เบดลิงตัน เทอร์เรียร์ (Bedlington Terrier) มันเป็นสายพันธุ์สุนัขจากประเทศอังกฤษที่ดูราวกับลูกแกะที่แสนจะน่ารัก แต่นิสัยของมันจริงๆ แล้วจะน่ารักเหมือนหน้าตาหรือไม่ มาค้นหาคำตอบในบทความนี้กันเถอะ
ข้อมูลทั่วไปของเบดลิงตัน เทอร์เรียร์
- ขนาดตัว: เล็ก
- ความสูงจากไหล่: ตัวเมีย 37 – 42 ซม. ตัวผู้ 40 – 44 ซม.
- น้ำหนัก: 7.7 – 10 กก.
- อายุขัย: 12 – 14 ปี
- ความยาวขน: ปานกลาง
- ความฉลาด: ฉลาดพอสมควร
- ถิ่นกำเนิด: ประเทศอังกฤษ
- ปริมาณการผลัดขน: น้อย
- ความต้องการการเอาใจใส่: สูง
- ลักษณะเฉพาะ: ขนมีความหยิกหยักสวยงาม หางเล็กแหลม ใบหน้ายาว ใบหูพับขนาดค่อนข้างใหญ่ รูปร่างสมส่วน หลังโค้ง ดูมีความคล้ายคลึงกับแกะอยู่บ้าง
ประวัติของเบดลิงตัน เทอร์เรียร์
มันเป็นสุนัขจากประเทศอังกฤษ ซึ่งยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ามันเกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ของสุนัขพันธุ์ไหน แต่คาดว่ามันกำเนิดขึ้นมาบนโลกนี้ครั้งแรกในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ซึ่งในตอนแรกผู้คนที่ทำงานในเหมืองถ่านหินมักจะใช้มันในการล่าสัตว์ชนิดต่างๆ เช่น สุนัขจิ้งจอก ตัวแบดเจอร์ กระต่าย และสัตว์รบกวนชนิดอื่นๆ และถึงแม้จะดูเป็นเรื่องที่โหดร้าย แต่มันก็เคยถูกใช้เป็นสุนัขสำหรับกีฬาต่อสู้กับสุนัขตัวอื่นจนตัวตายเช่นกัน
แต่คงเป็นเพราะรูปร่างหน้าตาที่มีเสน่ห์ของมัน เหล่าชนชั้นสูงในอังกฤษจึงได้ลองเลี้ยงมันเป็นสัตว์เลี้ยงคู่ใจ และได้พบว่ามันสามารถเป็นเพื่อนที่ดีมากๆ กับมนุษย์ได้เช่นกัน มันจึงได้ออกมาจากเหมืองถ่านหินและเข้ามาใช้ชีวิตในคฤหาสน์มากขึ้น ซึ่งนั่นทำให้มันเริ่มเป็นที่รู้จักกันของผู้คนมากขึ้น จึงได้มีการจัดตั้งสโมสร National Bedlington Terrier Club ในปี ค.ศ. 1877 และหลังจากนั้น 9 ปี มันก็ได้รับการจดทะเบียนอย่างเป็นทางการครั้งแรกจากองค์กร American Kennel Club (AKC) จนถึงในปัจจุบัน มันก็ยังคงเป็นสุนัขที่ชาวอังกฤษภาคภูมิใจ แถมมันยังได้เป็นชื่อทีมและมาสคอตของสโมสรฟุตบอล Bedlington Terriers F.C. อีกด้วย
ลักษณะนิสัยของเบดลิงตัน เทอร์เรียร์
มันเป็นสุนัขที่มีขี้เล่น ซุกซน ร่าเริง กระฉับกระเฉง และพลังงานสูงเป็นอย่างมาก มันชื่นชอบการวิ่งเล่น หยอกล้อกับเจ้าของ และการเคลื่อนไหวไปมาอยู่เสมอ มันจึงเหมาะกับครอบครัวที่มีความแอคทีฟและชอบพาสุนัขไปทำกิจกรรมต่างๆ เป็นอย่างมาก แถมมันยังมีความชอบเข้าสังคม มันชอบการอยู่ท่ามกลางความสนใจของผู้คน มันจึงสามารถเข้ากันได้ดีกับคนทุกเพศทุกวัยในครอบครัว และยังค่อนข้างเป็นมิตรกับเพื่อนใหม่อีกด้วย แต่ว่าสุนัขบางตัวอาจจะชอบขุดดิน ส่งเสียงเห่า และซุกซนมากเกินไปบ้างสำหรับบางท่าน
ความหลากหลายของสีสุนัข
สีตา
มันเป็นสุนัขที่มีตาโทนสีน้ำตาลไปจนถึงดำ
สีขนและสีตัว
สีขนของมันมีเพียงไม่กี่แบบให้เลือก เช่น สีบลู, สีขาวเหลือง (Sandy), สีขาวอมน้ำตาล (Sandy & Tan), สีน้ำตาลเข้มอมแดง (Liver) เป็นต้น
ความเป็นมิตรของเจ้าตูบที่มีต่อเด็ก และสัตว์เลี้ยง
หากมันได้รับการฝึกให้เข้าสังคมตั้งแต่ยังเด็ก มันจะเป็นสุนัขที่มีความเป็นมิตรกับคนในครอบครัว มันจึงเข้ากันได้ดีกับเด็กๆ ภายในบ้าน และสามารถเข้ากันได้กับสุนัขตัวอื่นและสัตว์เลี้ยงตัวอื่นที่มันคุ้นเคยด้วยแล้ว แล้วด้วยความที่มันมีความขี้เล่นซุกซนในระดับสูง มันจึงสามารถเป็นเพื่อนเล่นให้กับเด็กๆ โดยไม่รู้จักเบื่อ แต่ถ้ากับเด็กแปลกหน้าหรือเพื่อนสุนัขตัวใหม่ เราก็ต้องให้เวลามันสักพักในการทำความคุ้นเคยกับเพื่อนใหม่ก่อน
แต่เนื่องจากว่าสุนัขบางตัวอาจจะมีสัญชาตญาณในการล่าสัตว์เล็กอยู่บ้าง การเลี้ยงมันร่วมกับสัตว์เล็กๆ อย่างกระต่ายจึงต้องระวังสักนิดนึง การให้มันอยู่ร่วมกันกับสัตว์ตัวเล็กเหล่านี้ตั้งแต่เด็กจะทำให้มันสามารถอยู่ร่วมกันกับเพื่อนตัวจิ๋วได้ดีขึ้น
การดูแลเบดลิงตัน เทอร์เรียร์
การดูแลด้านการออกกำลังกาย
มันเป็นสุนัขมีระดับพลังงานที่สูงพอสมควร นั่นหมายความว่ามันต้องการการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ผู้เลี้ยงจึงควรหาเวลามาพามันออกไปเดินเล่นนอกบ้าน วิ่งเล่น ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับคนในครอบครัว หรือถ้าคุณสะดวก จะพามันไปว่ายน้ำบ้างก็ได้นะ เพื่อให้สุนัขมีสุขภาพที่ดี และเป็นการปลดปล่อยพลังงานที่มีมากมายให้สุนัข ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดความเบื่อหน่าย ความเก็บกด และความหดหู่ให้สุนัข แถมยังมีส่วนช่วยในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของกับสุนัขอีกด้วย ระยะเวลาในการพามันไปออกกำลังกายควรจะอยู่ประมาณ 45-60 นาทีต่อวัน หรือจะมากกว่านี้ก็ได้
การดูแลเรื่องการเข้าสังคมและการฝึกสอน
เราควรฝึกให้มันเข้าสังคมบ้าง เพื่อให้มันเติบโตมาเป็นสุนัขที่เข้ากับคนได้ดีเท่าที่ควร ด้วยการพามันไปเล่นหยอกล้อและทำกิจกรรมร่วมกับสมาชิกในครอบครัวตั้งแต่ที่มันยังเป็นลูกสุนัข เพื่อให้มันรู้สึกคุ้นเคยและรักใคร่พวกเขา รวมถึงให้มันไปพบเจอกับคนแปลกหน้า สุนัขตัวอื่น และสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นตั้งแต่เด็กด้วย เพื่อให้มันสามารถอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นได้ดีขึ้น ส่วนเรื่องการฝึกสอน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นสุนัขที่ฉลาด แต่ก็เหมือนกันกับสุนัขในตระกูลเทอร์เรียตัวอื่น คือมันมักจะมีความดื้อดึงในระดับหนึ่ง การฝึกสอนมันจึงต้องใช้ความใจเย็นและความสม่ำเสมอ การให้ขนม คำชมเชย และการลูบหัวเป็นรางวัลตอบแทนจะทำให้การสอนเป็นไปอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น
เรื่องการดูแลขนและความสะอาด
ขนของมันจะมีความหยิกหยัก ซึ่งขนของมันจะเป็นขนแบบชั้นเดียวและขนร่วงน้อย แต่มันก็ต้องได้รับการดูแลขนบ้าง ด้วยการนำหวีแปรงขนมันให้บ้างเป็นครั้งคราว และขนของมันยาวค่อนข้างเร็ว จึงควรมีการตัดเล็มขนให้มันบ้างหากขนมันเริ่มยาวและรก ส่วนเรื่องความสะอาด เราควรตัดเล็บ แปรงฟัน ทำความสะอาดใบหน้าใบหู และมีการอาบน้ำให้สุนัขบ้างเป็นครั้งคราวเพื่อสุขอนามัยที่ดีของเจ้าตูบ
การดูแลเรื่องสุขภาพโดยรวม
อย่างที่เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าอากาศในประเทศไทยร้อนมากๆ โดยเฉพาะในหน้าร้อน เราจึงไม่ควรมองข้ามเรื่องลมแดดในสุนัข วิธีป้องกันเบื้องต้น คือ เราควรให้สุนัขอยู่ในที่ที่อากาศไม่ร้อน มีอากาศถ่ายเท ไม่อบอ้าว ไม่มีแดดแรงส่องลงมาโดนสุนัขตรงๆ ไม่ให้สุนัขวิ่งเล่นและทำกิจกรรมกลางแจ้งหนักๆ ในช่วงกลางวัน และห้ามปล่อยสุนัขทิ้งไว้บนรถยนต์ร้อนๆ ที่ดับเครื่องยนต์แล้ว
การควบคุมน้ำหนักตัวของสุนัขให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานอยู่เสมอเป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหาสุขภาพที่จะตามมากับความอ้วนให้สุนัข ด้วยการควบคุมเอาใจใส่คุณภาพและปริมาณอาหารของสุนัขให้ดี ให้เราเลือกประเภทอาหารที่คุณสะดวกและเหมาะสมกับสุนัขของคุณ จะเป็นการทานอาหารที่คุณจัดเตรียมเอง อาหารแบบบาร์ฟ หรือจะเป็นอาหารเม็ดและเปียกที่ทำมาเพื่อสุนัขโดยเฉพาะเลยก็ได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นอาหารแบบใด เราก็ต้องให้มันทานในปริมาณที่พอเหมาะกับขนาดตัว อีกส่วนหนึ่งคือการพาเจ้าตูบไปวิ่งเล่นออกกำลังกายเพื่อใช้พลังงานส่วนเกินบ้าง
โรคภัยต่างๆ ที่อาจพบใน Bedlington Terrier
- Copper Toxicosis: ซึ่งเกิดจากการที่ทองแดงไปสะสมในตับของสุนัขมากเกินไปจนเกิดเป็นปัญหาสุขภาพ ซึ่งมันเป็นโรคที่สามารถถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ได้ อาการที่สามารถบ่งบอกว่าสุนัขของคุณอาจจะเป็นโรคนี้ คือ สุนัขดูเซื่องซึม ไม่ค่อยกินข้าว กระหายน้ำมากผิดปกติ และปัสสาวะมีสีเข้มผิดปกติ
- ภาวะไทรอยด์ต่ำผิดปกติ (Hypothyroidism): เกิดจากการที่สุนัขมีระดับฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำกว่าระดับทั่วไปซึ่งถือว่าเป็นความผิดปกติของร่างกาย
- โรคสะบ้าเคลื่อน (Patellar Luxation): เป็นโรคเกี่ยวกับกระดูกที่สุนัขตัวเล็กมักจะเจอ อาการที่สามารถสังเกตได้จากภายนอกคือ สุนัขจะเดินกะเผลก ดูมีความเจ็บปวดที่ขา และไม่กล้าทิ้งน้ำหนักลงไปที่ขา ซึ่งมันเป็นโรคที่สามารถถ่ายทอดได้ทางกรรมพันธุ์
โรคภัยที่อาจจะพบเจอในสุนัขพันธุ์นี้
- ต้อกระจก(Cataract)
- โรคอ้วน (Obesity)
- โรคลำไส้อักเสบ (Canine Parvo Virus)
- โรคพยาธิหนอนหัวใจ (Heartworm)
- ฟันผุ (Tooth decay)
- โรคเบาหวาน (Diabetes)
- ไตวาย (Kidney Failure)
- โรคพิษสุนัขบ้า (Riabies)
- จอประสาทตาเสื่อม (Progressive Retinal Atrophy)
- โรคข้อศอกเสื่อม (Elbow Dysplasia)
- กลากเกลื้อน (Ringworm)
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับเจ้า Bedlington Terrier
- มันเป็นสุนัขที่ขนร่วงน้อย
- มันมีความขี้เล่น ร่าเริง และพลังงานสูง
- ขนของมันต้องการการดูแลและตัดแต่งเป็นครั้งคราว
- บางตัวอาจจะมีนิสัยชอบขุดดินและเห่าพร่ำเพรื่อ
Bedlington Terrier เหมาะกับผู้ที่
- ชอบสุนัขขนาดเล็ก
- ไม่ชอบสุนัขที่ขนร่วงเยอะ
- ชอบสุนัขที่มีขนหยิกหยักสวยงาม
- ชอบสุนัขที่ขี้เล่น ซุกซน มีชีวิตชีวา
- มีเวลาทำกิจกรรมกับมัน พามันไปออกกำลังกาย และดูแลขนมันบ้าง
คำถามที่พบบ่อย
- เลี้ยงกับเด็กได้ไหม: เลี้ยงกับเด็กๆ ในครอบครัวได้ดี
- เหมาะกับคนเป็นภูมิแพ้ไหม: ค่อนข้างเหมาะกับคนที่เป็นภูมิแพ้เพียงเล็กน้อย
- เลี้ยงกับสัตว์เลี้ยงอื่นได้ไหม: ได้ แต่ถ้าเป็นสัตว์เลี้ยงตัวเล็ก มันก็ควรได้รับการฝึกฝนให้สามารถอยู่ร่วมกันกับสัตว์เหล่านี้ตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัข
อ่านเรื่องไหนต่อดี
12 สายพันธุ์สุนัขขี้เล่น ที่ทำให้บ้านของคุณเต็มไปด้วยความสนุกสนาน
แมวท็องกินีส (Tonkinese) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลแมว
10 อาหารสุนัขบีเกิ้ล ยี่ห้อไหนดีและช่วยควบคุมรูปร่าง ปี 2023
10 อาหารแมวบริติชชอร์ตแฮร์ ยี่ห้อไหนดีและเหมาะกับน้องบ้าง ปี 2023
6 ป้ายชื่อแมวและสุนัข แบบไหนดีและรีวิวปัง ปี 2023
บริติช ลองแฮร์ (British Longhair) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลแมว
10 อาหารสุนัขลาบราดอร์ ยี่ห้อไหนดีและช่วยบำรุงข้อต่อ ปี 2023
เชทแลนด์ ชีพด็อก (Shetland Sheepdog) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลสุนัข