บิชอง ฟริเซ่ (Bichon Frise) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลสุนัขสายพันธุ์นี้

แชร์ได้เลยที่ปุ่มด้านล่าง

บิชอง ฟริเซ่ (Bichon Frise) เป็นสายพันธุ์สุนัขจากฝรั่งเศส ที่มีขนหยิกๆ สีขาว ดวงตากลมโต ตัวเล็กตะมุตะมิ น่ารัก มันจึงเป็นสุนัขที่ได้รับความสนใจจากผู้ที่ชื่นชอบสุนัขตัวเล็กที่พกพาง่าย นอกจากหน้าตาจะน่ารักแล้ว นิสัยของมันก็น่ารักอีกด้วย มาทำความรู้จักมันให้มากกว่าเดิมในบทความนี้กันเถอะ

เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจได้เลย

ข้อมูลทั่วไป
ประวัติ
ลักษณะนิสัย
ความหลากหลายของสีตัวสุนัข
ความเป็นมิตรต่อเด็ก และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ
การดูแล
โรคภัยต่างๆ ที่อาจพบ
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับสุนัขสายพันธุ์นี้
บิชอง ฟริเซ่ เหมาะกับผู้ที่
คำถามที่เจอบ่อย

ข้อมูลทั่วไปของบิชอง ฟริเซ่

ขนาดตัว: เล็ก
ความสูง: เพศผู้: 24–30 ซม. เพศเมีย: 23–28 ซม.
น้ำหนัก: ตัวผู้: 6–7 กก. ตัวเมีย: 4–5 กก.
อายุขัย: 12 – 15 ปี
ความยาวขน: ค่อนข้างยาว
ความฉลาด: ปานกลาง
ถิ่นกำเนิด: ประเทศฝรั่งเศส 🇫🇷
ปริมาณการผลัดขน: น้อย
การเอาใจใส่ตัวสุนัข: สูง
ลักษณะเฉพาะ: ขนยาวหยิกฟูฟ่อง ดวงตากลมโต ปากเล็ก จมูกสีดำ

ประวัติของบิชอง ฟริเซ่

ต้นกำเนิดของสุนัขสายพันธุ์นี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดนัก แต่มีความเชื่อว่ามันสืบเชื้อสายมาจากสุนัขพันธุ์ Barbet เป็นหนึ่งในสายพันธุ์สุนัขเก่าแก่ที่มีถิ่นกำเนิดจากเกาะ Tenerife ซึ่งเป็นเกาะในหมู่เกาะ Canary นั่นเอง ในช่วงศตวรรษที่ 13 มีกะลาสีชาวฝรั่งเศสกลุ่มนึงได้ไปเยือนเกาะ Tenerife แล้วได้ทำการนำสุนัข Bichon Tenerife จากเกาะนี้ติดตัวไปยังประเทศของตนด้วย และได้นำมันไปค้าขายกับผู้คนชาวยุโรป มันจึงเริ่มเป็นที่รู้จักในหลายๆ ประเทศ มันเป็นที่นิยมอย่างมากในเหล่าบรรดาชนชั้นสูง ขุนนาง และเหล่ากษัตริย์ในยุคสมัยนั้น ซึ่งเจ้า Bichon Tenerife ในอดีต ก็คือ Bichon Frise ที่เรารู้จักกันในปัจจุบันนั่นเอง

ในช่วงศตวรรษที่ 18 ได้มีการปฏิวัติฝรั่งเศสขึ้น มันส่งผลให้ประชากรของสุนัขสายพันธุ์นี้ลดลงอย่างรวดเร็ว แต่ว่าได้มีการลองนำมันมาเป็นสุนัขแสดงโชว์ในงานละครสัตว์ มันเป็นตัวทำเงินที่ดีให้กับคณะละครสัตว์ในสมัยนั้นเลยทีเดียว

สุนัขสายพันธุ์นี้พบกับช่วงเวลาที่ยากลำบากอีกครั้งหนึ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนขาดแคลนทรัพยากรเป็นอย่างมาก ความต้องการในการเลี้ยงสุนัขจึงลดน้อยลงเป็นอย่างมากเนื่องจากว่ามันจะเป็นภาระต่อผู้เลี้ยง มันจึงทำให้จำนวนสุนัขลดลงอย่างรวดเร็วอีกครั้ง แต่โชคยังดีที่มีผู้เพาะพันธุ์สุนัขชาวฝรั่งเศสและชาวเบลเยียมบางคนพยายามที่จะฟื้นฟูประชากรสุนัขสายพันธุ์นี้ไว้

ในช่วงศตวรรษที่ 20 มันได้ถูกนำตัวไปยังสหรัฐอเมริกาและได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากสโมสร American Kennel Club ในปัจจุบัน มันยังเป็นสุนัขที่ผู้คนทั่วโลกรู้จักกันอยู่ ถึงแม้จะไม่ได้นิยมมากมายก็ตาม

ลักษณะนิสัยของบิชอง ฟริเซ่

มันเป็นสายพันธุ์สุนัขที่มีขี้เล่น เป็นกันเอง น่ารัก เป็นมิตรต่อผู้คนรอบข้าง สามารถผูกมิตรกับผู้คนใหม่ๆ ได้รวดเร็ว มันเป็นสุนัขที่มีความรักเจ้าของ ชอบที่จะอยู่ร่วมกับเจ้าของอยู่ตลอดเวลา ชอบที่จะเป็นที่สนใจ อยู่ท่ามกลางผู้คนในครอบครัว ชอบที่ใช้เวลาและทำกิจกรรมกับสมาชิกในครอบครัว มันเกลียดการถูกทิ้งให้อยู่ตัวเดียวโดยไม่ได้รับการใส่ใจเป็นระยะเวลานานๆ จึงไม่เหมาะกับผู้ที่มีงานเยอะจนไม่มีเวลาให้มันเลย มันเป็นสุนัขที่ไม่เห่าพร่ำเพรื่อเหมือนสุนัขเล็กหลายๆ สายพันธุ์ มันจะเห่าเมื่อจำเป็นเท่านั้น จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบสุนัขที่ชอบเห่าทั้งวัน

ความหลากหลายของสีสุนัข

สีตา

บิชอง ฟริเซ่ สายพันธุ์แท้จะมีสีตาโทนสีดำ และโทนสีน้ำตาล

สีขน

มันเป็นสายพันธุ์สุนัขที่มีสีขนให้เราเลือกไม่มากนัก ส่วนมากจะเป็นขนสีขาวล้วนทั้งตัว และยังมีสีขนอื่น เช่น สีขาวครีม, สีขาว-น้ำตาลอมเหลือง และสีขาว-น้ำตาลแอปริคอท

ความเป็นมิตรของเจ้าตูบที่มีต่อเด็ก และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ

มันเป็นสายพันธุ์สุนัขที่เป็นมิตร ใจเย็น น่ารัก ขี้เล่น รักเจ้าของและสมาชิกภายในครอบครัว ชอบได้รับความสนใจและชอบอยู่ท่ามกลางสมาชิกในครอบครัว มันจึงเป็นสุนัขที่สามารถเลี้ยงให้อยู่ร่วมกับเด็กๆ ในครอบครัวได้เป็นอย่างดี เนื่องจากว่ามันมีความขี้เล่น จึงเป็นเพื่อนเล่นให้กับเด็กๆ ได้ดี แต่ควรกำชับเด็กๆ ให้เล่นกับมันอย่างเบามือ เพราะว่ามันตัวเล็ก และบอบบางพอสมควร

มันเป็นสุนัขที่สามารถเข้ากันกับสุนัขตัวอื่น และสัตว์เลี้ยงตัวอื่นเช่น แมว ที่อยู่ร่วมกันมาตั้งแต่เด็กได้ดีเช่นกัน มันสามารถเล่นหยอกล้อ ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับสัตว์ตัวอื่น สามารถอยู่ด้วยกัน กิน นอนด้วยกันเป็นปกติ แต่ถ้าเป็นสัตว์หรือเด็กๆ แปลกหน้าที่พึ่งเข้ามาในครอบครัว เราก็ต้องให้เวลาเจ้าตูบในการค่อยๆ ทำความรู้จัก ทำความคุ้นเคย และเปิดใจยอมรับกันสักระยะ แล้วค่อยนำมันมาใช้ชีวิตร่วมกับเด็กใหม่ และเพื่อนใหม่ตัวอื่น

ความน่ารักของเจ้าบิชอง

การดูแลบิชอง ฟริเซ่

การดูแลด้านการออกกำลังกาย

มันเป็นสุนัขที่ต้องการการออกกำลังกายบ้างนิดหน่อย คุณควรจะมีเวลาในการพาเจ้าตูบไปเดินเล่น วิ่งเล่นนอกบ้านสักนิด หรือไม่ก็ให้มันเล่น ทำกิจกรรมต่างๆ ที่ออกแรงร่วมกับสมาชิกในครอบครัว สัก 20-30 นาทีต่อวันก็เพียงพอแล้ว เพื่อช่วยปลดปล่อยพลังงานที่มีในตัวสุนัข ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดความเครียดให้สุนัข และเพื่อให้สุนัขมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ ห่างไกลจากปัญหาสุขภาพ ช่วยให้มันอยู่เป็นเพื่อนกับเราไปนานๆ

การดูแลเรื่องการเข้าสังคมและการฝึกสอน

โดยธรรมชาติมันเป็นสุนัขที่มีความเป็นมิตรต่อผู้คน แต่ว่าเราควรฝึกการเข้าสังคมให้มันบ้าง ห้ามขังมันไว้ในที่แคบๆ ทั้งวันโดยไม่สนใจมันเลย คุณควรพามันไปทำความรู้จัก และทำกิจกรรมกับคนในครอบครัวตั้งแต่ที่มันยังเป็นลูกสุนัข เพื่อให้มันคุ้นเคยและรักผู้คนในครอบครัว รวมถึงให้มันไปพบปะกับผู้คนแปลกหน้า สุนัขตัวอื่น และสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ เพื่อฝึกทักษะในการเข้าสังคมกับผู้อื่น มีส่วนช่วยให้มันสามารถเปิดใจรับเพื่อนใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้นในตอนโตเต็มวัย สามารถใช้ชีวิตร่วมกับสัตว์ตัวอื่นได้ดีขึ้นในตอนโต ส่วนเรื่องการฝึกสอน เราควรฝึกสอนสิ่งต่างๆ ให้มันตั้งแต่ที่มันยังเป็นลูกสุนัข เพื่อความง่ายและความไวในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่คุณสอน

เรื่องการดูแลขนและความสะอาด

มันเป็นสุนัขมีขนยาวและมีขนสองชั้น คุณจึงควรใส่ใจเรื่องการดูแลขนของมันบ้าง แปรงขนให้มันอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้งก็ยังดี เพื่อเอาขนตายและสิ่งสกปรกที่ค้างอยู่ในตัวมันออกมา มันเป็นสุนัขที่ผลัดขนน้อย แต่ว่าช่วงที่มันผลัดขนก็ควรหวีขนให้มันบ่อยขึ้นกว่าเดิม รวมถึงมีการอาบน้ำ ตัดขน ตัดเล็บ ทำความสะอาดให้มันบ้าง ความบ่อยขึ้นอยู่กับความสกปรกของตัวสุนัข ถ้ามันยังไม่สกปรกก็ยังไม่จำเป็นต้องอาบน้ำก็ได้

การดูแลเรื่องสุขภาพโดยรวม

อย่างที่รู้กันดีว่าอากาศบ้านเราในหน้าร้อนมันร้อนแผดเผาแค่ไหน เราก็ควรจะระวังเรื่องฮีทสโตรกในสุนัขบ้าง เราควรให้สุนัขอยู่ในที่ที่อากาศไม่ร้อนจนเกินไป มีอากาศถ่ายเท ไม่อบอ้าว ไม่มีแดดส่องลงมาตรงๆ มีน้ำดื่มมากพอ พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้สุนัขทำกิจกรรม ออกแรงเยอะเกินไปในช่วงกลางวัน และหมั่นเช็คเสมอว่าคุณไม่ได้ลืมเจ้าตูบไว้บนรถร้อนๆ ในช่วงกลางวัน

10 อาหารต้องห้ามสำหรับสุนัข

คอยควบคุมรูปร่าง และน้ำหนักตัวของสุนัขให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเพื่อช่วยลดโอกาสการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคอ้วน (Obesity) ด้วยการพาเจ้าตูบไปทำกิจกรรมและออกกำลังกายเป็นประจำ อีกส่วนนึงคือการควบคุม เอาใจใส่คุณภาพและปริมาณอาหารของสุนัขให้ดี เลือกประเภทอาหารที่เหมาะสมกับตัวสุนัข จะเป็นการทานบาร์ฟ อาหารปกติทั่วไป หรือจะเป็นอาหารสำหรับสุนัขโดยเฉพาะก็แล้วแต่คุณเลย ถ้าเป็นอาหารทั่วไปก็ควรเป็นอาหารที่ดี มีประโยชน์ เช่น เนื้อไก่ เนื้อหมู ปลา ไข่ไก่ ตับ ข้าว มาคลุกรวมกันโดยไม่ปรุงแต่งรสชาติใดๆ เพิ่มเติม สามารถให้ผลไม่ชนิดที่สุนัขทานได้ในปริมาณที่พอเหมาะ ถ้าเป็นอาหารสำหรับสุนัขก็สามารถเลือกสูตรที่เหมาะสมกับสุนัขของคุณได้เลย เช่น สูตรบำรุงกระดูก เป็นต้น

วิธีคำนวนปริมาณการให้อาหารสุนัข

โรคภัยต่างๆ ที่อาจพบใน Bichon Frise

ต้อกระจก (Cataract): เป็นปัญหาเกี่ยวกับดวงตาที่มักจะพบในสุนัขที่เริ่มมีอายุแล้ว ซึ่งสามารถเกิดจากกรรมพันธุ์หรือการได้รับอาการบาดเจ็บที่ดวงตา
โรคเกี่ยวกับช่องปาก (Periodontal disease): มักจะพบในสุนัขตัวเล็กมากกว่าตัวใหญ่ อาการคือ สุนัขจะมีกลิ่นปากแรง เหงือกบวมแดง เหงือกมีเลือดออก การช่วยมันแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอจะข่วยลดโอกาศในการเกิดโรคนี้ได้
โรคสะบ้าเคลื่อน (Patellar Luxation): คือโรคภัยที่สุนัขสายพันธุ์นี้ และสุนัขสายพันธุ์เล็กตัวอื่นๆ มักจะเจอ มันเป็นโรคที่สามารถถ่ายทอดได้ทางกรรมพันธุ์ แต่เราก็สามารถลดโอกาสในการเกิดโรคนี้ได้ โดยการควบคุมน้ำหนักตัวของมันให้เหมาะสม ด้วยการเอาใจใส่เรื่องโภชนาการของสุนัขให้อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะกับสายพันธุ์ มั่นพามันไปออกกำลังกาย รวมถึงการคอยระวังไม่ให้สุนัขได้รับแรงกระแทกแรงๆ ที่ข้อเข่า เช่น การตกจากที่สูง

นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่จะเจอโรคภัยอื่นๆ อีก เช่น

กระจกตาเสื่อม (Corneal Degeneration/ Dystrophy): วิธีสังเกตก็คือ มันจะมีจุดเล็กๆ สีขาว ในกระจกตา พบได้บ่อยในสุนัขวัยชรา
โรคลมแดด (Heatstroke): เกิดจากร่างกายของสุนัขระบายความร้อนที่สูงไม่ได้
จอประสาทตาเสื่อม (Progressive Retinal Atrophy)
ไตวาย (Kidney Failure)
โรคตับอักเสบ (Hepatitis)
โรคหลอดลมอักเสบ (Bronchitis)
โรคผิวหนังอักเสบเป็นหนองในสุนัข (Pyoderma)
ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานต่ำ (Hypothyroidism)
โรคข้อศอกเสื่อม (Elbow Dysplasia)
โรคข้อสะโพกเสื่อม (Hip dysplasia)
โรคอ้วน (Obesity)