นกแก้วบอร์ก (Bourke’s Parakeet) มันเป็นนกตัวเล็กจากประเทศออสเตรเลียที่มีสีชมพูสดใสสะดุดตา มาพร้อมกับความอ่อนโยนที่จะทำให้คุณตกหลุมรักในตัวมัน มาทำความรู้จักกับนกตัวนี้กันเถอะ
เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจได้เลย
ข้อมูลทั่วไปของนกแก้วบอร์ก
- น้ำหนัก: 40 – 49 กรัม
- อายุขัย: 10 – 12 ปี หรือมากกว่านี้
- ความฉลาด: ฉลาดพอสมควร
- ความยาวตัว: 18 – 23 ซม.
- ถิ่นกำเนิด: ประเทศออสเตรเลีย 🇦🇺
- ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Neopsephotus bourkii
- ลักษณะเฉพาะ: ตัวเล็ก จะงอยปากขนาดเล็กที่งุ้มลงเป็นอย่างมาก ตาดำกลมโต หางค่อนข้างยาว มักจะมีขนสีแดงอมชมพูตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย
ประวัติของนกแก้วบอร์ก
ชื่อของมันถูตั้งชื่อตามอดีตผู้ว่าการรัฐนิวเซาธ์เวลท่านหนึ่งที่ชื่อว่า คุณริชาร์ด เบิร์ก (Richard Bourke) นกสายพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดที่ประเทศออสเตรเลีย โดยพวกมันจะอาศัยอยู่ตามป่าสน ตามทุ่งหญ้าและพุ่มไม้ แต่เดิมมันก็เป็นนกตามธรรมชาติที่ออกหากินกลางวันและพักผ่อนตอนกลางคืน แต่ผู้คนก็ได้ลองนำมันไปเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง ซึ่งก็ค้นพบว่ามันเป็นสัตว์เลี้ยงที่ดีเลยทีเดียว จึงได้มีการเพาะพันธุ์มันให้มีจำนวนมากขึ้น จนในปัจจุบันมันกลายเป็นสายพันธุ์นกที่ผู้คนในหลายๆ ประเทศเลี้ยงกัน
ข้อควรระวัง
ก่อนเลี้ยงนกควรต้องศึกษาเรื่องกฎหมายก่อน ในปัจจุบันนกบางสายพันธุ์ถูกจัดอยู่ใน CITES บัญชีหมายเลข 1, 2, และ 3 ซึ่งแต่ละบัญชีก็จะมีกฎระเบียบที่ต่างกันออกไป ซึ่งคุณต้องตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนว่าในปัจจุบันนกสายพันธุ์นี้อยู่ที่ CITES บัญชีไหนหรือไม่ มีกฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับการซื้อขายครอบครองนกสายพันธุ์นี้ในปัจจุบันอย่างไร ซึ่งต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด และห้ามซื้อนกที่ถูกดักจับจากป่าอย่างผิดกฎหมาย
ลักษณะนิสัยของนกแก้วบอร์ก
มันเป็นนกที่มีความอ่อนโยน อ่อนหวาน เชื่อง น่ารัก นิสัยดี และมีความเป็นมิตรสูง มันสามารถอยู่ร่วมกันกับนกสายพันธุ์อื่นได้ แต่ในช่วงฤดูผสมพันธุ์มันก็อาจจะมีความหวงเขตแดนบ้างเป็นเรื่องปกติ มันยังสามารถเข้ากันได้ดีกับมนุษย์อีกด้วย เราสามารถในมันมาฝึกให้เชื่องได้ง่าย ถ้าคุณใช้มือให้อาหารมันตั้งแต่เด็ก จะพบว่ามันเป็นนกที่เข้ากับคนได้ง่ายมาก แถมยังไม่ค่อยมีพฤติกรรมก้าวร้าวออกมาให้เห็น มันจึงค่อนข้างเหมาะกับผู้เลี้ยงนกมือใหม่
การพูดคุยและการส่งเสียง
เมื่อเทียบกับนกแก้วหลายๆ สายพันธุ์ มันจะค่อนข้างสุขุมและเงียบสงบ ไม่ค่อยส่งเสียงดังมากนัก แต่มันก็จะส่งเสียงพูดคุยและร้องเพลงตามประสานก มันจึงเหมาะกับคนที่ไม่ชอบนกที่ร้องเสียงดัง ส่วนเรื่องการเลียนแบบเสียง มันไม่ใช่นกที่สามารถเลียนแบบคำพูดของมนุษย์ได้ดี จึงไม่ค่อยเหมาะสำหรับการนำมันมาฝึกพูด
ลักษณะภายนอกและความหลากหลายของนก
สีและลักษณะภายนอก
นกสายพันธุ์นี้มีสีขนบริเวณอกและท้องเป็นสีชมพู ราวกับสีเนื้อฝรั่งที่เป็นสีชมพู จะมีสีเทาน้ำตาลทั้งปีกหรือบางส่วนของปีกและส่วนหาง แต่ก็จะมีนกบางตัวที่เกิดการกลายพันธุ์ของสีจนมีสีสันที่แตกต่างหรือมีสัดส่วนสีบนตัวที่เปลี่ยนไป เช่น สีกุหลาบ (Rose) ที่จะมีสัดส่วนของสีชมพูบนตัวมากผิดปกติ ส่วนขนาดตัวของตัวผู้มักจะใหญ่กว่าตัวเมีย
การดูแลนกแก้วบอร์ก
การดูแลด้านอาหารการกิน
เราสามารถซื้ออาหารสำหรับนกโดยเฉพาะที่มีขายทั่วไปให้น้องทานได้เลย แนะนำว่าให้เป็นสูตรที่มีส่วนผสมของธัญพืชและผลไม้อบแห้ง เพื่อให้นกได้รับสารอาหารที่จำเป็นครบถ้วน โดยเราสามารถให้มันทานควบคู่ไปกับอาหารสดชนิดต่างๆ เพื่อเสริมสารอาหาร สัดส่วนอาหารเม็ดกับอาหารสดก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความเหมาะสมกับตัวนก อาหารสดดังกล่าวสามารถเป็นผัก ผลไม้ หรือธัญพืชชนิดต่างๆ ก็ได้ เช่น เมล็ดทานตะวัน, มะละกอ, แอปเปิ้ล (เอาเมล็ดออกแล้ว), คะน้า, ผักโขม, ส้ม, และอื่นๆ แต่ทั้งนี้ มันมีพืชผักผลไม้บางชนิดที่นกทานไม่ได้ ซึ่งถ้าหากทานเข้าไป มันอาจจะเป็นอันตรายกับนก และถ้าน้องทานอาหารสดเหล่านี้ไม่หมดก็ควรเอาออกมาเปลี่ยน ไม่ควรให้มันทานอาหารค้างคืนเพราะอาหารเหล่านี้อาจจะบูดแล้ว ซึ่งอาจจะทำให้นกป่วยได้ถ้ากินเข้าไป (ถ้าเป็นลูกนกต้องให้อาหารชงสำหรับลูกป้อนโดยเฉพาะก่อน)
การดูแลขนและความสะอาด
โดยปกตินกจะเป็นสัตว์ที่คอยดูแลความสะอาดและจัดแต่งขนตัวเองเป็นกิจวัตรประจำวันอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องไปใส่ใจเรื่องความสะอาดของตัวนกมากนัก แต่ถ้าหากว่าน้องเริ่มสกปรกและส่งกลิ่นเหม็น เราสามารถนำกะละมังหรือถาดน้ำที่มีน้ำตื้นๆ ให้มันเล่นและอาบน้ำตัวเอง หรือจะเป็นการเปิดก๊อกน้ำเบาๆ ให้น้องเข้าไปอาบน้ำทำความสะอาดตัวเองก็ได้ เราไม่ควรนำกระบอกฉีดน้ำฟอกกี้ไปฉีดตัวมันให้มันอาบ เนื่องจากว่ามันตัวเล็ก การใช้ฟอกกี้จะเหมาะกับนกที่มีขนาดตัวค่อนข้างใหญ่มากกว่า
การดูแลเรื่องที่อยู่อาศัย
ก็จริงที่ว่ามันเป็นนกที่ตัวเล็ก แต่กรงที่อยู่ของมันนั้นไม่ควรมีขนาดเล็กเกินไปจนอึดอัด กรงควรมีขนาดใหญ่มากพอที่จะมีพื้นที่ให้มันบินเล่นบ้าง ที่ที่ตั้งกรงของมันควรไม่มีแดดแรงๆ ส่องมากระทบนกโดยตรง ไม่อับชื้น และมีอากาศถ่ายเท ผู้เลี้ยงต้องคอยดูแลเรื่องสุขอนามัยของกรงนกอย่างสม่ำเสมอเพื่อสุขภาพที่ดีของตัวนกเอง ในกรงควรมีคอนให้นกยืนเกาะ และเราควรนำของเล่นสำหรับนกชนิดต่างๆ เช่น ของเล่นเชือกพันเกลียว ของเล่นที่ทำจากไม้ บอลไม้ และอื่นๆ เข้าไปในกรงให้นกกัดเคี้ยวเล่นในยามว่าง
การออกกำลังกายและอื่นๆ
นกก็ต้องการการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีเหมือนสัตว์ชนิดอื่นๆ เช่นกัน ตามที่กล่าวไปข้างต้น กรงจึงควรมีขนาดใหญ่มากพอที่จะมีพื้นที่ให้มันได้บินเล่นบ้าง และคุณสามารถนำน้องออกมาเล่นในห้องที่ปลอดภัยข้างนอกกรงบ้าง ประมาณวันละหนึ่งชั่วโมงหรือมากกว่านี้ก็ดี เพื่อให้มันได้ออกมาสำรวจโลกข้างนอกกรง ยืดเหยียดเส้นสาย เดินเล่นบินเล่น และออกมาฝึกให้มีปฏิสัมพันธ์กับคุณและผู้คนในบ้านบ้าง ซึ่งมีส่วนช่วยให้มันเชื่อง ไม่เหงา และไม่เก็บกด
ปัญหาสุขภาพที่อาจพบใน Bourke’s Parakeet
- โรคจะงอยปากและขน (Psittacine beak and feather disease): เป็นโรคที่เกิดจากไวรัสที่สามารถติดต่อกันได้ อาการที่สามารถสังเกตได้จากภายนอก คือ จะงอยปากผิดรูปและแตกถลอก เซื่องซึม ขนร่วงเยอะ บินไม่ค่อยได้ ซึ่งมันอาจจะส่งผลให้เกิดอาการแทรกซ้อนอย่างอื่น ถ้านกคุณมีอาการเหล่านี้ ให้นำน้องไปพบสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมกับแยกนกตัวที่แข็งแรงออกจากกัน เพื่อป้องกันการติดต่อของโรค
- โรคซิตาโคซิส (Psittacosis): หรือที่เรียกกันว่า “โรคไข้นกแก้ว” มันเป็นโรคที่สามารถติดจากนกและสัตว์ปีกอื่นๆ สู่คนผ่านการหายใจ ผู้ที่ติดเชื้อนี้จะมีอาการเป็นไข้ ตัวสั่น ปวดศีรษะ นกที่อาจจะติดเชื้อไวรัสนี้จะมีอาการเซื่องซึม ถ่ายบ่อย ไม่ค่อยทานอาหาร และมูลนกจะมีสีแปลกไปจากปกติ
- โรคกระเพาะขยาย (Proventricular Dilatation Disease): อาการที่สามารถสังเกตได้คือ นกจะตัวผอมลง น้ำหนักลดอย่างไม่ทราบสาเหตุ เซื่องซึม และอาเจียน แต่นกบางตัวอาจจะไม่แสดงอาการออกมาให้เห็นจนกระทั่งเริ่มอาการหนักแล้ว
- ไรในนก (Bird Mites): ไรในนกนั้นอันตรายกับนกกว่าที่คุณคิด เพราะมันอาจจะทำให้นกของคุณเสียชีวิตได้ และยังสามารถสร้างความรำคาญให้กับผู้เลี้ยงและคนในบ้านอีกด้วย อาการที่สามารถสังเกตได้ คือ นกจะน้ำหนักตัวลดลง ขนยุ่ง และน้องจะกัดขนและตกแต่งขนบ่อยผิดปกติ ขนร่วง และผิวหนังเป็นแผล วิธีป้องกันเบื้องต้น คือ หมั่นรักษาความสะอาดกรงของน้อง ไม่ให้กรงของน้องมีความอับชื้น และไม่ให้น้องเข้าใกล้นกจากธรรมชาติตัวอื่น โดยเฉพาะนกพิราบ ที่อาจจะมีไรนกติดมาด้วย
Bourke’s Parakeet เหมาะกับผู้ที่
- มีเวลาอยู่ร่วมกัน ให้ความสนใจ และดูแลมันบ้าง
- ชอบนกที่ไม่เสียงดังมากนัก
- ไม่ได้ต้องการฝึกนกให้พูด
- มีพื้นที่ในการเลี้ยงนกไม่มากนัก
- ชอบนกสีชมพู
- ชอบนกตัวเล็ก
คำถามที่พบบ่อย
- จะทำให้มันเชื่องยังไงดี: เราควรฝึกมันให้เข้าสังคมกับคุณและสมาชิกในบ้านตั้งแต่มันยังเด็ก หมั่นมาหามัน เรียกชื่อมัน ใช้มือไปป้อนอาหารนกเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับมัน ปล่อยมันให้มามีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนภายในบ้าน และมีเวลามาอยู่ร่วมกับมันเป็นประจำ เป็นต้น
- น้องชอบให้ลูบจับไหม: ส่วนมากจะให้เจ้าของลูบจับได้ตามปกติ แต่ตัวที่ไม่เชื่องก็อาจจะมีความหวงตัวได้
- มันเข้ากันกับนกตัวอื่นได้ไหม: มันเข้ากันกับนกตัวอื่นได้
เรื่องนกๆ ที่คุณอาจจะชอบ
อ่านเรื่องไหนต่อดี
12 สายพันธุ์สุนัขขี้อ้อน ที่ชอบอยู่ตัวติดกันกับคุณตลอดเวลา
11 สายพันธุ์สุนัขที่ขนร่วงน้อย หมดปัญหาเรื่องการเก็บกวาดขน
คูวาสซ์ (Kuvasz) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลสุนัข
แมวสฟิงซ์ (Sphynx cat) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลแมว
10 อาหารสุนัขปอมเมอเรเนียน ยี่ห้อไหนดีและเหมาะกับน้องบ้าง ปี 2023
สุนัขกินกระดูกได้ไหม และจำเป็นต้องกินไหม มาหาคำตอบกัน
แอเรเดล เทอร์เรียร์ (Airedale Terrier) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลสุนัข
แมวชาร์ทรู (Chartreux) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลแมว