เชาเชา (Chow Chow) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลสายพันธุ์สุนัขแดนมังกร

เชาเชา
แชร์ได้เลยที่ปุ่มด้านล่าง
เชาเชา  (Chow Chow) เป็นสายพันธุ์สุนัขจากจากแดนมังกรที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นั่นคือขนสีน้ำตาลที่ปุกปุย โดยเฉพาะตรงที่แผงคอจึงทำให้ดูเหมือนแผงคอของสิงโต ลิ้นสีดำๆ ม่วงๆ มาพร้อมกับหน้าตาน่ารักๆ วันนี้ เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับสุนัขสายพันธุ์นี้เพิ่มเติมในบทความนี้กัน

ข้อมูลทั่วไปของเชาเชา 

  • ขนาดตัว:  ปานกลาง
  • ความสูง:  ตัวผู้: 48-55 ซม.  ตัวเมีย: 45-50 ซม. 
  • น้ำหนัก:  เพศผู้: 25-33 กก.  เพศเมีย: 22-26 กก..
  • ลักษณะเฉพาะ:  ขนยาวปุกปุยและหนา สิ้นสีม่วงๆ ดำๆ
  • ความยาวขน: มาก
  • อายุขัย:  9-15 ปี
  • ปริมาณการผลัดขน: ปานกลาง
  • ความฉลาด:  ปานกลาง
  • ถิ่นกำเนิด:  ประเทศจีน

ประวัติของ Chow Chow

Chow Chow เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์สุนัขที่ค่อนข้างเก่าแก่ที่มีคนรู้จักมันตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น หรือราวๆ 2000 ปีก่อน หลายแหล่งข้อมูลก็ว่าเชาเชานั้นมีแหล่งกำเนิดจากประเทศจีน แต่ว่าทาง American Kennel Club  ได้สันนิษฐานในปี ค.ศ.1935 ว่าต้นกำเนิดของมันมาจากทางไซบีเรียตอนเหนือ และได้ย้ายถิ่นฐานมาประเทศจีนโดยเดินทางผ่านมองโกเลีย ในอดีต ผู้คนใช้สุนัขสายพันธุ์นี้ในการล่าสัตว์ และเป็นยามเฝ้าสถานที่สำคัญต่างๆ 
 
ซึ่งในสมัยก่อน ประเทศจีนไม่ได้เรียกมันว่าเชาเชา (Chow Chow) มันมีชื่อภาษาจีนให้เรียกอีกหลายหลายชื่อ จนกระทั่งช่วงปลายศตวรรษที่ 17 พ่อค้าชาวอังกฤษท่านหนึ่งได้นำสินค้าหลากหลายชนิดมาจากทางตะวันออก ซึ่งพวกเขาเรียกสินค้าเหล่านี้รวมๆ ว่า เชาเชา และในบางครั้ง ในบรรดาสินค้าที่พ่อค้าท่านนี้ขนก็จะมีสุนัขสายพันธุ์นี้ติดมากับเรือด้วย จนในที่สุด ผู้คนก็เริ่มเรียกสุนัขพันธุ์นี้ด้วยชื่อนี้ตามๆกันมาจนติดปาก แล้วสายพันธุ์นี้ก็ไปถึงมือท่านพระราชินีวิกตอเรียของประเทศอังกฤษ ซึ่งท่านเป็นคนที่ชื่นชอบสุนัขเป็นอย่างมาก และได้ทำการก่อตั้งสโมสรผสมพันธุ์สุนัขพันธุ์นี้ที่ประเทศอังกฤษในปี ค.ศ.1895
 
 
สุนัขพันธุ์นี้ถูกนำตัวไปที่ประเทศสหรัฐอเมริกาในศตวรรษที่ 18 เช่นกัน และในที่สุดก็ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากสมาคม American Kennel Club ในปี ค.ศ. 1903 และก็เริ่มเป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วโลก ผู้คนหลายๆประเทศเริ่มให้ความสนใจและเริ่มเลี้ยงกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เนื่องจากขนตรงที่แผงคอที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับแผงคอฟูๆ ของสิงโตตัวผู้

ลักษณะนิสัยของเชาเชา 

มันเป็นสุนัขที่ค่อนข้างสันโดษ รักอิสระ ไม่ค่อยชอบสุงสิง มันไม่ค่อยชอบการเข้าสังคมและไม่ค่อยเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่นสักเท่าไหร่ มันชอบอยู่เฉยๆ ง่ายๆ สบายๆ ตัวคนเดียวมากกว่า แต่ว่ามันก็เป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์ มีความจงรักภักดีกับเจ้าของ สามารถนำมาเลี้ยงเป็นสุนัขสำหรับครอบครัวได้ สามารถเข้ากับได้กับเด็กๆ แต่ว่าควรได้รับการฝึกฝนและขัดเกลาให้อยู่ด้วยกันตั้งแต่สุนัขยังอายุน้อย
 
เนื่องจากว่าในอดีตมันเคยเป็นสุนัขที่ใช้สำหรับเฝ้ายามตามสถานที่สำคัญต่างๆ มันจึงมีทักษะการเฝ้าบ้านที่ดีติดตัวมา มันจะเห่าเสียงดังเพื่อขับไล่ผู้ที่พยายามจะเข้ามาในเขตแดนของมัน จึงเหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการสุนัขเฝ้าบ้านสักตัว

ความหลากหลายของสีสุนัข

สีตา

เชาเชาจะมีตาโทนสีดำหรือน้ำตาล

สีขน

สีขนมักจะเป็นโทนสีน้ำตาลทั้งหลาย เช่น น้ำตาลแดง, น้ำตาล, ช็อกโกแลต แต่ก็ยังมีสีอื่นๆ อีก เช่น สีดำล้วน, สีน้ำเงิน, และสีครีม

ความเป็นมิตรของเชาเชา ที่มีต่อเด็ก และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ

เชาเชานั้นไม่ค่อยเป็นมิตรกับสุนัขและสัตว์เลี้ยงตัวอื่นสักเท่าไหร่ เนื่องจากว่ามันเป็นสุนัขที่ไม่ชอบการเข้าสังคม ชอบอยู่ตัวคนเดียวมากกว่า อย่างไรก็ตามเราสามารถเลี้ยงสัตว์อื่นร่วมกับมันได้ เช่น แมว แต่ว่าทางทีดีควรฝึกฝนให้มันอยู่กับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัข และต้องเลี้ยงดูมันและฝึกสอนมันมาเป็นอย่างดีตั้งแต่สุนัขยังเล็ก
 
มันสามารถเลี้ยงให้อยู่ร่วมกันกับเด็กได้เช่นกัน แต่ว่าควรเป็นเด็กที่อยู่กับมันมาตั้งแต่มันยังเป็นลูกสุนัขและได้รับการฝึกฝนให้อยู่ร่วมกันอย่างถูกต้อง ถ้าเป็นเด็กเล็กๆ อาจจะไม่ค่อยเหมาะที่จะอยู่ร่วมกันกับสุนัขสายพันธุ์นี้สักเท่าไหร่
สุนัขที่ดุที่สุดในโลก

การดูแลเชาเชา 

ด้านการออกกำลังกาย

มันเป็นสุนัขพันธุ์ที่ต้องเอาใจใส่สักหน่อย คุณควรพามันออกไปเดินออกกำลังกายบ้าง วันละประมาณ 20-40 นาทีก็เพียงพอแล้ว จะเป็นการพามันออกไปเดินเล่นตามสวนสาธารณะและบริเวณบ้านก็ได้ เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาวของมัน และเพื่อให้มันได้ปลดปล่อยความเครียดและพลังงานในตัวของมันออกมาบ้าง แนะนำว่าควรเลือกช่วงเวลาในการพาสุนัขไปเดินเล่นให้ดี เช่น ช่วงเช้าหรือช่วงเย็น เพราะว่าเป็นช่วงเวลาที่แดดไม่แรง อากาศไม่ร้อนจนเกินไป เหมาะสมแก่การทำกิจกรรมต่างๆ นอกบ้านกับเจ้าตูบ

เรื่องการดูแลขนและความสะอาด

ขนยาวๆ สองชั้นของมันต้องการการดูแลใส่ใจเรื่องขน คุณควรเตรียมที่แปรงขนหรือถุงมือสำหรับหวีขนสัตว์เลี้ยงมาแปรงขนให้มันเป็นประจำ เพื่อนำขนตายที่ติดอยู่ในตัวมันออกมาและเพื่อให้ขนของมันไม่จับตัวกันเป็นก้อน ส่วนเรื่องความสะอาด คุณควรคอยดูแลความสะอาดของใบหน้า รอบดวงตา และใบหูของมัน รวมถึงมีการตัดเล็บ แปรงฟัน และอาบน้ำให้มันบ้าง โดยเฉพาะสุนัขสีขาว ที่ต้องการการดูแลทำความสะอาดเพื่อให้ขนของมันดูดีอยู่เสมอ

การดูแลเรื่องการเข้าสังคมและการฝึกสอน

ส่วนมากเชาเชาเป็นสุนัขที่ค่อนข้างรักสันโดษอยู่แล้ว เราจึงควรพามันไปฝึกเข้าสังคมบ้าง เราควรพามันไปพบปะกับสมาชิกในครอบครัวและให้มันทำกิจกรรมร่วมกับพวกเขา ซึ่งจะทำให้มันผูกพันและรักคนในครอบครัว และมีการพามันไปพบเจอกันคนแปลกหน้าและสุนัขตัวอื่นตั้งแต่มันยังเล็ก เพื่อให้มันสามารถอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นได้ดีขึ้น ส่วนเรื่องการฝึกสอน เราต้องฝึกฝนมันมาอย่างถูกต้องตั้งแต่เด็ก ต้องฝึกฝนให้มันรู้ว่าเราคือจ่าฝูงของมัน ไม่เช่นนั้น มันอาจจะมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมได้

การดูแลด้านสุขภาพโดยรวม

สุนัขสายพันธุ์นี้เป็นสุนัขที่ขนยาวและหนา จึงควรให้สุนัขอยู่ในที่ที่อากาศไม่ร้อน อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่มีแดดส่อง และมีน้ำดื่มมากพอ พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้สุนัขออกแรงเยอะในช่วงกลางวันที่อากาศร้อน เพื่อป้องกันการเกิดฮีทสโตรกในสุนัขในวันที่อากาศร้อนจัด 

พยายามควบคุมรูปร่าง และน้ำหนักตัวของสุนัขให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเพื่อช่วยลดโอกาสการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคข้อสะโพกเสื่อม (Hip dysplasia) และโรคอ้วน (Obesity) เป็นต้น ด้วยการพาเจ้าตูบไปวิ่งเล่น ทำกิจกรรมต่างๆ นอกบ้านอย่างพอดี อีกส่วนนึงคือการควบคุมและเอาใจใส่คุณภาพปริมาณอาหารของสุนัขให้ดี ถ้าเป็นอาหารทั่วไป ก็ควรให้อาหารที่ไม่ได้ปรุงแต่งเครื่องปรุงใดๆ เช่น เนื้อไก่ เนื้อหมู ไข่ไก่ ข้าวเปล่า ผักและผลไม้ชนิดที่สุนัขทานได้ ถ้าเป็นอาหารสำหรับสุนัขก็สามารถเลือกสูตรที่เข้ากับสุนัขของตนเองได้เลย เช่น สูตรขนเงางาม สูตรสำหรับสุนัขขนาดกลาง เป็นต้น

โรคภัยต่างๆ ที่อาจพบใน Chow Chow

  • โรคข้อสะโพกเสื่อม (Hip Dysplasia): เป็นปัญหาสุขภาพที่สุนัขสายพันธุ์อื่นๆ และเชาเชามักจะเจอ เราสามารถลดโอกาสการเกิดโรคนี้ให้สุนัขได้โดยการควบคุมน้ำหนักสุนัขให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ด้วยการคุมปริมาณและคุณภาพของอาหารให้พอดีกับตัวสุนัข และการพาสุนัขออกไปวิ่งเล่นออกกำลังกายอย่างพอดีเป็นประจำ
  • ภาวะไทรอยด์ต่ำผิดปกติ (Hypothyroidism): เกิดจากการที่สุนัขมีระดับฮอร์โมนไทรอยด์น้อยกว่าปกติซึ่งถือว่าเป็นความผิดปกติของร่างกาย
  • โรคอ้วน (Obesity): วิธีการช่วยลดโอกาสที่สุนัขจะเป็นโรคอ้วน คือ เราควรให้มันทานอาหารในปริมาณที่พอเหมาะ ให้มันออกกำลังกายเพื่อใช้พลังงานส่วนเกินบ้าง และไม่ให้มันทานขนมสำหรับมนุษย์ที่มีแคลลอรี่สูงมากเกินไป
 
 

นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่จะเจอโรคภัยอื่นๆ อีก เช่น

  • ต้อกระจก(Cataract): สามารถเกิดขึ้นได้ในสุนัขทุกช่วงอายุ
  • กระจกตาเสื่อม (Corneal Degeneration/ Dystrophy): วิธีสังเกตุก็คือ มันจะมีจุดเล็กๆ สีขาว ในกระจกตา พบได้บ่อยในสุนัขวัยชรา
  • จอประสาทตาเสื่อม (Progressive Retinal Atrophy)
  • โรคข้อศอกเสื่อม (Elbow Dysplasia)
  • โรคลำไส้อักเสบ (Canine Parvo Virus)
  • โรคพยาธิหนอนหัวใจ (Heartworm)
  • โรคเบาหวาน (Diabetes)
  • ไตวาย (Kidney Failure)
  • โรคพิษสุนัขบ้า (Riabies)
  • โรคตับอักเสบ (Hepatitis)
  • โรคหลอดลมอักเสบ (Bronchitis)

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับเจ้า Chow Chow

  • ไม่ค่อยเป็นมิตรกับสัตว์ตัวอื่นสักเท่าไหร่    
  • ควรพาออกไปวิ่งเล่นออกกำลังกายบ้าง
  • รักเจ้าของและครอบครัว
  • ช่วงผลัดขน ขนจะร่วงค่อนข้างเยอะ
  • เป็นสุนัขที่ไม่ชอบเข้าสังคมสักเท่าไหร่
  • ชอบอยู่คนเดียวเงียบๆ สบายๆ
  • มีความหวงอาณาเขตพอสมควร เนื่องจากว่ามันเคยเป็นสุนัขเฝ้ายาม มีทักษะการเฝ้าบ้านที่ดี

Chow Chow เหมาะกับผู้ที่

  • เลี้ยงสุนัขไว้เฝ้าบ้าน
  • ชอบสุนัขที่มักจะอยู่เฉยๆ
  • เลี้ยงสุนัขตัวเดียว
  • ชอบสุนัขขนฟู
  • มีเวลาให้สุนัขบ้าง
  • ชอบสุนัขที่มีความซื้อสัตย์ จงรักภักดีกับเจ้าของ

FAQ

  • เลี้ยงในหอพักได้ไหม: ไม่เหมาะ
  • ดุไหม: ดุปานกลาง
  • เลี้ยงกับแมวได้ไหม: สามารถเลี้ยงกับแมวได้ แต่ว่าควรได้รับการฝึกให้อยู่ด้วยกันมาก่อนจะดีกว่า
  • เลี้ยงกับเด็กได้ไหม: พอได้สำหรับสุนัขที่ได้รับการฝึกให้อยู่ร่วมกับเด็กมาแล้ว
  • เหมาะกับผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ไหม: มันไม่ใช่สุนัขที่เหมาะกับผู้ที่เป็นภูมิแพ้มากนัก
  • เฝ้าบ้านได้ไหม: เฝ้าบ้านได้ดี
 
จบกันไปแล้วสำหรับบทความของสุนัขสายพันธุ์เชาเชา ถ้าชอบก็สามารถแชร์ความนี้ให้กับคนรอบตัวอ่านกันได้เลย

เรื่องเจ้าตูบที่คุณอาจจะชอบ

 Banner Image