อเมริกัน สแตฟฟอร์ดเชียร์ เทอเรียร์ (American Staffordshire Terrier)

อเมริกัน สแตฟฟอร์ดเชียร์ เทอเรียร์
แชร์ได้เลยที่ปุ่มด้านล่าง

อเมริกัน สแตฟฟอร์ดเชียร์ เทอเรียร์ (American Staffordshire Terrier) เป็นสุนัขจากประเทศอเมริกาที่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของคนไทยมากนัก มาทำความรู้จักกับมันกันเถอะ

ข้อมูลทั่วไป

  • ขนาดตัว: ปานกลาง
  • ความสูง: ตัวผู้: 46 – 49 ซม.  ตัวเมีย: 43 – 46 ซม. วัดจากไหล่
  • น้ำหนัก: ตัวผู้: 25 – 32 กก.  ตัวเมีย: 18 – 26 กก.
  • อายุขัย: 12 – 14 ปี
  • ความยาวขน: สั้น
  • ความฉลาด: ปานกลาง
  • ถิ่นกำเนิด: ประเทศสหรัฐอเมริกา 🇺🇸
  • ปริมาณการผลัดขน: ปานกลาง
  • ความต้องการการเอาใจใส่: สูง
  • ลักษณะเฉพาะ: หัวกะโหลกและปากใหญ่ กล้ามเนื้อเยอะ ดูแข็งแรงกำยำ อกกว้าง หางมีความเรียวแหลม ที่บริเวณอกมักจะมีสีขาว

ประวัติของอเมริกัน สแตฟฟอร์ดเชียร์ เทอเรียร์

มันมีต้นกำเนิดที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ในช่วงศตวรรษที่ 18 จนไปถึงศตวรรษที่ 19 กีฬาที่ใช้ความรุนแรงโดยการให้สัตว์ต่อสู้กันเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศอังกฤษ ซึ่งสุนัขที่นิยมนำมาใช้ในกีฬาชนิดนี้ นั่นก็คือสุนัขในตระกูลบูลด็อก (Bulldog) ในสมัยก่อนที่เต็มไปด้วยความดุร้าย และสุนัขในตระกูลเทอร์เรีย (Terrier) นั่นเอง ซึ่งชาวอังกฤษได้นำสุนัขจากสองตระกูลนี้มาผสมข้ามสายพันธุ์กัน จึงกลายออกมาเป็นสุนัขสายพันธุ์ใหม่ที่มีชื่อว่า สแตฟเฟอร์ดไชร์ บูล เทอร์เรียร์ Staffordshire Bull Terrier
 
ในช่วงกลางของศตวรรษที่ 19 ได้มีการส่งสุนัขพันธุ์ Staffordshire Bull Terrier ไปที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และชาวอเมริกันบางท่านก็ได้นำมันไปปรับปรุงสายพันธุ์จนมันมีขนาดตัวที่ใหญ่มากขึ้น และมีความเป็นมิตรที่มากขึ้น ซึ่งมันก็คือสุนัขพันธุ์ American Staffordshire Terrier นั่นเอง ซึ่งมันถือว่าเป็นคนละสายพันธุ์กันแล้วในปัจจุบัน ซึ่งมันก็ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากองค์กร American Kennel Club แล้ว แถมมันยังได้เป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์บางเรื่องของชาวอเมริกันอีกด้วย

ลักษณะนิสัยของอเมริกัน สแตฟฟอร์ดเชียร์ เทอเรียร์ 

มันเป็นสุนัขที่มีความอ่อนหวาน อ่อนโยน ใจดี น่ารัก และมีความเป็นมิตร สามารถอยู่ร่วมกันกับคนในบ้านและสุนัขตัวอื่นได้ดี มันยังมีความร่าเริง ซุกซน และขี้เล่นอยู่บ้าง แต่ว่าจะอยู่ในระดับที่กำลังพอดี ไม่มากเกินไปจนทำให้คุณปวดหัว แต่ว่ามันก็ยังคงเป็นสายพันธุ์สุนัขที่ต้องการการฝึกฝนและเลี้ยงดูอย่างถูกต้อง ซื้อต้องใช้ความรู้และประสบการณ์ในระดับนึง ถ้าเลี้ยงดูมันแบบผิดๆ มันก็อาจจะมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวได้

ความหลากหลายของสีสุนัข

สีตา

โดยทั่วไปมันจะมีตาโทนสีน้ำตาลดำ
 

สีขนและสีตัว

มันเป็นสุนัขที่มีสีขนให้เลือกหลากหลายแบบ เช่น สีดำล้วน, สีขาว – ดำ, สีน้ำเงินล้วน, สีน้ำตาลแกมเหลือง, สีน้ำตาลแกมเหลือง – ขาว, สีน้ำตาลแดงล้วน, สีน้ำตาลแดง – ขาว เป็นต้น สุนัขบางตัวจะมีสีเดียวทั้งตัว บางตัวจะมีมากกว่า 1 สีในตัว และบางตัวจะมีลายริ้วเหมือนลายเสือ (Brindle) อยู่ด้วย
 

ความเป็นมิตรของเจ้าตูบที่มีต่อเด็ก และสัตว์เลี้ยง

มันจะมีความอ่อนโยน เป็นมิตร และรักสมาชิกในครอบครัว รวมถึงเหล่าเด็กๆ ในบ้านด้วย ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นเพื่อนเล่นที่ดีมากสำหรับเด็กๆ แต่มันก็สามารถปกป้องเด็กๆ ภายในบ้านได้ปลอดภัยอยู่เสมอ นอกจากนี้ มันสามารถอยู่ร่วมกันกับสุนัขและสัตว์เลี้ยงตัวอื่นที่มันคุ้นเคยด้วยแล้วเช่นกัน แถมยังสามารถเล่นเป็นเพื่อนกับเพื่อนตัวอื่นได้อีกด้วย แต่ถ้ากับคนหรือสัตว์ตัวอื่นที่มันยังไม่คุ้นเคยด้วย มันก็มีแนวโน้มที่จะคอยระวัง และอาจจะก้าวร้าวกับผู้นั้น ซึ่งมันก็ต้องใช้เวลาสักระยะในการทำความคุ้นเคยกับผู้นั้นก่อน ถึงจะสามารถอยู่ร่วมกันได้แต่ทั้งนี้ มันก็ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูและฝึกสอนสุนัขด้วย หากเราฝึกสอนและเลี้ยงดูมันมาแบบผิดๆ มันก็อาจจะเป็นสุนัขที่มีความก้าวร้าวมากพอสมควร
อเมริกัน สแตฟฟอร์ดเชียร์ เทอเรียร์

การดูแลอเมริกัน สแตฟฟอร์ดเชียร์ เทอเรียร์  

การดูแลด้านการออกกำลังกาย

ถึงแม้ว่ามันจะพลังงานอยู่ในระดับปานกลาง มันจึงต้องการการออกกำลังกายเป็นประจำ คุณควรจะมีเวลาในการพาเจ้าตูบไปเดินเล่น วิ่งเล่นออกกำลังกายบ้าง หรือจะให้มันทำกิจกรรมต่างๆ ที่ได้ออกแรงกับสมาชิกในครอบครัวก็ได้ เช่น การเล่นลูกบอลกับมัน ประมาณ 30 นาทีต่อวัน หรือมากกว่านี้ เพื่อช่วยปลดปล่อยพลังงานที่มีในตัวสุนัข ซึ่งมีส่วนช่วยให้เจ้าตูบไม่เครียด หดหู่ และเก็บกด แถมยังมีส่วนช่วยให้เจ้าตูบมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และห่างไกลจากปัญหาสุขภาพบางอย่าง
 

การดูแลเรื่องการเข้าสังคมและการฝึกสอน

เราควรฝึกการเข้าสังคมให้มันเป็นประจำ ไม่ควรล่ามหรือกักบริเวณมันให้อยู่ในที่แคบๆ ตัวเดียวทั้งวัน เพราะมันอาจจะทำให้สุนัขเครียด เก็บกด เข้ากับผู้อื่นได้ไม่ดี อาจจะมีความก้าวร้าวได้ คุณควรพามันไปทำความรู้จัก และทำกิจกรรมร่วมกับสมาชิกในครอบครัวตั้งแต่ที่มันยังเป็นลูกสุนัข  เพื่อให้มันรู้สึกคุ้นเคยและรักพวกเขา รวมถึงให้มันไปเข้าสังคมกับคนแปลกหน้า สุนัขตัวอื่น และสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นตั้งแต่มันยังเป็นลูกสุนัขอยู่เสมอ เพื่อฝึกทักษะในการเข้าสังคมให้มัน มีส่วนช่วยให้มันสามารถเปิดใจและใช้ชีวิตกับผู้อื่นได้ดีขึ้นในอนาคต ส่วนเรื่องการฝึกสอนสุนัข มันอาจจะมีความดื้อรั้นบ้างในบางครั้ง จึงต้องใช้ความพยายามและเวลาในการสอนสิ่งต่างๆ ให้มัน
 

เรื่องการดูแลขนและความสะอาด

มันเป็นสุนัขที่มีขนสั้น การดูแลขนและความสะอาดให้มันจึงเป็นเรื่องง่าย แต่นำแปรงมาหวีขนให้มัน 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อกำจัดขนตายและสิ่งสกปรกที่ติดค้างอยู่ในตัวมันให้หมด รวมถึงมีการทำความสะอาดใบหน้า บริเวณรอบดวงตา ใบหู มีการตัดเล็บ แปรงฟัน และอาบน้ำให้สุนัขบ้าง ความถี่ก็ขึ้นอยู่กับความสกปรกมอมแมมของสุนัข โดยปกติเราควรอาบน้ำให้มันสักเดือนละครั้งหรือสองเดือนครั้ง แต่ถ้ามันชอบไปเล่นซุกซนจนตัวสกปรกก็สามารถอาบน้ำมันบ่อยกว่าปกติ
 

การดูแลเรื่องสุขภาพโดยรวม

อย่างที่เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าอากาศในประเทศไทยร้อนมากๆ โดยเฉพาะในหน้าร้อน เราจึงควรระวังเรื่องโรคลมแดดในสุนัขไว้บ้างก็ดี วิธีป้องกันเบื้องต้น คือ เราควรให้สุนัขอยู่ในที่ที่อากาศไม่ร้อน มีอากาศถ่ายเท ไม่อบอ้าว ไม่มีแดดส่องลงมาโดนสุนัขตรงๆ ไม่ให้สุนัขวิ่งเล่นเยอะเกินไปในช่วงกลางวัน มีน้ำดื่มให้มันมากพอ และเลือกช่วงเวลาที่มีแดดอ่อนในการพาสุนัขออกไปเล่นนอกบ้าน

คอยควบคุมรูปร่าง และน้ำหนักตัวของสุนัขให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานอยู่เสมอ เพื่อช่วยลดโอกาสการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคอ้วน (Obesity) ด้วยการพาเจ้าตูบไปวิ่งเล่นออกกำลังกายเป็นครั้งคราว อีกส่วนนึงคือการควบคุม เอาใจใส่คุณภาพและปริมาณอาหารของสุนัขให้ดี เลือกประเภทอาหารที่เหมาะสมกับตัวสุนัข จะเป็นการทานอาหารแบบบาร์ฟ อาหารปกติทั่วไป หรือจะเป็นอาหารแบบเม็ดหรือแบบเปียกสำหรับสุนัขก็ได้ ปริมาณอาหารของมันควรจะอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมกับขนาดตัวของมัน ไม่ให้มันทานมากจนเกินไป และควรหลีกเลี่ยงไม่ให้มันทานอาหารที่มีแคลอรี่สูงในปริมาณมาก เช่น ขนมสำหรับมนุษย์

โรคภัยต่างๆ ที่อาจพบใน American Staffordshire Terrier

  • โรคข้อศอกเสื่อม (Elbow dysplasia): ถึงแม้ว่าปัญหาสุขภาพนี้จะสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ แต่ว่าเราสามารถช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคนี้ให้เจ้าตูบได้ โดยการคอยควบคุมน้ำหนักตัวของมันให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของสายพันธุ์ ด้วยการพามันออกไปวิ่งเล่นออกกำลังกายบ้าง เพื่อเผาผลาญพลังงานส่วนเกิน เราควรคอยควบคุมให้ปริมาณอาหารของมันพอเหมาะกับขนาดตัว ไม่ให้มันทานมากเกินไปและหลีกเลี่ยงอาหารที่มีแคลอรี่สูง และถ้าเป็นไปได้ ไม่ควรให้สุนัขไปวิ่งเล่นบนพื้นที่ลื่นและมีความมันวาวอย่างพื้นหินอ่อน เพราะมันอาจจะลื่นล้มจนเป็นต้นตอของปัญหาข้อเสื่อม
  • ปัญหาเกี่ยวกับผิวหนัง (Skin Problem): มันมีแนวโน้มที่จะมีปัญหาสุขภาพต่างๆ เกี่ยวกับผิวหนัง การดูแลรักษาผิวของมันให้สะอาดและไม่อับชื้นจึงเป็นสิ่งที่ควรทำอยู่เสมอ
  • ปัญหาเกี่ยวกับผิวหนัง (Skin Problem): มันมีแนวโน้มที่จะมีปัญหาสุขภาพต่างๆ เกี่ยวกับผิวหนัง การดูแลรักษาผิวของมันให้สะอาดและไม่อับชื้นจะช่วยลดโอกาสที่มันจะพบเจอกับปัญหาผิวหนัง
 

นอกจากนี้ยังมีโอกาสในการเกิดโรคภัยอื่นๆ อีก เช่น

  • จอประสาทตาเสื่อม (Progressive Retinal Atrophy)
  • โรคหัดสุนัข (Canine Distemper)
  • โรคอ้วน (Obesity)
  • โรคลำไส้อักเสบ (Canine Parvo Virus)
  • โรคพยาธิหนอนหัวใจ (Heartworm)
  • โรคเบาหวาน (Diabetes)
  • ไตวาย (Kidney Failure)
  • โรคพิษสุนัขบ้า (Riabies)
  • โรคตับอักเสบ (Hepatitis)
  • ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานต่ำ (Hypothyroidism)
  • ต้อกระจก(Cataract): สามารถเกิดขึ้นได้ในสุนัขทุกช่วงอายุ

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับมัน

  • มันมีระดับพลังงาน และความซุกซนอยู่ในระดับที่ไม่มากเกินไป
  • มีความใจดี อ่อนโยนกับผู้คนภายในบ้าน
  • มันต้องการการเลี้ยงดูและฝึกฝนอย่างถูกต้อง
  • มันมีความหวงถิ่นของตนเอง

American Staffordshire Terrier เหมาะกับผู้ที่

  • ชอบสุนัขกลาง
  • ชอบสุนัขที่มีความอ่อนหวาน อ่อนโยน เป็นมิตร
  • มีเวลาอยู่ร่วมกับมัน และพามันไปออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • ชอบสุนัขที่เฝ้าบ้านได้
  • มีความรู้และประสบการณ์ในการเลี้ยงสุนัขในระดับหนึ่ง

คำถามที่พบบ่อย

  • เลี้ยงในหอพักได้ไหม: เราไม่ค่อยแนะนำให้เลี้ยงในหอพัก
  • เข้ากันกับเด็กได้ไหม: มันสามารถเข้ากันกับเด็กที่รู้จักการเล่นกับสุนัขอย่างถูกวิธีได้
  • เฝ้าบ้านได้ไหม: เฝ้าบ้านได้ดี
  • ดุไหม: ถ้าเลี้ยงดูและฝึกสอนมันแบบผิดๆ มันอาจจะมีความดุ
  • เหมาะกับผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ไหม: ไม่ได้เป็นสุนัขที่เหมาะกับคนเป็นภูมิแพ้มากนัก

เรื่องเจ้าตูบที่คุณอาจจะชอบ

 Banner Image