เบงกอล (Bengal) มันเป็นสายพันธุ์แมวจากประเทศสหรัฐอเมริกาที่ดูเหมือนเสือดาวขนาดย่อม แต่ว่านิสัยของมันอาจจะไม่ดุดันเหมือนกับลวดลายภายนอกของมันก็ได้ มาทำความรู้จักมันให้มากขึ้นกัน
ข้อมูลทั่วไปของเบงกอล
- ขนาดตัว: ปานกลางจนถึงค่อนข้างใหญ่
- ความสูง: 30 – 38 ซม. วัดจากไหล่
- น้ำหนัก: 3.6 – 6.8 กก.
- อายุขัย: 10 – 15 ปี หรือมากกว่านี้
- ความยาวขน: สั้น
- ความฉลาด: ฉลาดมาก
- ถิ่นกำเนิด: ประเทศสหรัฐอเมริกา 🇺🇸
- ความต้องการการเอาใจใส่: สูง
- ลักษณะเฉพาะ: ใบหูใหญ่ทรงสามเหลี่ยม ดวงตาทรงเมล็ดอัลมอนด์ รูปร่างสมส่วน ลายที่ตัวมีความคล้ายคลึงกับเสือดาว
ประวัติของเบงกอล
ได้มีการพยายามที่จะพัฒนาแมวสายพันธุ์ใหม่โดยการนำแมวป่าที่เรียกกันว่าแมวดาว (Prionailurus bengalensis) ไปผสมข้ามสายพันธุ์กับแมวบ้านทั่วไปตั้งแต่ในช่วงศตวรรษที่ 18 แต่ความสำเร็จในการพัฒนาแมวสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1960 โดยมีผู้เพาะพันธุ์แมวชาวอเมริกันท่านหนึ่งที่ชื่อว่า Jean Sudgen Mill เธอต้องการพัฒนาแมวสายพันธุ์ใหม่ที่มีลักษณะภายนอกคล้ายแมวป่า แต่มีนิสัยที่ดีเหมือนแมวบ้าน เธอได้ทำการนำแมวบ้านหลายสายพันธุ์ เช่น Abyssinian และ Egyptian Mau กับแมวป่าอย่างแมวดาว จนมันกลายมาเป็นแมวพันธุ์ Bengal ที่ทุกคนรู้จักกัน ซึ่งก็ได้มีการพัฒนาแมวสายพันธุ์นี้ต่อไป จนมันมีหลายรุ่น โดยรุ่นดั้งเดิมจะถูกเรียกว่า F1 ในปัจจุบันจะมีถึงรุ่น F5
มันได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากองค์กร The International Cat Association (TICA) ในปี ค.ศ. 1993 และองค์กร Cat Fancier’s Association ในปี ค.ศ. 2016
ในปัจจุบัน แมวสายพันธุ์นี้เป็นที่นิยมเลี้ยงเป็นอย่างมาก มันเป็นถึงหนึ่งในสายพันธุ์แมวที่คนทั่วโลกนิยมเลี้ยงมากที่สุด
ลักษณะนิสัยและความเป็นมิตรของเบงกอล
มันเป็นแมวที่มีความซุกซน ขี้เล่น แอคทีพ กระตือรือร้น กระฉับกระเฉง ตื่นตัว ขี้สงสัย และมีพลังงานในตัวสูงมาก มันไม่ใช่แมวประเภทที่จะนอนอยู่เฉยๆ ทั้งวัน มันเป็นแมวที่ชอบทำกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องออกแรง เช่น การปีนป่ายสำรวจ การเล่นของเล่นชิ้นโปรด และการกระโดดขึ้นไปบนที่สูง เป็นต้น
มันเป็นแมวที่มีความเป็นมิตร สามารถเข้ากันกับคนแปลกหน้าและสัตว์เลี้ยงตัวอื่นได้ค่อนข้างดี นอกจากนี้มันยังเป็นแมวที่รักเจ้าของและสมาชิกในบ้าน มันชอบการอยู่กับพวกเขาและทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน ทั้งนี้ นิสัยของแมวแต่ละตัวจะขึ้นอยู่กับรุ่นของมันด้วย รุ่น F1 อาจจะซุกซน พลังงานสูงที่สุด และมีแนวโน้มที่จะแสดงความก้าวร้าวมากที่สุด ส่วน F5 จะมีนิสัยน่ารักเหมือนแมวบ้านมากที่สุด แต่ความซุกซนก็ยังอยู่ในระดับที่สูง
ความหลากหลายของรุ่นและสีขนแมว
ความหลากหลายของรุ่น
- F1: เป็นแมวรุ่นแรกที่มีเชื้อสายของแมวป่ามากที่สุด ซึ่งมีแนวโน้มที่จะมีพลังงานสูงมาก และมีแนวโน้มที่จะมีความก้าวร้าวมากกว่ารุ่นอื่น
- F2: แมวเบงกอลรุ่น 2 เป็นแมวที่เกิดจากการนำรุ่น F1 ไปผสมพันธุ์กับแมวบ้าน มันมีแนวโน้มที่จะก้าวร้าวน้อยกว่ารุ่นแรก แต่ความซุกซนยังสูงมาก
- F3: แมวรุ่น 3 ที่เกิดจากการนำแมวรุ่น F2 ไปผสมพันธุ์กับแมวบ้านอีกที มันมีแนวโน้มที่จะก้าวร้าวน้อยกว่ารุ่นสอง
- F4-F5: แมวรุ่น 4 และรุ่น 5 จะมีความเป็นแมวบ้านมากกว่าสามรุ่นด้านบน มีความเป็นมิตรสูง ไม่ก้าวร้าว แต่ยังมีความขี้เล่นและพลังงานสูงอยู่ดี เหมาะสำหรับการนำมาเลี้ยงในบ้านมากที่สุด
ความหลากหลายของสีแมว
สีตา
สีตาของแมวสายพันธุ์นี้สามารถเป็นโทนสีทอง และสีเขียว
สีขน
สีขนของแมวสายพันธุ์นี้มีให้เลือกหลากหลายสี ส่วนมากจะเป็นสีน้ำตาล (Brown) นอกจากนี้ยังมีสีอื่นๆ อีก เช่น สีเงิน, สีน้ำเงิน, สีดำ, สีครีมอ่อน, สีหิมะ, สีน้ำตาลแดง และอื่นๆ ส่วนลวดลายของมันสามารถเป็นแบบลายจุด (Spotted) และลายหินอ่อน (Marbled)
การดูแลเบงกอล
การดูแลด้านการออกกำลังกาย
มันเป็นแมวที่พลังงานสูงมาก ผู้เลี้ยงจึงควรกระตุ้นให้มันได้ออกแรงปลดปล่อยพลังงานบ้าง จะเป็นการซื้อเสาฝนเล็บมาให้มันได้ออกแรงลับเล็บ เพื่อช่วยให้แมวรู้สึกผ่อนคลาย ได้ยืดเหยียดออกกำลังกาย และลดโอกาสที่แมวจะไปขีดข่วนเฟอร์นิเจอร์ของคุณ
ควรมีคอนโดแมวให้มันปีนป่ายสำรวจ หรือจะเป็นการใช้ไม้ตกแมว ของเล่นแบบติดพื้น หรือจะเป็นขนไก่ไปเล่นหยอกล้อกับเจ้าเหมียวก็ได้ เพื่อให้มันได้วิ่งออกแรงไล่ตะปบสิ่งเหล่านั้น หรือถ้าคุณสะดวก คุณสามารถพามันไปสำรวจและเดินเล่นนอกบ้านเป็นครั้งคราว มันมีส่วนช่วยให้แมวของคุณมีสุขภาพที่ดี แข็งแรงสมบูรณ์
เรื่องการดูแลขนและความสะอาด
มันเป็นแมวที่ขนสั้น การดูแลขนจึงเป็นเรื่องง่าย แค่แปรงมาแปรงขนให้เจ้าเหมียว ประมาณ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อกำจัดขนตายและสิ่งสกปรกที่ติดค้างอยู่ในตัวแมวออกมาให้หมด และถึงแม้ว่าส่วนมากแมวจะใช้เวลาในการทำความสะอาดตัวเองได้มากถึงครึ่งหนึ่งของเวลาตอนมันตื่นทุกวันอยู่แล้ว แต่ว่าเราก็ควรช่วยมันทำความสะอาดร่างกายในจุดที่มันทำความสะอาดเองไม่ได้เป็นประจำ เช่น ใบหน้า ดวงตา ใบหู รวมถึงมีการตัดเล็บ แปรงฟัน และอาจจะมีการอาบน้ำให้มันบ้างหากว่ามันไปเล่นจนเนื้อตัวเปื้อนไปหมด และไม่ควรให้มันไปคลุกคลีกับแมวตัวอื่นที่ไม่รู้จัก เพราะมันเสี่ยงต่อการติดหมัดแมวและโรคภัยจากแมวตัวอื่น
การดูแลเรื่องสุขภาพโดยรวม
ถึงแม้แมวจะมีโอกาสเป็นโรคลมแดดน้อยกว่าสุนัขพอสมควร แต่อากาศในประเทศไทยนั้นร้อนมากๆ ผู้เลี้ยงจึงควรศึกษาเรื่องนี้ไว้บ้าง วิธีป้องกันเบื้องต้น คือ เราควรให้แมวอยู่ในที่ที่อากาศไม่ร้อนและไม่อบอ้าว ไม่มีแดดแรงส่องมากระทบตัวมันตรงๆ มีน้ำสะอาดให้มันดื่มมากพอ และควรเช็คให้แน่ใจเสมอว่าคุณไม่ได้ลืมมันทิ้งไว้บนรถยนต์ที่ดับเครื่องแล้ว ถ้าหากคุณชอบพาแมวออกไปเดินเล่นนอกบ้าน ก็ควรพามันออกข้างนอกในช่วงที่แดดอ่อน
คอยควบคุมรูปร่าง และน้ำหนักตัวของแมวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานอยู่เสมอ เพื่อช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น โรคอ้วน (Obesity) ด้วยการกระตุ้นให้เจ้าเหมียวได้ออกแรงทำกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเผาผลาญแคลอรี่ส่วนเกิน อีกส่วนนึงคือการควบคุมและเอาใจใส่คุณภาพและปริมาณอาหารของแมว เลือกประเภทอาหารที่เหมาะสมกับตัวแมว จะเป็นการทานอาหารแบบบาร์ฟที่มีข้อดีหลายอย่าง เป็นอาหารปกติทั่วไป เป็นอาหารแมวแบบเม็ดที่เก็บได้นาน หรือจะเป็นอาหารแมวแบบเปียกที่ช่วยกระตุ้นความอยากอาหารของแมวก็แล้วแต่ความสะดวกและเหมาะสม ถ้าเป็นอาหารทั่วไปก็ควรเป็นอาหารที่ดี มีประโยชน์ เช่น เนื้อไก่ เครื่องในไก่ ไข่ไก่ ข้าวเปล่า ผักและผลไม้ที่แมวทานได้มาคลุกให้เข้ากัน โดยไม่ใส่เกลือหรือเครื่องปรุงรสใดๆ ลงไปเพิ่มเติม ในปริมาณที่เหมาะสมกับขนาดของตัวแมว ถ้าเป็นอาหารสำหรับแมวโดยเฉพาะก็ให้เลือกสูตรที่เหมาะสมกับแมวของคุณ เช่น สูตรโปรตีนสูง
โรคภัยต่างๆ ที่อาจพบในแมว Bengal
- โรคจอประสาทตาเสื่อม (Progressive retina atrophy): มันเป็นโรคที่สามารถส่งต่อมาจากกรรมพันธุ์ได้ อาการที่สามารถสังเกตได้ คือการที่แมวมองไม่ค่อยเห็นในที่มืด และมักจะไปเดินชนสิ่งต่างๆ รอบตัว และถ้าเริ่มมีอาการที่รุนแรง แม้แต่ในที่ที่มีแสงสว่างมากเพียงพอ มันก็อาจจะมองไม่ค่อยเห็นและเดินชนสิ่งต่างๆ รอบตัวได้
- โรคกล้ามเนื้อหัวใจหนาผิดปกติ (Hypertrophic cardiomyopathy): มักจะเกิดกับแมวที่เริ่มมีอายุแล้ว อาการที่สามารถบ่งบอกว่าแมวอาจจะเป็นโรคนี้ คือการที่แมวหายใจไม่ค่อยออก เบื่ออาหาร หัวใจเต้นผิดปกติ อาเจียน และซึมเศร้า แต่ว่าแมวบางตัวอาจจะไม่แสดงอาการป่วยที่สามารถสังเกตได้ออกมาให้เห็นเลย จนกระทั่งอาการเริ่มหนักแล้ว
นอกจากนี้ยังมีโอกาสเจอโรคภัยอื่นๆ ดังนี้
- โรคเชื้อราแมว (Ringworm)
- โรคพิษสุนัขบ้าในแมว (Rabies)
- การบาดเจ็บจากการตกจากที่สูง (High-rise syndrome)
- โรคลิวคีเมีย (Feline Leukemia Virus)
- มะเร็งชนิดต่างๆ (Cancer)
- โรคพยาธิหัวใจในแมว (Heart Worm Disease in Cats)
- โรคเบาหวาน (Diabetes)
- โรคไตในแมว (Kidney Disease)
- พยาธิตัวตืด (Tapeworms)
- ไรในหู (Ear mites)
- โรคอ้วน (Obesity)
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ Bengal
- เป็นแมวที่มีความรักให้กับผู้คนในครอบครัว
- มีความเป็นมิตรกับคนแปลกหน้าและสัตว์ตัวอื่น
- มีความขี้เล่น แอคทีพ พลังงานสูงมาก
- เป็นแมวที่มีหลายรุ่น
Bengal เหมาะกับผู้ที่
- มีเวลาอยู่ร่วมกับมัน และทำกิจกรรมกับมันบ้าง
- มีเด็กๆ และสัตว์เลี้ยงตัวอื่นอยู่ภายในบ้าน
- ชอบแมวที่ซุกซนและแอคทีพมาก
- ชอบแมวขนสั้น ดูแลไม่ยาก
คำถามที่พบบ่อย
- หาซื้อได้ที่ไหน: มีฟาร์มแมว Bengal ในไทยให้ท่านได้เลือกซื้อสามารถเสิร์ชใน Google ได้เลย
- ราคาประมาณเท่าไหร่: ส่วนมากจะอยู่ในหลักหมื่น แต่สามารถแพงไปจนถึงหลักแสน
เรื่องเจ้าเหมียวที่คุณอาจจะชอบ
อ่านเรื่องไหนต่อดี
100+ ชื่อสุนัขสีเทา ที่มีเสน่ห์และเข้ากันกับสีขนอันเรียบหรู
10 อาหารสุนัขลาบราดอร์ ยี่ห้อไหนดีและช่วยบำรุงข้อต่อ ปี 2023
ซิลกี้ เทอร์เรียร์ (Silky Terrier) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลสุนัข
กระต่ายกินกล้วยได้ไหม แล้วควรกินเท่าไหร่ดี
หนูตะเภาพันธุ์ Lunkarya ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลหนูขนหยัก
20 สายพันธุ์สุนัขตัวเล็กที่พกพาง่าย แถมยังน่ารักน่ากอดอีกด้วย
นกแก้วอิเคล็กตัส (Eclectus Parrot) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแล
9 ปัตตาเลี่ยนตัดขนสุนัขและแมว แบบไหนดี ตัดขนได้เรียบเนียน 2023