บูลมาสทิฟฟ์ (Bullmastiff) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลสุนัข

บูลมาสทิฟฟ์
แชร์ได้เลยที่ปุ่มด้านล่าง

บูลมาสทิฟฟ์ (Bullmastiff) เป็นสายพันธุ์สุนัขตัวใหญ่จากอังกฤษ ที่มีรูปร่างใหญ่โต กำยำ มาพร้อมกับหน้าตาที่ดุดัน แต่ว่านิสัยชองมันอาจจะดีกว่าที่หลายๆ คนคิดก็ได้ มาทำความรู้จักมันให้มากกว่าเดิมในบทความนี้กันเถอะ

ข้อมูลทั่วไปของบูลมาสทิฟฟ์ 

  • ขนาดตัว:  ใหญ่
  • ความสูง: เพศผู้: 64–68 ซม.  เพศเมีย: 60–66 ซม.
  • น้ำหนัก: เพศผู้: 50–59 กก.  เพศเมีย: 45–54 กก.
  • อายุขัย:  8 – 10 ปี
  • ความยาวขน: สั้น
  • ความฉลาด:  ปานกลาง
  • ถิ่นกำเนิด:  ประเทศอังกฤษ 🇬🇧 
  • การเอาใจใส่: ปานกลาง
  • ปริมาณการผลัดขน: ปานกลาง
  • ลักษณะเฉพาะ: ตัวสูงใหญ่ ร่างกายกำยำ ปากใหญ่และสั้น ปากมีสีดำ กล้ามเนื้อเยอะ หูพับ หางเรียวแหลม

ประวัติของบูลมาสทิฟฟ์

สุนัขสายพันธุ์นี้มีต้นกำเนิดในช่วงศตวรรษที่ 19 ที่ประเทศอังกฤษ ในช่วงยุคสมัยนั้นมีการแอบลักลอบล่าสัตว์สงวนโดยเหล่าพรานที่ผิดกฎหมายจำนวนมาก ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย แต่ว่าก็ยังมีการแอบล่าอยู่เรื่อยๆ จึงได้มีการทดลองผสมสุนัขข้ามสายพันธุ์เพื่อที่จะเอามาปกป้องสัตว์เหล่านี้จากการถูกพรานล่าได้ ในช่วงเวลานั้นบูลด็อกยังเป็นสุนัขสายพันธุ์ที่มีความดุ แต่ว่ามันตัวเล็กเกินไปที่จะนำมากำราบมนุษย์ จึงได้มีการนำมันมาผสมข้ามสายพันธุ์กับ Mastiff ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าเข้าด้วยกัน จนมันออกมาเป็นสุนัขสายพันธุ์ใหม่ นั่นคือเข้า Bullmastiff นั่นเอง ผู้คนได้ทดลองนำมันไปเฝ้าบริเวณที่มีเหล่าสัตว์สงวน ซึ่งหน้าตาที่ดุดัน และร่างกายที่ใหญ่โตกำยำของมัน ทำให้เหล่าพรานไม่กล้าที่จะลักลอบเข้ามาล่าสัตว์อีก 
 
ในเวลาต่อมามันเริ่มเป็นที่นิยมในสหรัฐอเมริกาและเริ่มเป็นที่รู้จักในประเทศอังกฤษ มันเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์สุนัขที่ผู้คนในยุคสมัยนั้นมักจะเอาขึ้นไปบนเวทีประกวดสุนัข จนในที่สุด สุนัขสายพันธุ์นี้ก็ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจาก American Kennel Club (AKC) ในปี ค.ศ.1933 ในปัจจุบันสุนัขสายพันธุ์นี้ก็ยังมีชื่อเสียงอยู่ โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา

ลักษณะนิสัยของบูลมาสทิฟฟ์

มันเป็นสุนัขที่ค่อนข้างจะสุขุม ใจเย็น น่ารัก  ไม่ค่อยดุ สามารถเข้ากันกับผู้คนและสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ ได้  มีความขี้เล่น ซุกซนบ้างในบางเวลา นอกจากนี้มันยังเป็นสุนัขที่มีความซื่อสัตย์ จงรักภักดี เชื่อฟัง และรักเจ้าของมันเป็นอย่างมาก มันมีสัญชาตญาณในการปกป้องสูง มันจะคอยปกป้องเจ้าของและเด็กๆ ในบ้านให้ปลอดภัยอยู่เสมอ แต่ทั้งนี้นิสัยของสุนัขมันก็ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมรอบตัวมัน การเอาใจใส่ดูแล และการฝึกฝนมันด้วย
 
มันเป็นสุนัขที่ใช้ในการปกป้องเป็นหลักในอดีต มันจึงมีทักษะการเฝ้าบ้านที่ดี มันเป็นสุนัขที่ระแวงคนแปลกหน้าและมีความหวงเขตแดน ถ้าหากมันพบเจอสุนัข หรือคนแปลกหน้าที่กำลังจะเข้ามาในอาณาเขตของมัน มันก็จะเห่าเตือนให้ผู้นั้นออกไปจากพื้นที่ของมัน หากผู้นั้นยังเข้ามามันก็อาจจะแสดงความก้าวร้าวได้
 

ความหลากหลายของสีสุนัข

สีตา

บูลมาสทิฟฟ์สายพันธุ์แท้จะมีสีตาโทนสีดำ และโทนสีน้ำตาล

สีขน

มันเป็นสายพันธุ์สุนัขที่มีสีให้เลือกไม่มากนัก ส่วนมากจะเป็นสีโทนน้ำตาล เช่น สีน้ำตาลล้วน, สีน้ำตาลอ่อน, สีครีม, สีน้ำตาลเข้ม, สีเทาดำ เป็นต้น

ความเป็นมิตรของเจ้าตูบที่มีต่อเด็ก และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ

ถึงแม้ว่าหน้าตามันค่อนข้างน่ากลัว แต่ว่ามันเป็นมิตรต่อเด็กๆ และสมาชิกในบ้าน มันมีความใจเย็น สุขุม สามารถเข้ากันกับเด็กๆ ได้ดี  และเนื่องจากว่ามันสุนัขที่มีความขี้เล่น ซุกซน มันสามารถเป็นเพื่อนเล่นให้กับเด็กๆ ในช่วงวันหยุดจนพอใจ มันตัวใหญ่และร่างกายที่แข็งแรง สามารถรับมือกับการละเล่นของเด็กๆ ได้อย่างสบายๆ ควรระวังเรื่องความตัวใหญ่และน้ำหนักตัวของมันบ้าง มันอาจจะเล่นแรงเกินไปกับเด็กๆ 
 
แต่ถ้าเป็นเด็กๆ ที่พึ่งจะเข้ามาอยู่ในบ้านทีหลัง ควรต้องระวังสักนิด เพราะมันไม่ใช่สุนัขที่เป็นมิตรกับคนแปลกหน้าในทันที มันต้องใช้เวลาในการทำความคุ้นเคย ทำความรู้จัก และปรับตัวให้เข้ากับสมาชิกใหม่ในบ้านสักระยะ
 
มันสามารถอยู่ร่วมกับสุนัขตัวอื่น และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ เช่น แมว ได้เช่นกัน มันสามารถอยู่ร่วมกัน เล่นด้วยกัน กินด้วยกันกับสุนัขและสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ ได้ แต่ถ้าเป็นสัตว์ที่พึ่งรู้จักกัน มันก็ต้องใช้เวลาสักระยะในการทำความคุ้นชินซึ่งกันและกัน ถึงจะสามารถลองนำมันมาใช้ชีวิตร่วมกันได้ ทั้งนี้ ทุกๆ อย่างมันขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม วิธีในการเลี้ยงดูและฝึกฝนมันในวัยเด็กด้วย ควรพึงระวังไว้สักนิดเพราะสุนัขสายพันธุ์นี้ก็มีข่าวว่ามันทำร้ายคนในต่างประเทศเหมือนกัน

การดูแลบูลมาสทิฟฟ์ 

การดูแลด้านการออกกำลังกาย

มันเป็นสุนัขสายพันธุ์ที่ต้องการการออกกำลังกายบ้าง คุณควรจะมีเวลาในการพาเจ้าตูบไปเดินเล่น วิ่งเล่นนอกบ้าน หรือไม่ก็ให้มันเล่น ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับคุณและคนในครอบครัวก็ได้ เช่น เล่นชักเย่อกับมัน สัก 30-40 นาทีต่อวันก็เพียงพอแล้ว เพื่อช่วยปลดปล่อยพลังงานที่มีในตัวสุนัข ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดความเครียด ลดความก้าวร้าวให้สุนัข และเพื่อให้สุนัขมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ ห่างไกลจากปัญหาสุขภาพ ช่วยให้มันอยู่กับเราไปนานๆ 
 

การดูแลเรื่องการเข้าสังคมและการฝึกสอน

มันเป็นสุนัขที่ควรต้องฝึกการเข้าสังคมเป็นอย่างยิ่ง เพราะนิสัยตอนโตของมันจะขึ้นนอยู่กับสภาพแวดล้อมในวัยเด็กซะส่วนใหญ่ ไม่ควรขังมันไว้ในที่แคบๆ ทั้งวันโดยไม่สนใจมันเลย คุณควรพามันไปทำความรู้จัก และทำกิจกรรมกับคนในครอบครัวตั้งแต่ที่มันยังเป็นลูกสุนัข เพื่อให้มันคุ้นเคยและรักผู้คนในครอบครัว รวมถึงให้มันไปพบปะกับผู้คนแปลกหน้า สุนัขตัวอื่น และสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ เพื่อฝึกทักษะในการเข้าสังคมกับผู้อื่น มีส่วนช่วยให้มันสามารถเปิดใจรับคนใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้นในตอนโตเต็มวัย ไม่ก้าวร้าวมากเกินไปเวลาเจอกับผู้คนตอนมันโต สามารถใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้ในตอนโต ส่วนเรื่องการฝึกสอน เราควรฝึกสอนสิ่งที่จำเป็นให้มันอย่างถูกวิธีและใจเย็น เช่น ฝึกให้มันรู้ลำดับชั้นในครอบครัวของเรา ให้รู้ว่าเราคือจ่าฝูงมัน รวมถึงการดูแล เอาใจใส่ มีเวลาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับมันบ้าง ถ้าสามารถปรึกษาเรื่องการเลี้ยงและการฝึกสอนมันเพิ่มเติมจากผู้มีประสบการณ์จะดีมาก
 

เรื่องการดูแลขนและความสะอาด

มันเป็นสุนัขมีขนสั้น ดังนั้น การดูแลขนนั้นก็เป็นเรื่องที่ง่าย คอยแปรงคนให้มันสัก 1 ครั้งในสองอาทิตย์ก็เพียงพอแล้ว เพื่อช่วยกำจัดขนที่ค้างอยู่ในตัวมันและช่วยให้น้ำมันที่ผิวหนังกระจายไปสู่ขนมันมากขึ้น ควรมีการอาบน้ำ และตัดเล็บให้มันบ้างถ้าหากว่ามันเริ่มสกปรก 
 

การดูแลเรื่องสุขภาพโดยรวม

พวกเราอยู่ในประเทศไทยเมืองร้อน เราก็ควรจะระวังเรื่องฮีทสโตรกในสุนัขบ้าง โดยเฉพาะสุนัขหน้าสั้นที่เป็นลมแดดได้ง่ายอย่างเจ้าบูลมาสทิฟท์ เราควรให้สุนัขอยู่ในที่ที่อากาศไม่ร้อนจนเกินไป มีอากาศถ่ายเท ไม่อบอ้าว ไม่มีแดดส่องลงมาตรงๆ มีน้ำดื่มมากพอ พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้สุนัขทำกิจกรรม ออกแรงเยอะเกินไปในช่วงกลางวัน 
พยายามควบคุมรูปร่าง และน้ำหนักตัวของสุนัขให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเพื่อช่วยลดโอกาสการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคอ้วน (Obesity) ด้วยการพาเจ้าตูบไปทำกิจกรรมและออกกำลังกายบ้าง อีกส่วนนึงคือการควบคุม เอาใจใส่คุณภาพและปริมาณอาหารของสุนัขให้ดี ถ้าเป็นอาหารทั่วไป ก็ควรให้อาหารที่ดี มีประโยชน์ เช่น  เนื้อไก่ เนื้อหมู ตับหมู ข้าวเปล่า ผัก ไข่ ที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งรสชาติใดๆ มาคลุกรวมกัน และผลไม้ชนิดที่สุนัขสามารถทานได้ในปริมาณที่เหมาะสม  ถ้าเป็นอาหารสำหรับสุนัขก็สามารถเลือกสูตรที่เหมาะสมกับสุนัขของคุณได้เลย เช่น สูตรสุนัขใหญ่ ขนมที่มนุษย์ทานควรให้ทานแต่น้อย หรือไม่ให้เลยจะดีกว่า
 

โรคภัยต่างๆ ที่อาจพบใน Bullmastiff

  • โรคข้อสะโพกเสื่อม (Hip dysplasia): เป็นโรคภัยที่สุนัขสายพันธุ์นี้และสุนัขสายพันธุ์ใหญ่ตัวอื่นๆ ที่มีน้ำหนักตัวเยอะมักจะเจอ วิธีการช่วยลดโอกาสการเกิดโรคนี้ในสุนัขก็คือเราต้องควบคุมน้ำหนักตัวของมันให้เหมาะสม ด้วยการพามันไปออกกำลังกาย ทำกิจกรรมที่ใช้แรงนอกบ้านสม่ำเสมอ และอีกส่วนนึงคือการเอาใจใส่เรื่องโภชนาการของสุนัขให้อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะกับขนาดตัว
  • กระเพาะอาหารขยายและบิดตัว (Gastric dilatation-volvulus): เกิดจากการที่กระเพาะขยายตัวจากการสะสมของแก๊ส น้ำ หรืออาหาร และเกิดการบิดตัวขึ้นที่กระเพาะอาหารจากการเคลื่อนไหวของสุนัข มักจะเกิดกับสุนัขขนาดตัวค่อนข้างใหญ่ที่มีอกลึก อาการคือ ท้องบวมผิดปกติ น้ำลายไหลเยอะ ยืนตัวโก่ง และกระสับกระส่าย 
  • โรคมะเร็ง (Cancer): มันมีโอกาสที่จะพบเจอกับโรคมะเร็งชนิดต่างๆ
 

นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่จะเจอโรคภัยอื่นๆ อีก เช่น

  • กระจกตาเสื่อม (Corneal Degeneration/ Dystrophy): วิธีสังเกตก็คือ มันจะมีจุดเล็กๆ สีขาว ในกระจกตา พบได้บ่อยในสุนัขวัยชรา
  • โรคลมแดด (Heatstroke): เกิดจากร่างกายของสุนัขระบายความร้อนที่สูงไม่ได้
  • จอประสาทตาเสื่อม (Progressive Retinal Atrophy)
  • โรคข้อศอกเสื่อม (Elbow Dysplasia)
  • โรคข้อสะโพกเสื่อม (Hip dysplasia)
  • โรคอ้วน (Obesity)
  • โรคผิวหนังอักเสบเป็นหนองในสุนัข (Pyoderma)
  • กลากเกลื้อน (Ringworm)
  • โรคเบาหวาน (Diabetes)
  • ไตวาย (Kidney Failure)
  • โรคพิษสุนัขบ้า (Riabies)

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับเจ้า  Bullmastiff

  • เป็นสุนัขที่รักเจ้าของ เด็กๆ และสมาชิกในครอบครัวคนอื่น
  • เป็นสุนัขที่มีความหวงเจ้าของสูง
  • เป็นสุนัขที่ไม่ค่อยเป็นมิตรกับคนแปลกหน้า
  • ต้องการการฝึกสอนและเลี้ยงดูอย่างถูกต้องตั้งแต่เด็ก
  • หากเลี้ยงดูผิดๆ อาจมีความก้าวร้าวได้

Bullmastiff เหมาะกับผู้ที่

  • ชอบสุนัขขนาดใหญ่
  • เลี้ยงสุนัขไว้เฝ้าบ้าน
  • มีเวลาในการฝึกฝนมันในตอนเด็ก
  • มีเวลาอยู่ร่วมกัน และทำกิจกรรมร่วมกันบ้าง
  • ชอบสุนัขที่หวงแหน รักเจ้าของและคนในครอบครัว
  • ชอบสุนัขขนสั้น 
  • มีพื้นที่ในการเลี้ยงพอสมควร

คำถามที่พบบ่อย

  • เลี้ยงในหอพักได้ไหม: ไม่ค่อยแนะนำ
  • ดุไหม: ปานกลาง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการฝึกและการเลี้ยงดู
  • เลี้ยงกับแมวได้ไหม: สามารถเลี้ยงกับแมวได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการฝึกและการเลี้ยงดู
  • เลี้ยงกับเด็กได้ไหม: สามารถเลี้ยงกับเด็กในบ้านได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการฝึกและการเลี้ยงดู
  • เหมาะกับผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ไหม: มันไม่ใช่สุนัขที่เหมาะกับคนเป็นภูมิแพ้มากนัก
  • เฝ้าบ้านได้ไหม: เฝ้าบ้านได้ดี

เรื่องเจ้าตูบที่คุณอาจจะชอบ

 Banner Image