บรัสเซิลส์ กริฟฟัน (Brussels Griffon) เป็นสายพันธุ์สุนัขตัวเล็กจากประเทศเบลเยียมที่มีเอกลักษณ์ตรงหน้าบึ้งๆ ของมัน แถมบางตัวยังมีหนวดเฟิ้มบริเวณปาก แล้วนิสัยของมันจะบึ้งตึงเหมือนหน้าตาของมันไหมนะ? มาหาคำตอบในบทความนี้กัน
ข้อมูลทั่วไปของบรัสเซิลส์ กริฟฟัน
- ขนาดตัว: ปานกลาง
- ความสูง: 17.8 – 25.4 ซม. วัดจากหัวไหล่
- น้ำหนัก: 3.6 – 5.4 กิโลกรัม
- อายุขัย: 10 – 15 ปี
- ความยาวขน: มีหลายแบบให้เลือก
- ความฉลาด: ปานกลาง
- ถิ่นกำเนิด: ประเทศเบลเยียม 🇧🇪
- การเอาใจใส่ตัวสุนัข: สูง
- ปริมาณการผลัดขน: น้อย
- ลักษณะเฉพาะ: ตัวเล็กกะทัดรัด ดวงตากลมโต ใบหน้าดูบึ้งตึง บางตัวมีขนยาวบริเวณปาก ราวกับว่าเป็นผู้ชายที่มีหนวดเครายาวๆ
ประวัติของบรัสเซิลส์ กริฟฟัน
สุนัขสายพันธุ์นี้มีต้นกำเนิดที่เมืองบรัซเซิลส์ ประเทศเบลเยียม มันเป็นสายพันธุ์สุนัขที่เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่าง Affenpinscher และ English Toy Spaniel จนกลางมาเป็นเจ้า Brussels Griffon ที่เรารู้จักกัน ในช่วงศตวรรษที่ 19 ผู้คนใช้มันเป็นสุนัขสำหรับล่าหนูที่มักจะมาอยู่ในคอกม้า สุนัขสายพันธุ์นี้มีรูปแบบขนสองแบบ นั่นคือแบบขนเรียบ (Smooth coat) และแบบขนหยาบ (Wiry coat) โดยมีความเชื่อว่าเจ้าบรัสเซิลส์แบบดั้งเดิมที่มีขนหยาบนั้นไปผสมข้ามสายพันธุ์กับสุนัขพันธุ์ปั๊ก (Pug) จนได้บรัสเซิลส์แบบขนเรียบมา ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19
ในช่วงปี ค.ศ.1900 ท่าน Marie Henriette ซึ่งเป็นราชินีแห่งเบลเยียมในยุคสมัยนั้นได้ลองเลี้ยงมันและทรงโปรดปรานในตัวมัน จึงส่งผลให้สุนัขสายพันธุ์นี้ได้รับความนิยมมากขึ้น มันได้ถูกส่งตัวไปหลายๆ ประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกา แล้วมันก็ได้รับการจดทะเบียนอย่างเป็นทางการโดยสโมสร American Kennel Club ในปี ค.ศ.1899 แต่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จำนวนประชากรของสุนัขสายพันธุ์นี้ลดลงอย่างรวดเร็วจนเกือบจะสูญพันธุ์ แต่เพราะมีคนที่รักมันและพยายามที่จะฟื้นฟูสายพันธุ์นี้ มันก็เลยอยู่รอดมาได้จนถึงยุคปัจจุบัน
ลักษณะนิสัยของบรัสเซิลส์ กริฟฟัน
มันเป็นสายพันธุ์สุนัขที่มีความเป็นมิตร รักเจ้าของและผู้คนในครอบครัว ชอบมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนในครอบครัว ชอบใช้เวลากับผู้คนในครอบครัวและทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับพวกเขา ไม่ชอบการถูกทิ้งให้อยู่ตัวเดียวเป็นเวลานาน มันมีความมั่นใจในตัวเองและมีความดื้อดึง เวลาที่เราจะฝึกสอนสิ่งต่างๆ ให้มันจึงต้องใช้เวลาและความอดทนสักนิดนึง
มันเป็นสุนัขที่ระแวงคนและสุนัขที่มันไม่รู้จักมาก่อน มันจะเห่าเมื่อพบเจอคนแปลกหน้าหรือสุนัขที่มันไม่รู้จัก ที่กำลังจะก้าวเข้ามาในอาณาเขตของมัน และหากว่าคนแปลกหน้าเหล่านี้เข้าใกล้มันมากเกินไป มันก็อาจจะแสดงความก้าวร้าวใส่ผู้นั้นได้
ความหลากหลายของสีและรูปแบบขน
รูปแบบขน
โดยหลักๆ เราสามารถแบ่งรูปแบบขนของมันออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่
- Smooth Coat: ขนจะเรียบ และสั้น และบริเวณปากสุนัขจะเป็นสีดำ
- Rough Coat: จะมีขนที่หยัก หัก และยาวกว่าแบบเรียบ และบริเวณปากจะมีขนยาวๆ ราวกับหนวดเครายาวๆ ของคนไว้หนวด
ความหลากหลายของสีสุนัข
สีตา
สุนัขสายพันธุ์แท้ส่วนมากจะมีตาโทนสีดำ
สีขน
มันเป็นสุนัขที่มีสีให้เลือกไม่มากนัก จะมีสีน้ำตาล, น้ำตาลแดง, สีแทน, สีดำ-แทน, น้ำเงิน, สีดำล้วน และอื่นๆ
ความเป็นมิตรของเจ้าตูบที่มีต่อเด็ก และสัตว์เลี้ยง
มันอาจจะเป็นสุนัขที่ไม่ค่อยเป็นมิตรกับเด็กๆ มากนัก โดยเฉพาะเด็กเล็ก บางทีมันอาจจะไม่ชอบให้เล็กๆ มาจับตัวมันตามใจชอบ มากอดมัน หรือเล่นกับมันแรงๆ มันอาจจะป้องกันตัวโดยการแสดงความก้าวร้าวใส่ แต่นิสัยนี้ก็สามารถทุเลาลงได้ โดยการให้มันอยู่กับเด็กๆ ในครอบครัวตั้งแต่มันยังเป็นลูกสุนัข และฝึกการเข้าสังคมให้มันเป็นประจำ แต่ทั้งนี้ก็ควรกำชับให้เด็กๆ เล่นกับมันให้อยู่ในขอบเขตที่พอดี ไม่ล้ำเส้นมันมากจนเกินไป
มันเป็นสุนัขที่มีความเป็นมิตรกับสุนัข และสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ เช่น แมว อีกด้วย มันสามารถกิน นอน เล่นหยอกล้อ และใช้ชีวิตร่วมกับสัตว์ตัวอื่นที่อยู่ร่วมกันมาตั้งแต่มันยังเป็นลูกสุนัขได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ ถ้าเป็นเด็กๆ สุนัข และสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ที่พึ่งจะเข้ามาในครอบครัว เราก็ต้องให้เวลามันสักระยะในการทำความรู้จักและทำความคุ้นเคยกับสมาชิกใหม่ แล้วค่อยลองนำมันไปใช้ชีวิตร่วมกับสมาชิกใหม่

การดูแลบรัสเซิลส์ กริฟฟัน
การดูแลด้านการออกกำลังกาย
มันเป็นสุนัขที่ต้องการการออกกำลังกายเป็นครั้งคราว คุณควรจะมีเวลาในการพาเจ้าตูบไปเดินเล่น วิ่งเล่นบ้าง หรือไม่ก็ให้มันเล่น ทำกิจกรรมต่างๆ ที่ใช้พลังงานพอสมควร ร่วมกับสมาชิกในครอบครัว เช่น การเล่นจานร่อนกับมัน สัก 20-30 นาทีต่อวันก็เพียงพอแล้ว เพื่อช่วยปลดปล่อยพลังงานในตัวสุนัข ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดความเครียดให้สุนัข และเพื่อให้สุนัขมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ ห่างไกลจากปัญหาสุขภาพต่างๆ อยู่เคียงข้างคุณไปได้นานๆ
การดูแลเรื่องการเข้าสังคมและการฝึกสอน
คุณควรฝึกการเข้าสังคมให้มันบ้าง ไม่ควรขังหรือทิ้งมันไว้ในที่แคบๆ ทั้งวันโดยไม่สนใจมันเลยเด็ดขาด เพราะมันอาจจะทำให้สุนัขเครียด เก็บกด และมีความก้าวร้าวได้ คุณควรพามันไปทำความรู้จัก และทำกิจกรรมกับสมาชิกในครอบครัวตั้งแต่ที่มันยังเป็นลูกสุนัข เพื่อให้มันรู้สึกคุ้นเคยและผูกพันกับคนในครอบครัว รวมถึงให้มันไปพบปะกับผู้คนแปลกหน้า สุนัขตัวอื่น และสัตว์เลี้ยงตัวอื่นตั้งแต่มันยังเป็นลูกสุนัขอยู่เสมอ เพื่อฝึกทักษะในการเข้าสังคมให้เจ้าตูบ มีส่วนช่วยให้มันสามารถเปิดใจรับเพื่อนใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้นในตอนโตเต็มวัย ลดความระแวงคนแปลกหน้าให้ลดลง และสามารถใช้ชีวิตร่วมกับเด็กๆ และสัตว์ตัวอื่นได้ดีขึ้นในอนาคต ส่วนเรื่องการฝึกสอนนั้นก็ควรฝึกสอนสิ่งต่างๆ ให้เจ้าตูบตั้งแต่มันยังเป็นลูกสุนัข เพราะว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ฝึกสอนสุนัขให้เรียนรู้ได้ง่ายที่สุด แต่ว่าบางตัวอาจจะสอนยากเพราะความดื้อดึงของมัน ต้องใช้เวลาและความพยายามสักนิดนึง
เรื่องการดูแลขนและความสะอาด
คุณควรใช้แปรงมาหวีขนให้มันเพื่อให้ขนของมันไม่พันกันเป็นก้อน เพื่อเอาสิ่งสกปรกในขนมันออกมา และเพื่อหวีเอาขนตายที่อยู่ในตัวมันออกมาให้หมด สักสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็เพียงพอแล้ว หมั่นทำความสะอาดรอบดวงตาของมันโดยการนำสำลีชุบกับน้ำสะอาดหรือน้ำตาเช็ดตาสำหรับสุนัข แล้วก็นำไปเช็ดรอบๆ ดวงตาสุนัขด้วยความเบามือ รวมถึงมีการอาบน้ำ ตัดเล็บ ตัดขน ทำความสะอาดใบหูให้มันบ้าง โดยเฉพาะเจ้าตูบแบบขนยาว ความถี่นั้นก็ขึ้นอยู่กับความสกปรกมอมแมมของตัวสุนัข
การดูแลเรื่องสุขภาพโดยรวม
อย่างที่รู้กันดีว่าอากาศบ้านเราในหน้าร้อนมันร้อนแรงแผดเผาขนาดไหน เราจึงไม่ควรมองข้ามเรื่องฮีทสโตรกในสุนัขเด็ดขาด วิธีป้องกันเบื้องต้น คือ เราควรให้สุนัขอยู่ในที่ที่อากาศไม่ร้อนจนเกินไป มีอากาศถ่ายเท ไม่อบอ้าว ไม่มีแดดส่องลงมาตรงๆ พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้สุนัขใช้พลังงานเยอะเกินไปในช่วงกลางวัน มีน้ำดื่มให้มันมากพอ ไม่ทิ้งสุนัขไว้บนรถยนต์ร้อนๆ และเลือกเวลาในการพาสุนัขไปทำกิจกรรมนอกบ้านให้ดี ให้เลือกช่วงเช้าหรือช่วงเย็นแทนตอนกลางวัน
คุณควรควบคุมรูปร่าง และน้ำหนักตัวของสุนัขให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานอยู่เสมอ เพื่อช่วยลดโอกาสการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน (Diabetes in dogs) ด้วยการพาเจ้าตูบไปวิ่งเล่นและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อีกส่วนนึงคือการควบคุม เอาใจใส่คุณภาพและปริมาณอาหารของสุนัขให้ดี เลือกประเภทอาหารที่เหมาะสมกับตัวสุนัข จะเป็นการทานแบบบาร์ฟ (Barf) อาหารปกติทั่วไป หรือจะเป็นอาหารสำหรับสุนัขโดยเฉพาะก็แล้วแต่ความสะดวกและความเหมาะสม ถ้าเป็นอาหารทั่วไปก็ควรเป็นอาหารที่ดี มีประโยชน์ เช่น เนื้อไก่ ปลาทู ไข่ไก่ ตับ ข้าว โดยไม่ปรุงแต่งเครื่องปรุงใดๆ เพิ่มลงไป สามารถให้ผลไม้ชนิดที่สุนัขทานได้ในปริมาณที่พอเหมาะ ถ้าเป็นอาหารสำหรับสุนัขก็สามารถเลือกสูตรที่เหมาะสมกับสุนัขของคุณได้เลย เช่น สูตรบำรุงกระดูก เป็นต้น ขนมที่เราทานกันควรให้มันทานแต่น้อย หรือเปลี่ยนเป็นขนมสำหรับสุนัขโดยเฉพาะจะดีกว่า
โรคภัยต่างๆ ที่อาจพบใน Brussels Griffon
- โรคสะบ้าเคลื่อน (Patellar Luxation): มันเป็นโรคที่สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ แต่ว่าเราสามารถช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคนี้ในตัวสุนัขได้ โดยการควบคุมน้ำหนักตัวของมันให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของสายพันธุ์ ด้วยการเอาใจใส่เรื่องโภชนาการของสุนัขให้อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะกับขนาดตัว ไม่ให้มันทานอาหารมากเกินไป ไม่ให้มันทานอาหารและขนมสำหรับมนุษย์ที่มีแคลรอลี่สูง รวมถึงคอยระวังไม่ให้สุนัขได้รับแรงกระแทกแรงๆ ที่ข้อเข้า เช่น การกระโดดลงจากที่สูง
- โรคจอประสาทตาเสื่อม (Progressive Retinal Atrophy): เป็นโรคเกี่ยวกับดวงตาที่พบเจอได้ในสุนัขหลายสายพันธุ์ อาการที่สามารถสังเกตได้ คือ สุนัขดูมองเห็นได้ไม่ค่อยดีในที่มืด และมักจะเดินชนสิ่งต่างๆ อยู่บ่อยๆ
- โรคระบบทางเดินหายใจผิดปกติ (Brachycephalic airway syndrome): เป็นปัญหาสุขภาพที่มักจะพบเจอในสุนัขที่มีใบหน้าสั้น อาการที่สามารถบ่งบอกว่าสุนัขอาจจะเป็นโรคนี้ คือ สุนัขหายใจเข้าออกเสียงดังผิดปกติ สุนัขดูเหนื่อยง่าย นอนกรนเสียงดัง และดูมีความลำบากในการหายใจ
นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่จะเจอโรคภัยอื่นๆ อีก เช่น
- กระจกตาเสื่อม (Corneal Degeneration/ Dystrophy): วิธีสังเกตก็คือ มันจะมีจุดเล็กๆ สีขาว ในกระจกตา พบได้บ่อยในสุนัขวัยชรา
- โรคลมแดด (Heatstroke): เกิดจากร่างกายของสุนัขระบายความร้อนที่สูงไม่ได้
- กลากเกลื้อน (Ringworm)
- ไตวาย (Kidney Failure)
- โรคพิษสุนัขบ้า (Riabies)
- โรคตับอักเสบ (Hepatitis)
- โรคหลอดลมอักเสบ (Bronchitis)
- โรคผิวหนังอักเสบเป็นหนองในสุนัข (Pyoderma)
- โรคหัดสุนัข (Canine Distemper)
- โรคอ้วน (Obesity)
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับเจ้า Brussels Griffon
- เป็นสุนัขที่รักผู้คนในครอบครัว
- มีรูปแบบขนให้เลือก 2 แบบ
- ไม่ค่อยเข้ากันกับเด็กเล็ก
- ตัวเล็ก กะทัดรัด พกพาง่าย
- มีความขี้เล่น
- เป็นสุนัขที่ระแวงคนแปลกหน้า
Brussels Griffon เหมาะกับผู้ที่
- มีสัตว์เลี้ยงตัวอื่นภายในบ้าน
- มีพื้นที่ในการเลี้ยงสุนัขจำกัด
- ชอบสุนัขขนาดเล็ก
- ไม่มีเด็กเล็กภายในบ้าน
- มีเวลาพามันไปวิ่งเล่นออกกำลังกาย อยู่ร่วมกัน ทำกิจกรรมร่วมกันบ้าง
คำถามที่พบบ่อย
- เหมาะกับผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ไหม: ค่อนข้างเหมาะกับผู้ที่เป็นภูมิแพ้เพียงเล็กน้อย
- เลี้ยงในหอพักได้ไหม: เลี้ยงได้สบายๆ
- ดุไหม: ไม่ค่อยดุ
- เลี้ยงกับแมวได้ไหม: เลี้ยงกับแมวได้ดี
- เลี้ยงกับเด็กได้ไหม: ไม่ค่อยเหมาะกับเด็กเล็ก
- เฝ้าบ้านได้ไหม: เห่าเฝ้าบ้านได้
เรื่องเจ้าตูบที่คุณอาจจะชอบ
อ่านเรื่องไหนต่อดี
โซไซตี้ ฟินช์ (Society Finch) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแล
เทอร์คิช แองโกรา (Turkish Angora) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลแมว
นกแก้วออสเตรเลียนคิง (Australian king parrot) นิสัยและการดูแล
สุนัขพันธุ์วิปเพ็ท (Whippet) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแล
เบลเยี่ยม มาลินอยส์ (Belgian Malinois) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลสุนัข
คอลลี่ (Rough Collie) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลสายพันธุ์สุนัขแสนรู้
10 ของเล่นแมว แบบไหนดีและเหมาะกับคุณบ้าง ปี 2023
8 อาหารสุนัขพันธุ์ใหญ่ ยี่ห้อไหนดีและมีสารอาหารครบถ้วน ปี 2023