ชานทิลลี (Chantilly) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลแมว

แชร์ได้เลยที่ปุ่มด้านล่าง

ชานทิลลี (Chantilly) มันเป็นสายพันธุ์แมวจากอเมริกา ที่มีขนฟูฟ่องนุ่มลื่นสีเข้ม ที่น่านำมานอนกอดเป็นหมอนข้าง มาทำความรู้จักกับมันเพิ่มเติมในบทความนี้กัน

ข้อมูลทั่วไปของชานทิลลี

  • ขนาดตัว: ปานกลางถึงใหญ่
  • ความสูง: 22 – 28 ซม. วัดจากไหล่
  • น้ำหนัก: 3.6 – 5.4 กก.
  • อายุขัย: 9 – 16 ปี
  • ความยาวขน: ยาว
  • ความฉลาด: ปานกลาง
  • ถิ่นกำเนิด: ประเทศสหรัฐอเมริกา 🇺🇸 
  • ความต้องการการเอาใจใส่: สูง
  • ลักษณะเฉพาะ: ขนยาวปุกปุยสีเข้ม ตาทรงเมล็ดอัลมอนด์ที่ดูสวยงามตัดกับสีขน หางเต็มไปด้วยขนยาวๆ ราวกับหางกระรอก

ประวัติของชานทิลลี

แมวสายพันธุ์นี้มีต้นกำเนิดในประเทศสหรัฐอเมริกา ในช่วงปี ค.ศ.1969 ผู้เพาะพันธุ์แมวชาวนิวยอร์คท่านหนึ่งที่มีชื่อว่าคุณ Jennie Robinson ได้นำแมวสีดำคู่หนึ่งที่ยังไม่ทราบสายพันธุ์ที่แน่ชัด มาผสมพันธุ์กัน ลูกแมวที่ออกมานั่นก็คือแมวสายพันธุ์ชานทิลลี (Chantilly) นั่นเอง หลังจากที่ครอกแรกของแมวสายพันธุ์นี้ออกมาได้ไม่นานนัก มันก็เริ่มเป็นที่สนใจของผู้คน จึงได้เกิดการนำมันมาพัฒนาสายพันธุ์ในรัฐฟลอริดา รวมไปถึงในประเทศแคนาดาด้วย
 
ในตอนแรก มันถูกตั้งชื่อว่าแมวทิฟฟานี่ (Tiffany) แต่ว่าทางองค์กร GCCF ได้มีการจดทะเบียนชื่อแมว Tiffany กับแมวสายพันธุ์ลูกผสมระหว่างแมวพันธุ์ Chinchilla Persian และ Burmese ก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อป้องกันความสับสน จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อมันเป็น Chantilly หรือที่นิยมเรียกกันอีกชื่อว่า Chantilly/Tiffany ซึ่งมันยังเป็นแมวที่ค่อนข้างหายากและยังไม่ค่อยมีใครรู้จักในปัจจุบัน

ลักษณะนิสัยของชานทิลลี และความเป็นมิตร

มันเป็นแมวที่มีความสุขุม อ่อนโยน อ่อนหวาน ใจเย็น รักสงบ มีความเป็นมิตรกับคนแปลกหน้าและสัตว์ตัวอื่น สามารถเป็นเพื่อนกับผู้ที่มันพึ่งรู้จักได้ค่อนข้างไว มันเป็นแมวที่มีความขี้เล่นอยู่บ้างนิดหน่อย ไม่ซุกซนจนเกินไป มันยังเป็นแมวที่มีความรักให้กับเจ้าของสูง รวมถึงสมาชิกคนอื่นในครอบครัวอีกด้วย มันชอบใช้เวลาไปกับการอยู่ใกล้ๆ กับพวกเขา มันไม่ชอบการถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังนานๆ เป็นอย่างมาก มันจึงเหมาะกับผู้ที่มีเวลาอยู่กับมันบ้าง หรือมีสมาชิกในบ้านคนอื่นที่สามารถอยู่ร่วมกับมันได้

ความหลากหลายของสีแมว

สีตา

สีตาของแมวสายพันธุ์นี้จะเป็นโทนสีเหลือง

สีขน

แมวสายพันธุ์นี้มีหลากหลายสีให้เลือก สีที่มักจะพบเจอคือสีดำล้วน นอกจากนี้ยังมีสีอื่นๆ เช่น สีน้ำเงิน, สีลาเวนเดอร์, สีเงิน, สีน้ำตาล และอื่นๆ

การดูแลชานทิลลี

การดูแลด้านการออกกำลังกาย

ผู้เชี่ยวชาญด้านแมวหลายท่านแนะนำว่าแมวควรได้รับการออกกำลังกายประมาณ 30 นาทีต่อวัน ทาสแมวจึงควรกระตุ้นให้มันได้ออกแรงใช้พลังงานบ้าง จะเป็นการซื้อเสาฝนเล็บมาให้มันลับเล็บเล่น เพื่อช่วยให้แมวรู้สึกผ่อนคลาย ได้ยืดคลายกล้ามเนื้อ เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับส่วนต่างๆ ของร่างกาย และได้ออกกำลังกาย มีคอนโดแมวให้มันปีนป่ายเล่น หรือจะเป็นการใช้ไม้ล่อแมว ตุ๊กตาหนู หรือจะเป็นเลเซอร์ล่อแมวไปหยอกล้อกับเจ้าเหมียวก็ได้ เพื่อให้มันได้วิ่งออกแรงไล่จับสิ่งเหล่านั้น หรือถ้าคุณสะดวก คุณสามารถพามันไปสำรวจและออกกำลังกายนอกบ้าน มันมีส่วนช่วยให้แมวของคุณมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง และอยู่เคียงข้างเราไปนานๆ
 

เรื่องการดูแลขนและความสะอาด

มันเป็นแมวที่ขนยาว การดูแลขนจึงเป็นสิ่งจำเป็น คุณควรนำแปรงมาแปรงขนให้มัน ประมาณ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อให้ขนของมันไม่พันกันเป็นกระจุก และเพื่อช่วยกำจัดขนตาย รวมถึงสิ่งสกปรกที่ติดค้างอยู่ในตัวแมวออกมาให้หมด และถึงแม้ว่าส่วนมากแมวจะใช้เวลาในการทำความสะอาดตัวเองได้มากถึง 50% ของเวลาตอนมันตื่นทุกวันอยู่แล้ว แต่ว่าเราก็ควรช่วยมันทำความสะอาดร่างกายบ้างถ้ามันว่ามันเริ่มสกปรกมอมแมม ด้วยการเช็ดใบหน้า รอบดวงตา และใบหู รวมถึงมีการตัดเล็บ แปรงฟัน และอาจจะมีการอาบน้ำให้มันบ้างหากจำเป็น
 

การดูแลเรื่องสุขภาพโดยรวม

ถึงแม้แมวจะมีโอกาสเป็นโรคลมแดดน้อยกว่าสุนัขพอสมควร แต่อากาศในประเทศไทยนั้นร้อนมากๆ เราจึงควรระวังเรื่องโรคลมแดดในแมวไว้บ้าง วิธีป้องกันเบื้องต้น คือ เราควรให้แมวอยู่ในที่ที่อากาศไม่ร้อนและไม่อบอ้าว ไม่มีแดดส่องลงมาโดนแมวตรงๆ มีอากาศถ่ายเทอยู่ตลอด มีน้ำดื่มให้มันมากพอ หมั่นเช็คว่าคุณไม่ได้ลืมมันทิ้งไว้บนรถยนต์ร้อนๆ ถ้าหากคุณชอบพามันไปเดินเล่นนอกบ้าน ก็ควรเลือกช่วงเวลาในการพามันไปเดินเล่นให้ดี เช่น ช่วงเช้า
คอยควบคุมรูปร่าง และน้ำหนักตัวของแมวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานอยู่เสมอ เพื่อช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น โรคอ้วน (Obesity) ด้วยการกระตุ้นให้เจ้าเหมียวได้ออกแรงทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อเผาพลาญพลังงานส่วนเกิน อีกส่วนนึงคือการควบคุมและเอาใจใส่คุณภาพและปริมาณอาหารของแมว เลือกประเภทอาหารที่เหมาะสมกับตัวแมว จะเป็นการทานอาหารแบบบาร์ฟ อาหารปกติทั่วไป หรือจะเป็นอาหารสำเร็จรูปแบบเม็ดหรือแบบเปียกสำหรับแมวก็แล้วแต่ความเหมาะสม ถ้าเป็นอาหารทั่วไปก็ควรเป็นอาหารที่ดี มีประโยชน์ เช่น เนื้อสัตว์ เครื่องในไก่ ไข่ไก่ ข้าวเปล่า ผักและผลไม้ที่แมวทานได้ โดยไม่ใส่เกลือหรือเครื่องปรุงใดๆ เพิ่มเติม ในปริมาณที่เหมาะสมกับขนาดตัวของมัน ถ้าเป็นอาหารสำหรับแมวก็ให้ลองเลือกสูตรและยี่ห้อที่เหมาะกับแมวของคุณ เช่น สูตรบำรุงขน
 

โรคภัยต่างๆ ที่อาจพบใน Chantilly

โดยปกติแมวสายพันธุ์นี้เป็นแมวที่แข็งแรงและสุขภาพดี แต่ว่ามันก็มีโอกาสที่จะพบเจอกับปัญหาสุขภาพต่างๆ เช่น
 
  • โรคถุงน้ำในไต (Polycystic Kidney Disease): โรคนี้สามารถถ่ายทอดได้ทางกรรมพันธุ์ ถ้าพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ของแมวเป็นโรคนี้ ก็มีโอกาสที่ลูกแมวของมันจะเป็นด้วย อาการที่สามารถบ่งบอกว่าแมวของคุณอาจจะเป็นโรคนี้ นั่นคือการที่แมวมีความกระหายน้ำมากผิดปกติ ปัสสาวะบ่อย น้ำหนักลด อาเจียน เซี่องซึม และอาจจะมีความดันโลหิตสูง เราจึงควรพาแมวไปตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์บ้าง เผื่อถ้าถ้าพบเจอว่าแมวมีปัญหาสุขภาพจะได้รักษามันตั้งแต่เนิ่นๆ

 

นอกจากนี้ยังมีโอกาสเจอโรคภัยอื่นๆ ดังนี้

  • โรคไข้หัดแมว (Panleukopenia)
  • มะเร็งชนิดต่างๆ (Cancer)
  • โรคลิวคีเมีย (Feline Leukemia Virus)
  • โรคพิษสุนัขบ้าในแมว (Rabies)
  • โรคไทรอยด์เป็นพิษในแมว (Hyperthyroidism)
  • โรคจอประสาทตาเสื่อมในแมว (Progressive Retinal Atrophy)
  • ไรในหู (Ear mites)
  • โรคเบาหวาน (Diabetes)
  • โรคไตในแมว (Kidney Disease)
  • ฟันผุ (Tooth Decay)

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ Chantilly

  • เป็นแมวที่มีความรักให้กับผู้คนในครอบครัว
  • ไม่ชอบอยู่ตามลำพังนานๆ
  • เสียงร้องของมันอ่อนหวานมาก
  • มีความเป็นมิตรกับคนแปลกหน้าและสัตว์ตัวอื่น
  • เป็นแมวที่มีความซุกซนอยู่บ้างเล็กน้อย

Chantilly เหมาะกับผู้ที่

  • มีเวลาอยู่ร่วมกับมัน และทำกิจกรรมกับมันบ้าง
  • ชอบแมวที่ไม่ค่อยมีปัญหาสุขภาพ
  • มีเด็กๆ และสัตว์เลี้ยงตัวอื่นอยู่ภายในบ้าน
  • ชอบแมวขนยาวนุ่มลื่น
  • ชอบแมวที่ไม่ซุกซนจนเกินพิกัด

คำถามที่พบบ่อย

  • มันเป็นมิตรกับสัตว์ตัวอื่นไหม: มีความเป็นมิตรผู้คนและสัตว์เลี้ยงสูง
  • มีให้ซื้อในไทยไหม: อาจจะต้องนำเข้าจากต่างประเทศ
  • ราคาเท่าไหร่: ในปี 2022 ราคาจะตกอยู่ประมาณ 300 – 800 USD

เรื่องเจ้าเหมียวที่คุณอาจจะชอบ

Image Source: Commons Wikimedia 

 Banner Image