เฟลมิช ไจแอนด์ (Flemish Giant) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลกระต่าย

Flemish Giant
แชร์ได้เลยที่ปุ่มด้านล่าง

เฟลมิช ไจแอนด์ (Flemish Giant) มันเป็นสายพันธุ์กระต่ายจากประเทศเบลเยียม ที่ตัวใหญ่ยักษ์มากๆ แต่นิสัยของมันดีกว่าที่หลายๆ ท่านคิด มาทำความรู้จักกับมันในบทความนี้กัน

ข้อมูลทั่วไปของเฟลมิช ไจแอนด์

  • ขนาดตัว: ใหญ่มาก
  • น้ำหนัก: 6.8 – 10 กก.
  • อายุขัย: 7 – 10 ปี
  • ความยาวขน: สั้น
  • ถิ่นกำเนิด: ประเทศเบลเยียม 🇧🇪
  • ความต้องการการเอาใจใส่: ปานกลาง
  • รูปแบบขน: Rollback (เมื่อลูบขนย้อนแนว ขนจะค่อยๆ คืนสภาพ)
  • ลักษณะเฉพาะ: ตัวโตกว่าสุนัขบางสายพันธุ์ หูตั้งขนาดใหญ่มาก ร่างกายดูมีกล้ามเนื้อพอสมควร

ประวัติของเฟลมิช ไจแอนด์

มันเป็นกระต่ายสายพันธุ์เก่าแก่ที่มีต้นกำเนิดอยู่ทางตอนเหนือของประเทศเบลเยียม ในช่วงศตวรรษที่ 16 ผู้เพาะพันธุ์กระต่ายได้ทำการผสมกระต่ายตัวใหญ่หลายสายพันธุ์ที่มีในยุคสมัยนั้นเข้าด้วยกันเพื่อสร้างกระต่ายเนื้อสายพันธุ์ใหม่ และมันก็ออกมาเป็นกระต่ายตัวยักษ์ที่ชื่อว่า Flemish Giant นั่นเอง
 
หลายร้อยปีต่อมา ในช่วงศตวรรษที่ 19 กระต่ายสายพันธุ์ได้ถูกส่งตัวไปยังประเทศต่างๆ ในยุโรป รวมถึงประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย แต่มันก็ยังไม่ได้รับความนิยมมากนักในช่วงแรกๆ จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1910 มันถูกนำตัวไปแสดงในงานแสดงกระต่ายในอเมริกา ซึ่งมันได้รับความสนใจจากชาวอเมริกันเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่ามันมีขนาดตัวที่ผิดแปลกไปจากกระต่ายทั่วไป และมันก็ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากองค์กร American Rabbit Breeders Association (ARBA) ในภายหลัง ในปัจจุบัน เจ้ากระต่ายยักษ์นี้กลายเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์กระต่ายที่คนนิยมเลี้ยงมากที่สุดในโลก

ลักษณะนิสัยและความเป็นมิตรของเฟลมิช ไจแอนด์

มันเป็นกระต่ายที่ผู้คนเรียกว่า “ยักษ์ใหญ่ใจดี” เนื่องจากว่ามันเป็นกระต่ายที่มีความอ่อนหวาน อ่อนโยน เชื่อง สุขุม และเป็นมิตรมาก สามารถเข้ากันได้ดีกับตนทุกเพศทุกวัย มันชอบกระโดดขึ้นมานั่งบนตักของเจ้าของเพื่อรับความรักจากพวกเขา แต่ถ้ามันรู้สึกว่ามันถูกคุกคามมากจนเกินไป มันก็สามารถกัดและถีบเพื่อป้องกันตัวได้เช่นกัน
 
มันเป็นกระต่ายที่ไม่ค่อยกระฉับกระเฉง ซุกซน และกระโดดไปมามากนัก มันมักจะใช้เวลาไปกับการนอนอยู่นิ่งๆ มากกว่า ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะน้ำหนักตัวของมัน ที่ทำให้มันไม่สามารถวิ่งเล่นซุกซนเป็นเวลานานเหมือนกระต่ายตัวเล็กได้

ความหลากหลายของสีกระต่าย

สีขน

สีมาตรฐานของกระต่ายสายพันธุ์นี้ที่จัดโดยองค์กร ARBA จะมีอยู่ทั้งหมด 7 สี โดยจะเป็นสีพื้น ไม่มีลวดลายอะไร นั่นคือ
 
  • ดำ (Black)
  • น้ำตาลแกมเหลือง (Fawn)
  • น้ำเงิน (Blue)
  • เทาอ่อน (Light gray)
  • เทาเข้ม (Steel gray)
  • ตัวขาวตาแดง (White)
  • น้ำตาลแดง (Sandy)

การดูแลเฟลมิช ไจแอนด์

การดูแลด้านอาหารการกิน

คุณอาจจะเข้าใจผิด คิดว่ากระต่ายต้องทานแครอทเป็นอาหารหลักเท่านั้น แต่ความจริงแล้วอาหารหลักของกระต่ายควรเป็นหญ้าแห้ง ซึ่งสัดส่วนการให้หญ้าแห้งกระต่ายควรอยู่ที่ประมาณ 70 – 80% ของปริมาณอาหารทั้งหมด จะเป็นหญ้าแห้งชนิดแพงโกล่า, แอนเดอร์สัน, ทิมโมธี, อัลฟาฟ่า, หรืออื่นๆ ก็ได้ ทั้งนี้ หญ้าแต่ละชนิดจะมีสารอาหารที่แตกต่างกันออกไป ความเหมาะสมกับกระต่ายแต่ละช่วงอายุจึงแตกต่างกัน จึงควรเลือกหญ้าแห้งชนิดที่เหมาะกับกระต่ายของคุณ
 
อีก 20-30% ที่เหลือนั้นควรเป็นผักและผลไม้ที่มาเสริมสารอาหารที่มีประโยชน์ให้กับกระต่ายเพิ่มเติม สามารถเป็นผักใบเขียวและผลไม้ชนิดที่กระต่ายสามารถทานได้ เช่น แอปเปิ้ล, หน่อไม้ฝรั่ง, ผักชี, แครอท, ผักกวางตุ้ง, กล้วย, ผักบุ้ง, ผักปวยเล้ง, สตรอว์เบอร์รี่, องุ่น, มะม่วง, ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ และอื่นๆ แต่ก็มีผักผลไม้บางชนิดที่ห้ามให้กระต่ายทาน ไม่เช่นนั้นมันอาจจะส่งผลเสียร้ายแรงต่อสุขภาพกระต่าย
 
อาหารเม็ดสำหรับกระต่ายนั้นควรให้แต่น้อยเพื่อเสริมสารอาหารที่จำเป็นเท่านั้น ไม่ควรให้มันทานมากเกินความจำเป็น เพราะอาจจะทำให้เจ้ากระต่ายน้ำหนักเกินและเป็นโรคอ้วนได้ และผู้เลี้ยงต้องมีน้ำสะอาดมากพอให้มันดื่มอยู่เสมอ

เรื่องการดูแลขนและความสะอาด

มันเป็นกระต่ายขนสั้น การดูแลขนจึงเป็นเรื่องง่าย เพียงแค่นำที่แปรงขนมาหวีขนให้กับกระต่ายอย่างเบามือ ประมาณสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อกำจัดขนตาย รวมถึงสิ่งสกปรกที่ติดค้างอยู่ในตัวมันออกมาให้หมด ไม่ควรมองข้ามเรื่องการหวีขนให้มัน เพราะการหวีขนให้มันสามารถช่วยลดโอกาสที่เจ้ากระต่ายจะเลียขนทำความสะอาดตัวเอง จนขนตายเหล่านี้ที่ติดอยู่ในตัวมันเข้าไปอุดตันสะสมที่ทางเดินอาหารจนเกิดเป็นโรคแฮร์บอล (Hairball) ซึ่งสามารถส่งผลกระทบร้ายแรงต่อกระต่าย รวมถึงมีการตัดเล็บ และดูแลความสะอาดรอบดวงตาและใบหูให้มันบ้าง ด้วยการนำผ้าขนหนูสะอาดที่ชุบน้ำหมาดๆ มาเช็ดให้มันอย่างเบามือ
 

การดูแลเรื่องที่อยู่อาศัย

เราแนะนำให้เลี้ยงมันในกรงหรือในพื้นที่ที่กั้นไว้โดยเฉพาะเพื่อความปลอดภัยของมัน เราควรเลี้ยงมันอยู่ในกรงที่มีกว้างมากพอที่จะรองรับขนาดตัวของมัน หรือจะเป็นการล้อมรั้วให้มันอยู่ก็ดีเหมือนกัน ทั้งนี้ ที่อยู่ของมันต้องสะอาด ไม่อับชื้น ต้องคอยทำความสะอาดที่ที่มันอยู่อาศัยอยู่เป็นประจำ และที่สำคัญ ที่ที่มันอยู่ต้องไม่ร้อนและไม่มีแดดแรงๆ มาโดนกระต่ายโดยตรง เพราะถ้าหากที่อยู่ของมันร้อนมากจนเกินไปอาจจะทำให้กระต่ายเป็นลมแดดได้ และอย่าลืมที่จะนำของเล่นสักชิ้นสองชิ้นเข้าไปให้น้องแทะเล่นเพื่อแก้เบื่อ

การดูแลเรื่องการเข้าสังคม

กระต่ายเป็นสัตว์ที่ต้องการการเข้าสังคม ดังนั้น จึงควรให้กระต่ายได้อยู่ร่วมกับผู้คนบ้าง ผู้เลี้ยงควรแวะเยี่ยมเยียน มาดูแลมัน และปล่อยมันออกมาวิ่งเล่นออกกำลังกายบ้าง เพื่อให้มันคุ้นเคยกับผู้คน ไม่กัด ถีบ และหนีคุณ ควรมีเพื่อนกระต่ายตัวอื่นมาอยู่ร่วมกันกับมันเพื่อไม่ให้มันรู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวมากจนเกินไป แต่ถ้าเป็นเพื่อนกระต่ายคนละเพศกัน ก็ควรทำหมันไว้ถ้าหากว่าคุณไม่อยากได้ลูกกระต่ายเพิ่ม
 

โรคภัยต่างๆ ที่อาจพบใน Flemish Giant

  • โรคในระบบทางเดินอาหาร (Gastrointestinal)
  • ฟันยาว (Overgrown Teeth)
  • โรคพาสเจอร์เรลโลซิส (Pasteurellosis)
  • โรคหลอดลมอักเสบ (Bronchitis)
  • ติดเชื้อสแตฟฟิลโลคอคโคซีส (Staphylococcus aureus)
  • ไรที่ผิวหนัง (Sarcoptic Mange in rabbits)
  • ไรในหู (Ear mites)
  • โรคฝีในกระต่าย (Rabbit Abscesses)
  • มะเร็งมดลูกในกระต่าย (Uterine Adenocarcinoma in Rabbits)
  • อาการหัวเอียง (Head Tilt)
  • โรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน (Upper Respiratory Tract Infection)
  • ก้อนขนอุดตันในทางเดินอาหาร (Hairballs, Trichobezoars)
  • โรคติดไวรัสไมโซมาโตซิส (Myxomatosis)
  • โรคเลือดออกในกระต่าย (Rabbit Haemorrhagic Disease, RHD)
  • โรคไข้สมองอักเสบในกระต่าย (Encephalitozoon Cuniculi, E.cuniculi)

Flemish Giant เหมาะกับผู้ที่

  • ชอบกระต่ายตัวใหญ่ๆ
  • ชอบกระต่ายที่ขนสั้น
  • มีพื้นที่ในการเลี้ยงพอสมควร
  • ชอบกระต่ายที่ไม่ซุกซนมากเกินไป
  • ชอบกระต่ายทีอ่อนโยน ใจดี และเป็นมิตร
  • มีเวลามาอยู่ร่วมกับมัน และทำกิจกรรมร่วมกันบ้าง

คำถามที่พบบ่อย

  • มันเข้ากันกับคนได้ดีไหม: ส่วนใหญ่จะเข้ากับคนได้ดีมาก
  • มีขายในไทยไหม: พอมีขายบ้างในประเทศไทย ลองค้นหาในอินเตอร์เน็ตดูนะ

เรื่องกระต่ายที่คุณอาจจะชอบ

 Banner Image