ไชนีส เครสเต็ด (Chinese Crested Dog) ข้อมูล นิสัยและการดูแลสุนัข

แชร์ได้เลยที่ปุ่มด้านล่าง

ไชนีส เครสเต็ด (Chinese Crested Dog) เป็นสุนัขจากประเทศจีนที่อาจจะดูแปลกตาและมีเอกลักษณ์เป็นพิเศษ หลายๆ ท่านยกให้มันเป็นหนี่งในสุนัขที่น่าเกลียดที่สุดในโลก แต่มันเป็นสุนัขที่มีข้อดีหลายๆ อย่างที่คุณอาจจะคาดไม่ถึง มาทำความรู้จักกับมันให้มากขึ้นในบทความนี้กัน

เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจได้เลย

ข้อมูลทั่วไป
ประวัติ
ลักษณะนิสัย
ความหลากหลายและสีตัวสุนัข
ความเป็นมิตรต่อเด็ก และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ
การดูแล
โรคภัยต่างๆ ที่อาจพบ
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับสุนัขสายพันธุ์นี้
ไชนีส เครสเต็ด เหมาะกับผู้ที่
คำถามที่เจอบ่อย

ข้อมูลทั่วไปของไชนีส เครสเต็ด

ขนาดตัว: เล็กมาก
ความสูง: ตัวเมีย: 24–30 ซม. ตัวผู้: 28–33 ซม. วัดจากไหล่
น้ำหนัก: 2.4 – 5.4 กก.
อายุขัย: 13 – 15 ปี
ความยาวขน: ยาวบางส่วน บางส่วนไม่มีขน
ความฉลาด: ปานกลาง
ถิ่นกำเนิด: ประเทศจีน 🇨🇳
ปริมาณการผลัดขน: น้อย
ความต้องการการเอาใจใส่: สูง
ลักษณะเฉพาะ: ดวงตากลมโต จมูกสีดำ หูใหญ่และตั้ง บางตัวจะมีขนเฉพาะบริเวณหัว หู ปลายขา ส่วนอื่นมักจะไม่มีขน บางตัวอาจจะมีลายจุดตามตัว

ประวัติของไชนีส เครสเต็ด

ข้อมูลเกี่ยวกับต้นกำเนิดที่แท้จริงของเจ้า Chinese Crested ยังค่อนข้างคลุมเครือในปัจจุบัน เชื่อว่าบรรพบุรุษของมันเป็นสุนัขที่ไม่มีขนจากแอฟริกาที่ถูกนำตัวมายังประเทศจีน และสุนัขเหล่านั้นก็ถูกพัฒนาสายพันธุ์ที่ประเทศจีนมาหลายชั่วอายุคน จนมันมีขนาดตัวที่เล็กลงกว่าสมัยก่อน ในช่วงศตวรรษที่ 16 พ่อค้าชาวจีนมักจะนำมันไปใช้จับหนูซึ่งเป็นพาหะนำโรคตัวฉกาจในยุคสมัยนั้น และก็ยังมีการซื้อขายสุนัขสายพันธุ์นี้กับชาวต่างชาติอีกด้วย มันเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นในประเทศแอฟริกาใต้ อียิปต์ และตุรกี

ในช่วงศตวรรษที่ 19 มันได้ถูกนำตัวไปยังสหรัฐอเมริกา และได้มีการจัดตั้งสโมสร American Chinese Crested Club ในปี ค.ศ.1979 อีกด้วย ในปัจจุบัน มันกลายเป็นสุนัขที่หายากอีกสายพันธุ์หนึ่ง แต่ด้วยลักษณะภายนอกที่เป็นเอกลักษณ์ของมัน มันจึงเป็นสุนัขที่มีคนรู้จักพอสมควร

ลักษณะนิสัยของไชนีส เครสเต็ด

มันเป็นสุนัขที่มีความขี้เล่น ร่าเริง มีชีวิตชีวา น่ารัก สามารถผูกมิตรกับเพื่อนใหม่ได้ค่อนข้างดี มันมีความซุกซนอยู่บ้าง แต่อยู่ในขอบเขตที่กำลังพอดี ไม่ซุกซนมากจนเกินไป มันยังมีความรักเจ้าของ รวมถึงสมาชิกคนอื่นภายในบ้านที่มันคุ้นเคยด้วย มันชอบใช้เวลาร่วมกับพวกเขาและทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน

นอกจากนี้ สุนัขหลายๆ ตัวมีนิสัยที่ชอบส่งเสียง อาจจะเป็นการเห่า หอน หรือร้องก็ได้ ซึ่งมันก็สามารถเป็นได้ทั้งข้อดีและข้อเสียเช่นกัน ข้อดีคือคุณจะรับรู้การมาถึงของคนแปลกหน้าเพราะมันจะคอยส่งเสียงแจ้งเตือนคุณ ส่วนข้อเสียคือมันอาจจะส่งเสียงเยอะเกินไปในบางครั้ง จนทำให้เกิดความรำคาญบ้างในบางครั้ง

ความหลากหลายของสีสุนัข

สีตา

มันเป็นสุนัขที่มีตาโทนสีดำและโทนสีน้ำตาล

สีขนและสีตัว

มันเป็นสุนัขที่มีหลากหลายสีให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นสีดำล้วน, สีดำ-ขาว-น้ำตาล, สีน้ำเงิน, สีช็อคโกแลต, สีครีม, สีขาว, ลายด่างสีน้ำตาล-ชมพู, สีชมพู-เทา, สีเทา และอื่นๆ

รูปตัวอย่างสีและลายของมัน

ความเป็นมิตรของเจ้าตูบที่มีต่อเด็ก และสัตว์เลี้ยง

มันเป็นสุนัขที่มีความรักให้กับผู้คนในครอบครัว รวมถึงเหล่าเด็กๆ ภายในบ้านด้วย สามารถอยู่เป็นเพื่อนกับเด็กๆ ที่มันคุ้นเคยด้วยได้ดี มันมีความซุกซนอยู่บ้างเล็กน้อย สามารถเล่นเป็นเพื่อนคลายเหงาให้กับเด็กๆ ได้ดี แต่ทั้งนี้มันไม่ใช่สุนัขที่สามารถเล่นแรงกับมันได้ เนื่องจากว่ามันเป็นสุนัขขนาด Toy ที่ตัวเล็กพอสมควร หากเล่นกับมันแรงจนเกินไปอาจจะทำให้สุนัขบาดเจ็บได้

มันมีความเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่น เช่น แมว และสุนัขตัวอื่นที่อยู่ร่วมกับมันมาตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัขเช่นกัน มันสามารถเล่นและใช้ชีวิตร่วมกับเพื่อนสัตว์เลี้ยงตัวอื่นได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าเป็นเด็กคนใหม่ สุนัขตัวใหม่ และสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ที่พึ่งจะเข้ามาในครอบครัว เราก็ควรให้เวลามันสักนิดในการทำความรู้จักและคุ้นเคยกับสมาชิกใหม่ แล้วจึงค่อยให้พวกเขามาอยู่ร่วมกัน

คลิปความน่ารักของมัน

การดูแลไชนีส เครสเต็ด

การดูแลด้านการออกกำลังกาย

คุณควรจะมีเวลาในการพาเจ้าตูบไปเดินเล่น วิ่งเล่นออกกำลังกาย หรือจะให้มันทำกิจกรรมต่างๆ ที่ได้ออกแรงกับสมาชิกในครอบครัวก็ได้ เช่น การวิ่งเล่นกับมัน ประมาณ 30-40 นาทีต่อวัน เพื่อช่วยปลดปล่อยพลังงานที่มีในตัวสุนัข ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดความเครียดให้เจ้าตูบ และเพื่อให้เจ้าตูบมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และห่างไกลจากปัญหาสุขภาพหลายๆ อย่าง และอยู่เคียงข้างเราไปนานๆ

การดูแลเรื่องการเข้าสังคมและการฝึกสอน

เราควรฝึกการเข้าสังคมให้มันบ้าง ไม่ควรขังหรือกักบริเวณมันให้อยู่ในที่แคบๆ ตัวเดียวทั้งวัน เพราะมันอาจจะทำให้สุนัขเครียด เก็บกด รักสันโดษ และเข้าสังคมได้ไม่ดีเท่าที่ควร คุณควรพามันไปทำความรู้จัก และทำกิจกรรมร่วมกับสมาชิกในครอบครัวตั้งแต่ที่มันยังเป็นลูกสุนัข เพื่อให้มันรู้สึกคุ้นเคยและรักพวกเขา รวมถึงให้มันไปเข้าสังคมกับคนแปลกหน้า สุนัขตัวอื่น และสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นตั้งแต่มันยังเป็นลูกสุนัขอยู่เสมอ เพื่อฝึกทักษะในการเข้าสังคมให้มัน มีส่วนช่วยให้มันสามารถเปิดใจและใช้ชีวิตกับผู้อื่นได้ดีขึ้นในอนาคต ส่วนเรื่องการฝึกสอน มันเป็นสุนัขที่มีความฉลาดพอสมควร การฝึกสอนสิ่งต่างๆ ให้มันตั้งแต่เด็กจะช่วยย่นระยะเวลาการฝึกสอนไปได้เยอะ

เรื่องการดูแลขนและความสะอาด

มันเป็นสุนัขที่ขนยาว การดูแลขนจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น คุณควรเอาหวีมาแปรงขนให้มัน 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์หรือมากกว่านั้น เพื่อทำให้ขนของมันไม่พันกัน เพื่อกำจัดขนตายและสิ่งสกปรกที่ติดค้างอยู่ในตัวมันให้หมด ถ้าเป็นเจ้าตูบแบบมีขนเต็มตัว (Fully Coated) ก็ต้องได้รับการใส่ใจเรื่องขนมากกว่าสุนัขแบบไร้ขน (Hairless) รวมถึงมีการทำความสะอาดใบหน้า บริเวณรอบดวงตา มีการเล็มขน ตัดเล็บ และอาบน้ำให้สุนัขบ้าง ความถี่ก็ขึ้นอยู่กับความสกปรกมอมแมมของสุนัข ถ้ามันชอบไปเล่นจนเนื้อตัวสกปรกก็ควรอาบน้ำมันให้บ่อยกว่าเดิม

การดูแลเรื่องสุขภาพโดยรวม

อย่างที่เรารู้กันดีว่าประเทศไทยของเรามีอุณหภูมิที่สูงมาก เราจึงควรระวังเรื่องโรคลมแดดในสุนัขไว้บ้าง วิธีป้องกันเบื้องต้น คือ เราควรให้สุนัขอยู่ในที่ที่อากาศไม่ร้อน มีอากาศถ่ายเท ไม่อบอ้าว ไม่มีแดดส่องลงมาโดนสุนัขตรงๆ ไม่ให้สุนัขวิ่งเล่นเยอะเกินไปในช่วงกลางวัน มีน้ำดื่มให้มันมากพอ ไม่ทิ้งมันไว้บนรถยนต์ร้อนๆ และเลือกช่วงเวลาที่แดดอ่อนในการพาสุนัขออกไปเล่นนอกบ้าน

10 อาหารต้องห้ามสำหรับสุนัข

คอยควบคุมรูปร่าง และน้ำหนักตัวของสุนัขให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานอยู่เสมอ เพื่อช่วยลดโอกาสการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคอ้วน ด้วยการพาเจ้าตูบไปวิ่งเล่นและออกกำลังกาย อีกส่วนนึงคือการควบคุม เอาใจใส่คุณภาพและปริมาณอาหารของสุนัขให้ดี เลือกประเภทอาหารที่เหมาะสมกับตัวสุนัข จะเป็นการทานอาหารแบบบาร์ฟ อาหารปกติทั่วไป หรือจะเป็นอาหารแบบเม็ดหรือแบบเปียกสำหรับสุนัขก็ได้ ถ้าเป็นอาหารทั่วไปก็ควรเป็นอาหารที่ดี มีประโยชน์ เช่น เนื้อไก่สุก เครื่องใน ข้าวเปล่า โดยไม่ใส่เกลือหรือเครื่องปรุงใดๆ เพิ่มเติม สามารถเพิ่มผักและผลไม้ชนิดที่สุนัขทานได้ในปริมาณที่พอเหมาะ ถ้าเป็นอาหารสำหรับสุนัขก็ให้ลองเลือกสูตรและยี่ห้อที่เหมาะกับสุนัขของคุณ ถ้าหากมันมีอาการแพ้ก็ให้เปลี่ยนประเภทหรือยี่ห้อของอาหาร ประกอบกับการขอคำปรึกษาจากสัตวแพทย์เพิ่มเติม

วิธีคำนวนปริมาณการให้อาหารสุนัข

โรคภัยต่างๆ ที่อาจพบใน Chinese Crested Dog

โรคต้อหิน (Glaucoma): เป็นภาวะที่เกิดจากความดันในลูกตาสุนัขที่เพิ่มสูงขึ้นมากเกินไป ซึ่งสามารถทำให้สุนัขสูญเสียการมองเห็นได้
โรคสะบ้าเคลื่อน (Patellar Luxation): มันเป็นโรคที่สามารถถ่ายทอดได้ทางกรรมพันธุ์ แต่เราก็สามารถช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคนี้ในสุนัขได้ วิธีการช่วยลดโอกาสการเกิดโรคนี้ในสุนัขก็คือเราต้องควบคุมน้ำหนักตัวของมันให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ด้วยการควบคุมเรื่องอาหารการกินให้เหมาะสมกับขนาดตัว ไม่ให้มันทานมากเกินไป และพาสุนัขไปออกกำลังกายอย่างพอเหมาะเป็นประจำ รวมถึงคอยระวังไม่ให้สุนัขได้รับแรงกระแทกที่ข้อเข่ามากเกินไป เช่น การกระโดดตกจากที่สูง
โรคจอประสาทตาเสื่อม (Progressive Retinal Atrophy): เป็นโรคเกี่ยวกับดวงตาที่สามารถสืบทอดทางกรรมพันธุ์ได้ ซึ่งจะส่งผลต่อการมองเห็นของสุนัข

นอกจากนี้ยังมีโอกาสในการเกิดโรคภัยอื่นๆ อีก เช่น

ต้อกระจก(Cataract): สามารถเกิดขึ้นได้ในสุนัขทุกช่วงอายุ
กระจกตาเสื่อม (Corneal Degeneration/ Dystrophy): วิธีสังเกตก็คือ มันจะมีจุดเล็กๆ สีขาว ในกระจกตา พบได้บ่อยในสุนัขวัยชรา
โรคลมแดด (Heatstroke): เกิดจากร่างกายของสุนัขระบายความร้อนที่สูงไม่ได้
โรคข้อศอกเสื่อม (Elbow Dysplasia)
ไตวาย (Kidney Failure)
โรคหลอดลมอักเสบ (Bronchitis)
โรคผิวหนังอักเสบเป็นหนองในสุนัข (Pyoderma)
ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานต่ำ (Hypothyroidism)
กลากเกลื้อน (Ringworm)
โรคหัดสุนัข (Canine Distemper)
โรคอ้วน (Obesity)