หนูตะเภาอะบิสซิเนียน (Abyssinian Guinea Pig) ลักษณะนิสัยและการดูแล

Abyssinian Guinea Pig
แชร์ได้เลยที่ปุ่มด้านล่าง

หนูตะเภาอะบิสซิเนียน (Abyssinian Guinea Pig) มันเป็นหนูตะเภาที่มีจุดเด่นตรงที่มีขวัญถึง 8 ที่บนตัวของน้อง ทำให้ขนของน้องดูมีเสน่ห์มากๆ มาทำความรู้จักกับน้องให้มากขึ้นกัน

ข้อมูลทั่วไปของหนูตะเภาอะบิสซิเนียน

  • น้ำหนัก: 0.8 – 1.4 กก.
  • อายุขัย: 5 – 7 ปี
  • ความยาวขน: ปานกลาง
  • ถิ่นกำเนิด: ทวีปอเมริกาใต้
  • ลักษณะเฉพาะ: ลำตัวยาว หัวกว้างและสั้น ขนของน้องจะไม่เรียบเป็นแนวเดียวตลอดทั้งตัว จะมีจุดที่มีขนวนรอบๆ เหมือนขวัญบนหัวของพวกเรา จุดวนนี้คนต่างประเทศจะเรียกกันว่า “Rosette” ซึ่งแปลได้ว่าดอกกุหลาบ ซึ่งหนูตะเภาสายพันธุ์นี้จะมีขวัญดังกล่าว 6-10 จุด มันทำให้ขนบนตัวของมันดูยุ่งเหยิงและดูมีเสน่ห์

ประวัติของหนูตะเภาอะบิสซิเนียน

หนูตะเภาอะบิสซิเนียนเป็นหนูสายพันธุ์เก่าแก่ที่เชื่อกันว่ามันมีต้นกำเนิดบริเวณเทือกเขาแอนดีส (Andes) ที่ตั้งอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ มันเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมของคนรักสัตว์ในช่วงศตวรรษที่ 16 ซึ่งมันได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากองค์กร American Cavy Breeders Association (ACBA) เรียบร้อยแล้ว ในปัจจุบัน มันเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์หนูตะเภาที่เป็นที่นิยมอย่างมากในต่างประเทศ

ลักษณะนิสัยของหนูตะเภาอะบิสซิเนียน

หนูตะเภาสายพันธุ์นี้ชอบที่จะส่งเสียงร้องเป็นอย่างมาก มันมีความอ่อนหวาน อ่อนโยน และมีความเป็นมิตรสูง มันชอบการเข้าสังคมกับเหล่าคนที่มันรักและหนูตัวอื่นๆ คุณจึงควรมีเวลามาอยู่ร่วมกับมันบ้าง หรือจะมีเพื่อนหนูตะเภาตัวอื่นมาอยู่ร่วมกับมันเพื่อคลายเหงาก็ได้ นอกจากนี้ มันยังเป็นหนูตะเภาที่มีความฉลาดพอสมควร สามารถจดจำสิ่งต่างๆ ที่คุณฝึกมันได้ค่อนข้างรวดเร็ว

ความหลากหลายของสีหนูตะเภา

สีขน

มันเป็นหนูที่มีสีขนให้เลือกไม่มากนัก เช่น สีดำ-ขาว, สีขาว-ส้ม-ดำ, ส้ม-ดำ, ขาวล้วน, น้ำตาล, และอื่นๆ
Abyssinian Guinea Pig

การดูแลหนูตะเภาอะบิสซิเนียน

การดูแลด้านอาหารการกิน

อาหารหลักของหนูตะเภาอะบิสซิเนียนควรเป็นหญ้าแห้งชนิดต่างๆ ซึ่งเราแนะนำให้เป็นหญ้าแห้งทิโมธี สัดส่วนของหญ้าแห้งจะอยู่ที่ 85 – 90% ของปริมาณอาหารทั้งหมด ส่วนอาหารเม็ดเราควรให้หนูแกสบี้ทานเพื่อเสริมสารอาหารให้น้องเท่านั้น และเราควรเสริมอาหารสดชนิดต่างๆ ให้มันบ้างเป็นครั้งคราว เพื่อเสริมสารอาหารให้มันบ้างและทำให้มันไม่เบื่ออาหารมากจนเกินไป สามารถให้ผักผลไม้ชนิดต่างๆ ราวๆ 10% ของปริมาณอาหารทั้งหมด เพื่อเสริมวิตามิน เช่น ผักโขม, บรอคโคลี, ผักชีฝรั่ง, แครอท, หน่อไม้ฝรั่ง, แอปเปิ้ล (เอาเมล็ดออกแล้ว), กีวี, เบอร์รี่ มะละกอ และอื่นๆ แต่ทั้งนี้ ผลไม้ควรให้แต่น้อยเนื่องจากว่ามีปริมาณน้ำตาลสูง ถ้าน้องทานอาหารสดไม่หมดภายใน 24 ชั่วโมงก็ควรนำออกมาทิ้งได้แล้ว ไม่ควรให้น้องทานอาหารที่ค้างคืนเหล่านี้เพื่อสุขภาพของตัวน้องเอง แต่ทั้งนี้ มีผักผลไม้บางชนิดที่หนูตะเภาทานไม่ได้ ผู้เลี้ยงจึงต้องศึกษาเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่แรก

การดูแลขนและความสะอาด

ถึงแม้ว่าหนูแกสบี้จะสามารถทำความสะอาดตัวเองได้อยู่แล้ว แต่ถ้าหากน้องสกปรกมากจริงๆ เราก็ควรช่วยน้องทำความสะอาดตัวบ้าง ด้วยการนำผ้าขนหนูสะอาดมาชุบน้ำหมาดๆ แล้วนำมาเช็ดตัวให้น้องอย่างเบามือ รวมถึงมีการตัดเล็บให้น้องบ้าง เพราะถ้าเราไม่ตัดเล็บให้น้อง น้องอาจจะมีปัญหาในการเดินได้
 
ผู้เลี้ยงยังต้องใส่ใจเรื่องการดูแลขนให้น้องบ้าง ด้วยการนำแปรงมาหวีขนให้น้อง ประมาณสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็เพียงพอแล้ว เพื่อกำจัดขนตายที่ติดค้างอยู่ในตัวน้องออกมาให้หมด แถมการหวีขนยังมีส่วนช่วยในการลดโอกาสที่น้องจะเลียขนตายเหล่านี้เข้าไปจนอุดตันในทางเดินอาหารอีกด้วย
 

การดูแลเรื่องที่อยู่อาศัย

เราแนะนำว่ากรงที่จะให้หนูตะเภาอยู่ควรมีความยาวประมาณ 100 ซม. หรือมากกว่านี้ กรงที่มีขนาดใหญ่จะส่งผลดีต่อตัวน้องเอง จึงควรเลือกกรงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่คุณจะรับไหว ที่ตั้งของกรงของน้องนั้นต้องมีอากาศถ่ายเท ไม่มีแดดแรงส่อง ไม่ร้อน ไม่อบอ้าว และไม่อับชื้น ผู้เลี้ยงต้องคอยดูแลรักษาความสะอาดของกรงอยู่เสมอ เราควรมีที่แอบให้น้องอยู่อาศัย เช่น บ้านไม้ หรืออุโมงค์ เพื่อให้น้องรู้สึกปลอดภัย เราแนะนำให้ใช้ขวดน้ำสำหรับหนูแทนจานน้ำ มันจะช่วยให้น้ำไม่หกเลอะเทอะไปทั่วกรงจนอับชื้นไปหมด
 

การออกกำลังกาย

หนูตะเภาก็ต้องการการออกกำลังกายเหมือนกับสัตว์หลายๆ ชนิดเหมือนกันนะ ถ้าหากว่าเจ้าหนูไม่ได้รับการออกกำลังกายมากพอ มันอาจจะทำให้หนูตะเภาน้ำหนักเกิน และอาจจะมีปัญหาสุขภาพบางอย่างตามมาในภายหลัง เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงของน้อง คุณจึงควรมีกรงขนาดใหญ่มากพอที่จะให้น้องวิ่งเล่นไปมา มีถ้ำหนูให้น้องมุดสำรวจ และอาจจะเอาน้องออกมาเล่นในพื้นที่ปลอดภัยข้างนอกกรงบ้างก็ได้ และอย่าลืมที่จะนำของแทะเข้าไปข้างในให้มัน เช่น ของเล่นไม้ ไม้แทะจากธรรมชาติชนิดต่างๆ ลูกวอลนัท และอื่นๆ เพื่อให้น้องแทะเล่นในกรง ซึ่งมีส่วนช่วยลดโอกาสที่ฟันของน้องจะเติบโตและยาวผิดปกติจนเป็นปัญหาในภายหลัง

การฝึกสอน

การที่หนูแกสบี้พยายามหลบหนีและตีตัวออกห่างจากคุณเมื่อพบกันครั้งแรกนั้นเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เนื่องจากว่าน้องยังไม่คุ้นเคยกับคุณและสภาพแวดล้อมรอบตัวของมัน ผู้เลี้ยงจึงต้องให้น้องทำความคุ้นเคยกับที่อยู่ใหม่ของมันสักระยะ แล้วจึงค่อยทำให้น้องคุ้นเคยกับคุณ โดยการนำอาหารวางไว้บนฝ่ามือเพื่อให้น้องเข้าหาคุณและผูกพันกับคุณ การมาให้น้องพบเห็นหน้าบ่อยๆ ก็มีส่วนช่วยเหมือนกันนะ
 

ปัญหาสุขภาพที่อาจพบใน Abyssinian Guinea Pig

  • ฟันยาวผิดปกติ (Overgrown Teeth): ฟันของหนูตะเภาอะบิสซิเนียนนั้นจะเติบโตขึ้นตลอด ถ้าหากว่ามันไม่ได้ใช้ฟันกัดแทะสิ่งต่างๆ มากพอ มันอาจจะส่งผลให้ฟันของมันยาวกว่าปกติจนเป็นปัญหาสุขภาพ เราจึงควรมีไม้แทะให้มันแทะเล่นในกรง
  • โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ (Respiratory diseases): ปัญหาเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ถ้าไม่ได้รับการรักษาให้ทันท่วงที มันอาจจะนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพอื่นๆ เช่น ปวดบวม ปัจจัยที่ทำให้เจ้าหนูมีโอกาสเป็นโรคนี้มากขึ้น คือความแออัดของที่ที่มันอยู่อาศัย ความเครียด อากาศไม่ถ่ายเท อุณหภูมิหนาวเย็นเกินไป และความอับชื้นสูง  อาการที่สามารถสังเกตได้คือ หนูจะมีน้ำตาและน้ำมูกไหล เซื่องซึม เบื่ออาหาร หายใจติดขัด และต่อมน้ำเหลืองโต
  • กลาก (Ringworm): เกิดจากการที่เจ้าหนูตะเภาติดเชื้อรา อาการที่สามารถสังเกตได้ คือ หนูจะขนร่วงบางส่วน และมีสะเก็ดสีขาวแดงที่บริเวณนั้น ซึ่งมันสามารถแพร่เชื้อไปยังหนูตัวอื่นและมนุษย์ได้ จึงอย่าลืมที่จะแยกหนูออกจากกันและสวมถุงมือเวลาจับมันและพาไปพบสัตวแพทย์
  • โรคขาดวิตามิน C (Vitamin C deficiency): สาเหตุเกิดจากการที่หนูขาดวิตามินซี เนื่องจากว่าหนูแกสบี้ไม่สามารถผลิตวิตามิน C จากร่างกายตัวเองได้เหมือนสัตว์หลายๆ ชนิด และถ้าหากน้องได้รับวิตามินซีจากอาหารไม่เพียงพอ มันอาจจะทำให้เกิดอาการเลือดออกตามไรฟัน ผิวหนังและขนหยาบกร้าน อาหารไม่ย่อย และข้อบวม น้องต้องการปริมาณวิตามินซีราวๆ 10 – 50 มิลลิกรัมต่อวัน จึงนั้นจึงควรเสริมอาหารเม็ดและอาหารสดที่มีวิตามิน C ให้น้อง หรือจะให้อาหารเสริมวิตามิน C สำหรับหนูตะเภาโดยเฉพาะก็ได้
  • ท้องเสีย (Diarrhea): ท้องเสียสามารถเกิดจากหลายๆ ปัจจัย เช่น สุขอนามัยที่ไม่ดี ความเครียด ติดเชื้อแบคทีเรีย และอื่นๆ สาเหตุอีกส่วนหนึ่งมาจากความไม่สมดุลของอาหาร เช่น คาร์โบไฮเดรตมากไป ไฟเบอร์ไม่เพียงพอ ปริมาณผลไม้มากไป และอื่นๆ จึงควรใส่ใจเรื่องการจัดความสมดุลให้เหมาะกับน้อง เพื่อลดโอกาสที่น้องจะท้องเสีย

หนูตะเภาของคุณอาจจะพบเจอกับปัญหาสุขภาพเหล่านี้ได้ ผู้เลี้ยงจึงต้องคอยดูแลเรื่องอาหารการกิน สภาพความเป็นอยู่ และความสะอาดให้มัน เพื่อลดโอกาสที่มันจะมีปัญหาสุขภาพบางอย่าง รวมถึงคอยสังเกตและไม่ละเลยอาการผิดปกติต่างๆ ที่แสดงออกมา

Abyssinian Guinea Pig เหมาะกับผู้ที่

  • มีความใจเย็นในการฝึกสอนและเข้าหามัน
  • มีความเบามือ ไม่รุนแรงกับสัตว์เลี้ยง
  • เป็นมือใหม่ในการเลี้ยงหนูตะเภา
  • มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับอาหารที่น้องทานไม่ได้
  • มีเพื่อนหนูตะเภาอีกตัวมาอยู่ร่วมกับมัน
  • ชอบหนูตะเภาที่แนวขนดูแปลกตา
  • ชอบหนูที่อ่อนหวาน และเป็นมิตร

คำถามที่พบบ่อย

  • มันชอบให้อุ้ม และลูบจับไหม: แล้วแต่นิสัยของแต่ละตัว บางตัวให้จับตามปกติ แต่บางตัวอาจจะไม่ค่อยชอบให้จับตัวมันมากมายนัก
  • ต้องดูแลเยอะไหม: มีหลายปัจจัยที่ต้องคอยควบคุมดูแลอยู่เสมอ เช่น เรื่องอุณหภูมิ ความสะอาดของกรง ความเป็นอยู่ การดูแลขน และอาหารการกินของน้อง
  • น้องเป็นมิตรไหม: น้องมักจะเป็นมิตรกับคนที่คุ้นเคยด้วยแล้วมากๆ

เรื่องเพื่อนตัวจิ๋วที่คุณอาจจะชอบ

 Banner Image