรื่องการดูแลขนและความสะอาด

ขนที่ค่อนข้างยาวของมันต้องการการดูแลรักษา และมันจะมีปริมาณในการผลัดขนในระดับหนึ่ง เราจึงควรนำหวีมาแปรงขนเพื่อช่วยมันนำขนตายเหล่านั้นที่ติดค้างอยู่ในตัวมันออกมาให้หมด ส่วนเรื่องความสะอาด เราควรคอยตัดเล็บ แปรงฟัน และอาบน้ำให้มันบ้างเป็นครั้งคราว รวมถึงมีการเช็ดรอบดวงตา ใบหน้า และใบหูให้มันอยู่เสมอ เพื่อสุขอนามัยที่ดีของเจ้าตูบ

ความรู้เกี่ยวกับฮีทสโตรกในสุนัข

การดูแลด้านสุขภาพโดยรวม

ถึงแม้ว่าอัลเซเชี่ยนจะเป็นสุนัขที่แข็งแรง แต่ว่าพวกเราอยู่ในประเทศไทยเมืองร้อน ควรให้สุนัขอยู่ในที่ที่อากาศไม่ร้อนมาก มีอากาศถ่ายเท ไม่มีแดดส่องลงมาตรงๆ และมีน้ำดื่มมากพอ พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้สุนัขออกแรงเยอะเกินไปในช่วงกลางวันที่อากาศร้อนจัด เพื่อป้องกันการเกิดฮีทสโตรกในสุนัข

พยายามควบคุมรูปร่าง และน้ำหนักตัวของสุนัขให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเพื่อช่วยลดโอกาศการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคข้อสะโพกเสื่อม (Hip dysplasia) และโรคอ้วน (Obesity) เป็นต้น ด้วยการพาเจ้าตูบไปทำกิจกรรมและออกกำลังกายนอกบ้านอย่างพอดี อีกส่วนนึงคือการควบคุมและเอาใจใส่คุณภาพปริมาณอาหารของสุนัขให้ดี ถ้าเป็นอาหารทั่วไป ก็ควรให้อาหารที่ไม่ได้ใส่เกลือและปรุงแต่งรสชาติใดๆ เพิ่มเติม เช่น เนื้อไก่ เนื้อหมู ไข่ไก่ ข้าวเปล่า ผัก ถั่ว และผลไม้ชนิดที่สุนัขทานได้ เป็นต้น ถ้าเป็นอาหารสำหรับสุนัขก็สามารถเลือกสูตรที่เข้ากับสุนัขของตนเองได้เลย เช่น สูตรสุนัขใหญ่ เป็นต้น

10 อาหารต้องห้ามสำหรับสุนัข

โรคภัยต่างๆ ที่อาจพบใน German Shepherd

โรคข้อสะโพกเสื่อม (Hip dysplasia): เป็นปัญหาสุขภาพที่สุนัขสายพันธุ์ใหญ่อื่นๆ และเยอรมันเชพเพิร์ดมักจะเจอ วิธีการช่วยลดโอกาสการเกิดโรคนี้ในสุนัขก็คือการควบคุมน้ำหนักตัวของสุนัขให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของสายพันธุ์ ด้วยการพามันออกไปวิ่งเล่นทำกิจกรรมนอกบ้านอย่างพอเหมาะเป็นประจำ และใส่ใจในเรื่องอาหารการกินของสุนัขให้เหมาะสมกับตัวสุนัข
กระเพาะอาหารขยายและบิดตัว (Gastric dilatation-volvulus): เกิดจากการที่กระเพาะขยายตัวจากการสะสมของแก๊ส น้ำ หรืออาหาร และเกิดการบิดตัวขึ้นที่กระเพาะอาหารจากการเคลื่อนไหวของสุนัข มักจะเกิดกับสุนัขขนาดตัวค่อนข้างใหญ่ที่มีอกลึก
โรคไขสันหลังเสื่อม (Degenerative myelopathy): เป็นปัญหาทางระบบประสาทที่ส่งผลให้สุนัขมีอาการอัมพาตที่บริเวณขาหลังและขาหน้า

นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่จะเจอโรคภัยอื่นๆ อีก เช่น

ต้อกระจก(Cataract): สามารถเกิดขึ้นได้ในสุนัขทุกช่วงอายุ
กระจกตาเสื่อม (Corneal Degeneration/ Dystrophy): วิธีสังเกตุก็คือ มันจะมีจุดเล็กๆ สีขาว ในกระจกตา พบได้บ่อยในสุนัขวัยชรา
โรคลมแดด (Heatstroke): เกิดจากร่างกายของสุนัขระบายความร้อนที่สูงไม่ได้
จอประสาทตาเสื่อม (Progressive Retinal Atrophy)
โรคข้อศอกเสื่อม (Elbow Dysplasia)
โรคอ้วน (Obesity)
โรคลำไส้อักเสบ (Canine Parvo Virus)
โรคเบาหวาน (Diabetes)
ไตวาย (Kidney Failure)
โรคพิษสุนัขบ้า (Riabies)
โรคหลอดลมอักเสบ (Bronchitis)
ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานต่ำ (Hypothyroidism)