หนูตะเภาอเมริกัน (American Guinea Pig) มันเป็นหนูตะเภาสายพันธุ์ยอดนิยมที่มีขนสั้นเรียบเงางาม จึงทำให้ผู้คนทั่วโลกตกหลุมรักในตัวมัน หนึ่งในนั้นเป็นคุณด้วยใช่ไหมล่ะ? มาทำความรู้จักกับน้องให้มากขึ้นกัน
ข้อมูลทั่วไปของหนูตะเภาอเมริกัน
- น้ำหนัก: 0.7 – 1.2 กก.
- อายุขัย: 5 – 8 ปี
- ความยาวขน: สั้น
- ถิ่นกำเนิด: ทวีปอเมริกาใต้
- ลักษณะเฉพาะ: ตัวกลมยาวดูละม้ายคล้ายกับมันฝรั่ง ใบหูมีความโค้งมน ขนสั้นเรียบสวยงาม
ประวัติของหนูตะเภาอเมริกัน
มันเป็นหนึ่งในหนูตะเภาสายพันธุ์เก่าแก่ที่กำเนิดขึ้นมาบนโลกนี้มาเป็นเวลานานมากแล้ว ซึ่งมีการค้นพบมันที่เทือกเขาแอนดีส (Andes) ในทวีปอเมริกาใต้ตั้งแต่เมื่อ 5,000 ถึง 7,000 ปีก่อน ในช่วงปี ค.ศ. 1900 มันถูกส่งตัวไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาและเริ่มเป็นที่รู้จักกัน จนมาถึงในยุคปัจจุบัน มันก็ยังคงเป็นสายพันธุ์หนูตะเภาที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในโลก และมันเป็นหนูแกสบี้ที่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากองค์กร American Cavy Breeders Association (ACBA) แล้ว
ลักษณะนิสัยของหนูตะเภาอเมริกัน
มันเป็นหนูตะเภาที่มีความง่ายๆ สบายๆ เป็นมิตร อ่อนโยน ชอบเข้าสังคม มันสามารถเข้ากันได้ดีกับผู้คนและหนูตัวอื่นๆ มันชอบการอยู่ร่วมกับผู้อื่น ดังนั้น เจ้าของควรแวะมาทำกิจกรรมร่วมกับมันบ้าง และควรมีเพื่อนหนูตัวอื่นมาอยู่เป็นเพื่อนกับมัน แต่ถ้าเป็นหนูเพศเดียวกันในวัยเจริญพันธุ์ โดยเฉพาะเพศผู้ ก็อาจจะมีการทะเลาะเบาะแว้งบ้างนิดหน่อย แต่ทั้งนี้ นิสัยของหนูแต่ละตัวก็สามารถแตกต่างไปจากนี้บ้าง
ความหลากหลายของสีหนูตะเภา
สีขน
มันเป็นหนูที่มีสีขนหลากหลายแบบให้เลือกมากๆ ไม่ว่าจะเป็นสีดำ, ช็อกโกแลต, น้ำตาล, ครีม, ขาว-ตาแดง, ส้ม, น้ำตาลแดง, ลาเวนเดอร์, เงิน, และอื่นๆ หนูบางตัวจะมีสีเดียวทั้งตัว บางตัวจะมี 2-3 สีในตัว
การดูแลหนูตะเภาอเมริกัน
การดูแลด้านอาหารการกิน
อาหารหลักของหนูตะเภาอเมริกันควรเป็นหญ้าแห้งชนิดต่างๆ ซึ่งเราแนะนำให้เป็นหญ้าแห้งทิโมธี สัดส่วนของหญ้าแห้งจะอยู่ที่ 85 – 90% ของปริมาณอาหารทั้งหมด ส่วนอาหารเม็ดเราควรให้น้องทานในสัดส่วนที่น้อยเพื่อเสริมสารอาหารให้น้องเท่านั้น และเราควรเสริมอาหารสดชนิดต่างๆ ให้มันบ้างเป็นครั้งคราว เพื่อเสริมสารอาหารให้มันบ้างและทำให้มันไม่เบื่ออาหารมากจนเกินไป สามารถให้ผักผลไม้ชนิดต่างๆ ราวๆ 10% ของปริมาณอาหารทั้งหมด เพื่อเสริมวิตามิน เช่น ผักโขม, บรอกโคลี, ผักชีฝรั่ง, แครอท, หน่อไม้ฝรั่ง, แอปเปิ้ล (เอาเมล็ดออกแล้ว), กีวี, เบอร์รี่ มะละกอ และอื่นๆ แต่ทั้งนี้ ผลไม้ควรให้แต่น้อยเนื่องจากว่ามีปริมาณน้ำตาลสูง ถ้าน้องทานอาหารสดไม่หมดภายใน 24 ชั่วโมงก็ควรนำออกมาเปลี่ยนได้แล้ว ไม่ควรให้น้องทานอาหารที่ค้างคืนเหล่านี้เพื่อสุขภาพของตัวน้องเอง แต่ก็มีอาหารบางชนิดที่เป็นอันตรายกับน้อง ดังนั้น ผู้เลี้ยงจึงต้องศึกษาเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ
การดูแลขนและความสะอาด
ถึงแม้ว่าน้องจะสามารถทำความสะอาดตัวเองได้อยู่แล้ว แต่ถ้าหากน้องสกปรกมากจริงๆ เราก็ควรช่วยน้องทำความสะอาดตัวบ้าง ด้วยการนำผ้าขนหนูสะอาดมาชุบน้ำหมาดๆ แล้วนำมาเช็ดตัวให้น้องอย่างเบามือ รวมถึงมีการตัดเล็บให้น้องบ้าง เพราะถ้าเราไม่ตัดเล็บให้น้อง น้องอาจจะมีปัญหาในการเดินได้
ขนที่สั้นและเรียบของน้องนั้นดูแลง่ายมากๆ เพียงแค่นำแปรงมาหวีขนให้น้องอย่างเบามือ ประมาณสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็เพียงพอแล้ว เพื่อกำจัดขนตายและสิ่งสกปรกที่ติดค้างอยู่ในตัวน้องออกมาให้หมด แถมการหวีขนยังมีส่วนช่วยในการลดโอกาสที่น้องจะเลียขนตายเหล่านี้เข้าไปจนอุดตันในทางเดินอาหารอีกด้วย
การดูแลเรื่องที่อยู่อาศัย
เราแนะนำว่ากรงที่จะให้หนูตะเภาอยู่ควรมีความยาวประมาณ 100 ซม. หรือมากกว่านี้ กรงที่มีขนาดใหญ่จะส่งผลดีต่อตัวน้อง จึงควรเลือกกรงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่พื้นที่ในบ้านของคุณจะรองรับได้ ที่ตั้งของกรงของน้องนั้นต้องมีอากาศถ่ายเท ไม่มีแดดแรงส่อง ไม่ร้อน ไม่อบอ้าว และไม่อับชื้น ผู้เลี้ยงต้องคอยดูแลรักษาความสะอาดของกรงอยู่เสมอ เราควรมีที่แอบให้น้องอยู่อาศัย เช่น บ้านไม้ หรืออุโมงค์ เพื่อให้น้องรู้สึกปลอดภัย เราแนะนำให้ใช้ขวดน้ำสำหรับหนูแทนจานน้ำ มันจะช่วยให้น้ำไม่หกเลอะเทอะไปทั่วกรงจนอับชื้นไปหมด และเนื่องจากว่าหนูแกสบี้เป็นสัตว์สังคมโดยธรรมชาติอยู่แล้ว เราแนะนำให้มีเพื่อนหนูแกสบี้อีกตัวมาอยู่เป็นเพื่อนน้อง
การออกกำลังกาย
หนูตะเภาก็ต้องการการออกกำลังกายเหมือนกับสัตว์หลายๆ ชนิดเหมือนกันนะ ถ้าหากว่าเจ้าหนูไม่ได้รับการออกกำลังกายมากพอ มันอาจจะทำให้หนูตะเภาน้ำหนักเกิน และอาจจะมีปัญหาสุขภาพบางอย่างตามมาในภายหลัง เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงของน้อง คุณจึงควรมีกรงขนาดใหญ่มากพอที่จะให้น้องวิ่งเล่นไปมาได้บ้าง มีถ้ำหนูให้น้องมุดสำรวจ และอาจจะเอาน้องออกมาเล่นในพื้นที่ปลอดภัยข้างนอกกรงบ้างก็ได้ และอย่าลืมที่จะนำของแทะเข้าไปข้างในให้มัน เช่น ของเล่นไม้ ไม้แทะจากธรรมชาติชนิดต่างๆ ลูกวอลนัท และอื่นๆ เพื่อให้น้องแทะเล่นในกรง ซึ่งมีส่วนช่วยลดโอกาสที่ฟันของน้องจะเติบโตและยาวผิดปกติจนเป็นปัญหาในภายหลัง
การฝึกสอน
การที่หนูตะเภาพยายามหลบหนีและตีตัวออกห่างจากคุณเมื่อพบกันครั้งแรกนั้นเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เนื่องจากว่าน้องยังไม่คุ้นเคยกับคุณและสภาพแวดล้อมรอบตัวของมัน ผู้เลี้ยงจึงต้องให้น้องทำความคุ้นเคยกับที่อยู่ใหม่ของมันสักระยะก่อน แล้วจึงค่อยทำให้น้องคุ้นเคยกับคุณ โดยการนำอาหารวางไว้บนฝ่ามือเพื่อให้น้องเข้าหาคุณและผูกพันกับคุณ การมาให้น้องพบเห็นหน้าบ่อยๆ ก็มีส่วนช่วยเหมือนกันนะ
ปัญหาสุขภาพที่อาจพบใน American Guinea Pig
- ฟันยาวผิดปกติ (Overgrown Teeth): ฟันของหนูตะเภาอเมริกันนั้นจะเติบโตขึ้นตลอด ถ้าหากว่ามันไม่ได้ใช้ฟันกัดแทะสิ่งต่างๆ มากพอ มันอาจจะส่งผลให้ฟันของมันยาวกว่าปกติจนเป็นปัญหาสุขภาพ เราจึงควรมีไม้แทะให้มันแทะเล่นในกรง
- โรคขาดวิตามิน C (Vitamin C deficiency): สาเหตุเกิดจากการที่หนูขาดวิตามินซี เนื่องจากว่าน้องไม่สามารถผลิตวิตามิน C จากร่างกายตัวเองได้เหมือนสัตว์หลายๆ ชนิด และถ้าหากน้องได้รับวิตามินซีจากอาหารไม่เพียงพอ มันอาจจะทำให้เกิดอาการเลือดออกตามไรฟัน ผิวหนังและขนหยาบกร้าน อาหารไม่ย่อย และข้อบวม น้องต้องการปริมาณวิตามินซีราวๆ 10 – 50 มิลลิกรัมต่อวัน จึงนั้นจึงควรเสริมอาหารเม็ดและอาหารสดที่มีวิตามิน C ให้น้อง หรือจะให้อาหารเสริมวิตามิน C สำหรับหนูตะเภาโดยเฉพาะก็ได้
- ท้องเสีย (Diarrhea): ท้องเสียสามารถเกิดจากหลายๆ ปัจจัย เช่น สุขอนามัยที่ไม่ดี ความเครียด ติดเชื้อแบคทีเรีย และอื่นๆ สาเหตุอีกส่วนหนึ่งมาจากความไม่สมดุลของอาหาร เช่น คาร์โบไฮเดรตมากไป ไฟเบอร์ไม่เพียงพอ ปริมาณผลไม้มากไป และอื่นๆ จึงควรใส่ใจเรื่องการจัดความสมดุลให้เหมาะกับน้อง เพื่อลดโอกาสที่น้องจะท้องเสีย
- โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ (Respiratory diseases): ปัญหาเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ถ้าไม่ได้รับการรักษาให้ทันท่วงที มันอาจจะนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพอื่นๆ เช่น ปวดบวม ปัจจัยที่ทำให้เจ้าหนูมีโอกาสเป็นโรคนี้มากขึ้น คือความแออัดของที่ที่มันอยู่อาศัย ความเครียด อากาศไม่ถ่ายเท อุณหภูมิหนาวเย็นเกินไป และความอับชื้นสูง อาการที่สามารถสังเกตได้คือ หนูจะมีน้ำตาและน้ำมูกไหล เซื่องซึม เบื่ออาหาร หายใจติดขัด และต่อมน้ำเหลืองโต
- กลาก (Ringworm): เกิดจากการที่เจ้าหนูตะเภาติดเชื้อรา อาการที่สามารถสังเกตได้ คือ หนูจะขนร่วงบางส่วน และมีสะเก็ดสีขาวแดงที่บริเวณนั้น ซึ่งมันสามารถแพร่เชื้อไปยังหนูตัวอื่นและมนุษย์ได้ จึงอย่าลืมที่จะแยกหนูออกจากกันและสวมถุงมือเวลาจับมันและพาไปพบสัตวแพทย์
หนูตะเภาของคุณอาจจะพบเจอกับปัญหาสุขภาพเหล่านี้ได้ ผู้เลี้ยงจึงต้องคอยดูแลเรื่องอาหารการกิน สภาพความเป็นอยู่ และความสะอาดให้มัน เพื่อลดโอกาสที่มันจะมีปัญหาสุขภาพบางอย่าง รวมถึงคอยสังเกตและไม่ละเลยอาการผิดปกติต่างๆ ที่แสดงออกมา
American Guinea Pig เหมาะกับผู้ที่
- มีความใจเย็นในการฝึกสอนและเข้าหามัน
- ชอบหนูตะเภาที่ขนสั้น ดูแลง่าย
- เป็นมือใหม่ในการเลี้ยงหนูแกสบี้
- ไม่เลี้ยงสัตว์แบบทิ้งขว้าง
- มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับอาหารที่น้องทานไม่ได้
- มีเพื่อนหนูตะเภาอีกตัวมาอยู่ร่วมกับมัน
- มีเวลามาอยู่ร่วมกัน และมีปฏิสัมพันธ์ด้วยกันบ้าง
คำถามที่พบบ่อย
- ต้องดูแลเยอะไหม: มีหลายปัจจัยที่ต้องคอยควบคุมดูแลอยู่เสมอ เช่น เรื่องสุขภาพ อุณหภูมิ ความสะอาดของกรง ความเป็นอยู่ และอาหารการกินของน้อง
- น้องเข้ากันกับเด็กๆ ได้ดีไหม: น้องเข้ากันกับเด็กๆ ที่รู้จักการเล่นกับสัตว์ตัวเล็กอย่างเบามือ และไม่รบกวนมันมากเกินไป
- น้องชอบให้อุ้ม และลูบจับไหม: แล้วแต่นิสัยของหนูแต่ละตัว บางตัวชอบอุ้มให้จับ แต่บางตัวอาจจะไม่ค่อยชอบให้จับตัวมันมากมายนัก
เรื่องเพื่อนตัวจิ๋วที่คุณอาจจะชอบ
อ่านเรื่องไหนต่อดี
อาหารแมวเกรด Holistic ยี่ห้อไหนดีและมีคุณภาพ ปี 2023
9 เตียงสุนัข ที่นอนสุนัข แบบไหนดีและคนชอบใช้บ้าง ปี 2023
อาหารแมวโรคนิ่ว & ลดความเสี่ยงการเกิดนิ่วในแมว ยี่ห้อไหนดี ปี 2023
10 อาหารเปียกแมว ยี่ห้อไหนดีและทาสแมวนิยมใช้ ปี 2023
ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ (Labrador Retriever) ข้อมูล นิสัยและการดูแลสุนัขแสนรู้
เครนเทอร์เรีย (Cairn Terrier) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลสุนัข
12 สายพันธุ์สุนัขอายุยืน ที่จะคอยอยู่เคียงข้างคุณไปนานๆ
บันไดสุนัข แบบไหนดี ที่ช่วยปกป้องข้อเข่าของเจ้าตูบ ปี 2023