บาเซนจิ (Basenji) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลสุนัข

บาเซนจิ
แชร์ได้เลยที่ปุ่มด้านล่าง

บาเซนจิ (Basenji) เป็นสายพันธุ์สุนัขจากประเทศคองโก ที่มักจะมีสีขนเป็นสีส้มและสีขาว มันเป็นสุนัขที่มีข้อดีหลายๆ ด้าน แต่ก็มีข้อเสียอยู่บ้างเช่นเดียวกับสุนัขสายพันธุ์อื่น มาทำความรู้จักมันในบทความนี้กันเลย

ข้อมูลทั่วไปของบาเซนจิ

  • ขนาดตัว: เล็ก
  • ความสูง: ตัวผู้: 41–43 ซม.  ตัวเมีย: 38–41 ซม.
  • น้ำหนัก: ตัวผู้: 10–12 กก.  ตัวเมีย: 9–11 กก.
  • อายุขัย: 13 – 16 ปี
  • ความยาวขน: สั้น
  • ความฉลาด: ค่อนข้างฉลาด
  • ถิ่นกำเนิด: ประเทศคองโก 
  • การเอาใจใส่ตัวสุนัข: ปานกลาง
  • ปริมาณการผลัดขน: น้อย
  • ลักษณะเฉพาะ: ปากค่อนข้างยาว ดวงตากลมโต จมูกสีดำ หูใหญ่ตั้งทรงสามเหลี่ยม หางม้วนขดขึ้นไปบนหลัง รูปร่างสมส่วน
 

ประวัติของบาเซนจิ 

สุนัขพันธุ์ Basenji เป็นอีกสุนัขสายพันธุ์โบราณที่เก่าแก่ที่สุด ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ในยุคสมัยอียิปต์ ซึ่งหลักฐานก็คือมีสิ่งประดิษฐ์โบราณที่ปรากฏภาพของมัน รวมถึงมีงานศิลปะของชาวบาบิโลและเปโสโปเตเมียที่มีภายมันอยู่ในนั้น ถึงแม้ว่ายุคสมัยอียิปต์โบราณจะสิ้นสุดไปนานแล้ว แต่สุนัขสายพันธุ์นี้ก็ยังคงดำรงจนมาถึงทุกวันนี้ ลักษณะภายนอกของมันไม่เปลี่ยนแปลงไปจากในอดีตมากนัก ซึ่งมันเป็นสุนัขป่าที่อาศัยที่อยู่แถวๆ แม่น้ำไนล์และแม่น้ำคองโก ชาวแอฟริกันเล่าขานกันต่อมาว่ามันเป็นสุนัขที่มีความรวดเร็ว แข็งแรง ปราดเปรียว มีทักษะการดมกลิ่นที่ดี และมีทักษะการมองเห็นที่ดี ผู้คนชาวแอฟริกันจึงมักจะใช้มันมาช่วยเหลือในการล่าสัตว์ชนิดต่างๆ
 
จนกระทั่งในศตวรรษที่ 20 สุนัขสายพันธุ์นี้ถูกส่งตัวไปยังประเทศอังกฤษและสหรัฐอเมริกา และก็ได้มีการจัดตั้งโครงการปรับปรุงและพัฒนาสุนัขสายพันธุ์นี้ที่ประเทศอเมริกา แล้วในที่สุดมันก็ได้รับการจดทะเบียนอย่างเป็นทางการจาก American Kennel Club ในปี ค.ศ.1944 ในยุคปัจจุบัน มันเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์สุนัขที่หาค่อนข้างยากพอสมควร

ลักษณะนิสัยของบาเซนจิ 

มันเป็นสุนัขที่มีความรักสันโดษ รักอิสระ ชอบอยู่เงียบๆ ชอบการทำความสะอาดร่างกายตัวเองเป็นประจำเหมือนแมว มันเป็นสุนัขที่พลังงานสูง ต้องการการออกกำลังกายและทำกิจกรรมต่างๆ ที่ใช้พลังงานพอสมควรเป็นประจำ มันยังเป็นสุนัขที่มีความซื่อสัตย์และรักผู้คนในครอบครัวของมัน มันสามารถปกป้องคนที่มักรักให้ปลอดภัย แต่ว่ามันจะระแวงและคอยระวังกับคนแปลกหน้าอยู่เสมอ จะเปิดใจและเข้ากับคนแปลกหน้าได้ค่อนข้างยาก
 
มันเป็นสุนัขที่มีความฉลาด แต่ว่ามีความหัวรั้น ชอบทำอะไรตามใจอยาก ไม่ค่อยเชื่อฟัง จึงทำให้การฝึกสอนมันต้องใช้เวลาและความพยายามสักนิดนึง ข้อดีของมันอีกอย่างคือมันเป็นสุนัขที่ไม่ค่อยส่งเสียงเห่า จะเห่าเมื่อจำเป็นเท่านั้น เช่น เวลาเจอคนแปลกเข้ามาในเขตบ้าน จึงเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบสุนัขที่เห่าพร่ำเพรื่อ

ความหลากหลายของสีสุนัข

สีตา

สุนัขสายพันธุ์แท้ส่วนมากจะมีตาโทนสีน้ำตาลแลสีเหลืองอำพัน
 

สีขน

มันเป็นสุนัขที่มีสีให้เลือกไม่มากนัก ส่วนมากจะมีสองสีในตัว เช่น สีขาว-ส้ม, สีขาว-ดำ, สีขาว-น้ำตาล, สามสี สีขาว-ดำ-น้ำตาล เป็นต้น

ความเป็นมิตรของเจ้าตูบที่มีต่อเด็ก และสัตว์เลี้ยง

มันเป็นสายพันธุ์สุนัขที่มีความเป็นมิตรกับผู้คนในครอบครัว รวมถึงเหล่าเด็กๆ ทั้งหลายด้วย สามารถอยู่ร่วมกันกับเด็กๆ ในครอบครัวได้ มันมีความขี้เล่นอยู่บ้างนิดหน่อย จึงสามารถเล่นเป็นเพื่อนแก้เบื่อให้กับเด็กๆ ในบ้านได้ แต่ผู้ปกครองก็ควรคอยกำชับเด็กๆ ไม่ให้เล่นกับสุนัขแรงจนล้ำเส้นมันมากเกินไป แต่เนื่องจากว่ามันเป็นสุนัขที่ไม่ชอบคนแปลกหน้า ถ้าเป็นเด็กคนใหม่ที่พึ่งจะเข้ามาในครอบครัว มันก็ต้องใช้เวลาพอสมควรในการทำความรู้จักและทำความคุ้นเคย จึงสามารถอยู่ร่วมกับเด็กคนใหม่ได้
 
มันอาจจะเป็นสุนัขที่ไม่ค่อยเข้ากับสัตว์เลี้ยงตัวเล็กๆ มันอาจจะไล่จับสัตว์ตัวเล็กเหล่านี้ตามสัญชาตญาณของมัน หากต้องการที่จะเลี้ยงมันกับเพื่อนสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ ก็ควรให้มันอยู่ด้วยกันตั้งแต่มันยังเป็นลูกสุนัข ถ้าเป็นสุนัขตัวอื่นที่อยู่ร่วมกันมาตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัขก็สามารถอยู่ร่วมกันได้ แต่ถ้าเป็นสุนัขหน้าใหม่ที่พึ่งจะเข้ามาในบ้าน ก็ต้องใช้เวลาในการปรับตัวเข้าด้วยกันสักระยะ
บาเซนจิ

การดูแลบาเซนจิ  

การดูแลด้านการออกกำลังกาย

มันเป็นสุนัขที่ต้องการการออกกำลังกายเป็นประจำ คุณควรจะมีเวลาในการพาเจ้าตูบไปเดินเล่น วิ่งเล่นออกกำลังกาย หรือไม่ก็ให้มันเล่น ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับสมาชิกในครอบครัว ประมาณ 40-50 นาทีต่อวันก็เพียงพอแล้ว เพื่อช่วยปลดปล่อยพลังงานในตัวสุนัข ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดความเครียดให้สุนัข และเพื่อให้สุนัขมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ ห่างไกลจากปัญหาสุขภาพต่างๆ อยู่เคียงข้างคุณไปได้นานๆ
 

การดูแลเรื่องการเข้าสังคมและการฝึกสอน

มันเป็นสุนัขที่ไม่ค่อยชอบคนแปลกหน้า จึงควรฝึกการเข้าสังคมให้มันเป็นประจำ ไม่ควรขังหรือล่ามมันไว้ในที่แคบๆ ทั้งวันโดยไม่สนใจมันเลยเด็ดขาด เพราะมันอาจจะทำให้สุนัขเครียด เก็บกด กัดเคี้ยวทำลายข้าวของภายในบ้าน และอาจจะมีความก้าวร้าวได้ คุณควรพามันไปทำความรู้จัก และทำกิจกรรมร่วมกับสมาชิกในครอบครัวตั้งแต่ที่มันยังเป็นลูกสุนัข  เพื่อให้มันรู้สึกคุ้นเคยและผูกพันกับคนในครอบครัว รวมถึงให้มันไปพบปะกับผู้คนแปลกหน้า สุนัขตัวอื่น และสัตว์เลี้ยงตัวอื่นตั้งแต่มันยังเป็นลูกสุนัขอยู่เสมอ เพื่อฝึกทักษะในการเข้าสังคมให้เจ้าตูบ มีส่วนช่วยให้มันสามารถเปิดใจรับเพื่อนใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้นในตอนโตเต็มวัย  และสามารถใช้ชีวิตร่วมกับเด็กๆ และสัตว์ตัวอื่นได้ดีขึ้นในอนาคต ส่วนเรื่องการฝึกสอนนั้นก็ควรฝึกสอนสิ่งต่างๆ ให้เจ้าตูบตั้งแต่มันยังเป็นลูกสุนัข ต้องใช้ความอดทนในการสอนพอสมควรเนื่องจากว่ามันไม่ค่อยเชื่อฟัง
 

เรื่องการดูแลขนและความสะอาด

มันเป็นสุนัขที่มีขนสั้น การดูแลขนจึงเป็นเรื่องง่ายมากๆ แทบจะไม่ต้องทำอะไรกับขนเลย เพียงเอาหวีมาหวีขนตายออกจากตัวมันบ้างเป็นครั้งคราวก็พอแล้ว รวมถึงมีการตัดแต่งขน ตัดเล็บ ทำความสะอาดใบหน้า อาบน้ำให้สุนัขบ้าง ความถี่ขึ้นอยู่กับความสกปรกของสุนัข
 

การดูแลเรื่องสุขภาพโดยรวม

อย่างที่รู้กันดีว่าอากาศบ้านเราในหน้าร้อนมันร้อนแรงแผดเผาขนาดไหน เราจึงไม่ควรมองข้ามเรื่องฮีทสโตรกในสุนัขเด็ดขาด วิธีป้องกันเบื้องต้น คือ เราควรให้สุนัขอยู่ในที่ที่อากาศไม่ร้อน มีอากาศถ่ายเท ไม่อบอ้าว ไม่มีแดดส่องลงมาตรงๆ พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้สุนัขใช้พลังงานเยอะเกินไปในช่วงกลางวัน มีน้ำดื่มให้มันมากพอ ไม่ทิ้งสุนัขไว้บนรถยนต์ร้อนๆ ที่ดับเครื่องแล้ว และเลือกเวลาในการพาสุนัขไปทำกิจกรรมนอกบ้านให้ดี ให้เลือกช่วงเช้าหรือช่วงเย็นแทนตอนกลางวัน
คอยควบคุมรูปร่าง และน้ำหนักตัวของสุนัขให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานอยู่เสมอ เพื่อช่วยลดโอกาสการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน (Diabetes in dogs) ด้วยการพาเจ้าตูบไปวิ่งเล่นและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อีกส่วนนึงคือการควบคุม เอาใจใส่คุณภาพและปริมาณอาหารของสุนัขให้ดี เลือกประเภทอาหารที่เหมาะสมกับตัวสุนัข จะเป็นการทานแบบบาร์ฟ (Barf) อาหารปกติทั่วไป หรือจะเป็นอาหารสำหรับสุนัขโดยเฉพาะก็แล้วแต่ความสะดวกและความเหมาะสม กับตัวสุนัข ถ้าเป็นอาหารทั่วไปก็ควรเป็นอาหารที่ดี มีประโยชน์ เช่น เนื้อไก่ ตับ ข้าว ปลาทู มาคลุกเข้าด้วยกัน โดยไม่ใส่เกลือหรือเครื่องปรุงใดๆ เพิ่มเข้าไป สามารถให้ผักและผลไม้ชนิดที่สุนัขทานได้ในปริมาณที่พอเหมาะ ถ้าเป็นอาหารสำหรับสุนัขก็สามารถเลือกสูตรที่เหมาะสมกับสุนัขของคุณได้เลย ส่วนขนมที่เราทานกันควรให้มันทานแต่น้อย หรือเปลี่ยนเป็นขนมสำหรับสุนัขโดยเฉพาะจะดีกว่า มันจะมีแบบที่ช่วยทำความสะอาดฟันให้สุนัขด้วย ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพช่องปากของมัน
 

โรคภัยต่างๆ ที่อาจพบใน Basenji

  • ภาวะไทรอยด์ต่ำผิดปกติ (Hypothyroidism): เกิดจากการที่สุนัขมีระดับฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำกว่าปกติซึ่งถือว่าเป็นความผิดปกติของร่างกาย
  • โรคสะบ้าเคลื่อน (Patellar Luxation): มันเป็นโรคที่สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ แต่ว่าเราสามารถช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคนี้ในตัวสุนัขได้ โดยการควบคุมน้ำหนักตัวของมันให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของสายพันธุ์ ด้วยการเอาใจใส่เรื่องโภชนาการของสุนัขให้อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะกับขนาดตัว และหมั่นพามันไปออกกำลังกาย ทำกิจกรรมต่างๆ ที่ใช้พลังงานพอสมควรเพื่อเผาผลาญแคลอรี่ส่วนเกิน รวมถึงพยายามไม่ให้สุนัขวิ่งหรือกระโดดแรงมากจนเกินไป
  • โรคจอประสาทตาเสื่อม (Progressive Retinal Atrophy): เป็นโรคเกี่ยวกับดวงตาชนิดหนึ่ง อาการที่สามารถบ่งบอกว่าสุนัขอาจจะเป็นโรคนี้ คือ สุนัขดูมองเห็นได้ไม่ค่อยดีในที่มืด และมักจะเดินชนสิ่งของรอบตัว
 

นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่จะเจอโรคภัยอื่นๆ อีก เช่น

  • ต้อกระจก(Cataract): สามารถเกิดขึ้นได้ในสุนัขทุกช่วงอายุ
  • กระจกตาเสื่อม (Corneal Degeneration/ Dystrophy): วิธีสังเกตก็คือ มันจะมีจุดเล็กๆ สีขาว ในกระจกตา พบได้บ่อยในสุนัขวัยชรา
  • โรคลมแดด (Heatstroke): เกิดจากร่างกายของสุนัขระบายความร้อนที่สูงไม่ได้
  • โรคข้อศอกเสื่อม (Elbow Dysplasia)
  • โรคหัดสุนัข (Canine Distemper)
  • โรคหลอดลมอักเสบ (Bronchitis)
  • กลากเกลื้อน (Ringworm)
  • โรคอ้วน (Obesity)
  • โรคลำไส้อักเสบ (Canine Parvo Virus)
  • โรคพยาธิหนอนหัวใจ (Heartworm)
  • โรคเบาหวาน (Diabetes)

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับเจ้า Basenji

  • เป็นสุนัขที่รักเจ้าของและผู้คนในครอบครัว
  • ไม่ค่อยเข้ากันกับคนแปลกหน้าและสัตว์ตัวเล็ก
  • ต้องการการออกกำลังกายเป็นประจำ
  • ต้องการการฝึกให้เข้าสังคม

Basenji เหมาะกับผู้ที่

  • ชอบสุนัขขนาดเล็ก
  • มีเวลาพามันไปวิ่งเล่นออกกำลังกาย อยู่ร่วมกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน
  • ไม่มีสัตว์เลี้ยงตัวเล็กภายในบ้าน
  • ชอบสุนัขที่ไม่ขี้เล่นเกินเหตุ
  • ชอบสุนัขที่ไม่เห่ามากเกินไป
  • มีพื้นที่ในการเลี้ยงสุนัขจำกัด

คำถามที่พบบ่อย

  • เลี้ยงในหอพักได้ไหม: เลี้ยงได้อยู่
  • ดุไหม: ไม่ค่อยดุ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูและฝึกฝนของคุณ
  • เลี้ยงกับแมวได้ไหม: พอเลี้ยงกับแมวได้
  • เลี้ยงกับเด็กได้ไหม: เลี้ยงกับเด็กในครอบครัวได้
  • เหมาะกับผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ไหม: เหมาะกับคนที่เป็นภูมิแพ้เพียงเล็กน้อย
  • เฝ้าบ้านได้ไหม: พอเห่าเฝ้าบ้านได้

เรื่องเจ้าตูบที่คุณอาจจะชอบ

 Banner Image