แอฟเฟนพินเชอร์ (Affenpinscher) ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลสุนัข

แชร์ได้เลยที่ปุ่มด้านล่าง

แอฟเฟนพินเชอร์ (Affenpinscher) เป็นสายพันธุ์สุนัขจากเยอรมนี ที่มีหน้าตาละม้ายคล้ายกับลิง จนคนตั้งชื่อให้มันอีกชื่อว่า Monkey Terrier มันจะมีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง สามารถมาหาคำตอบกันในบทความนี้

เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจได้เลย

ข้อมูลทั่วไป
ประวัติ
ลักษณะนิสัย
ความหลากหลายและสีตัวสุนัข
ความเป็นมิตรต่อเด็ก และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ
การดูแล
โรคภัยต่างๆ ที่อาจพบ
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับสุนัขสายพันธุ์นี้
แอฟเฟนพินเชอร์ เหมาะกับผู้ที่
คำถามที่เจอบ่อย

ข้อมูลทั่วไปของแอฟเฟนพินเชอร์

ขนาดตัว: เล็กมาก
ความสูง: 23 – 30 ซม. วัดจากไหล่
น้ำหนัก: 3 – 6 กก.
อายุขัย: 12 – 14 ปี
ความยาวขน: ค่อนข้างยาว
ความฉลาด: ปานกลาง
ถิ่นกำเนิด: ประเทศเยอรมนี 🇩🇪
ปริมาณการผลัดขน: น้อย
การเอาใจใส่ตัวสุนัข: ปานกลาง
ลักษณะเฉพาะ: ขนยาวหยิก ดวงตากลมโต ดูเหมือนว่าหน้าบึ้งอยู่ตลอดเวลา หน้าตามีความคล้ายกับลิงมาก ขนบริเวณปากและใบหน้าเยอะ

ประวัติของแอฟเฟนพินเชอร์

Affenpinscher หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า Monkey Terrier มีต้นกำเนิดในช่วงศตวรรษที่ 17 ในประเทศเยอรมนี ในช่วงเวลานั้นมันเป็นสุนัขที่มีขยาดใหญ่กว่าในปัจจุบัน โดยชาวเยอรมันในยุคสมัยนั้นใช้มันเป็นสุนัขสำหรับล่าหนูและสัตว์รบกวนอื่นๆ ในคอกม้า ฟาร์ม และร้านค้าต่างๆ และยังใช้มันเป็นสัตว์เลี้ยงในครัวเรือนอีกด้วย

ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านเชื่อว่ามันได้รับการพัฒนาสายพันธุ์โดยการผสมมันข้ามสายพันธุ์กับสุนัขพันธุ์ Pug และ German Pinschers จนทำให้มันมีขนาดตัวที่เล็กลง ซึ่งเหมาะสำหรับการนำมาเลี้ยงในบ้านมากขึ้น ซึ่งในภายหลังมันก็ถูกส่งตัวไปยังประเทศต่างๆ ทาง American Kennel Club รู้จักสุนัขสายพันธุ์นี้เป็นครั้งแรกในปี ค.ศ.1936 ในปัจจุบัน มันเป็นสุนัขที่หาค่อนข้างยาก เนื่องจากว่ามันไม่ค่อยเป็นที่นิยมเลี้ยงและเพาะพันธุ์มากนัก

ลักษณะนิสัยของแอฟเฟนพินเชอร์

มันเป็นสุนัขที่มีความรักให้กับครอบครัว รวมถึงเหล่าสมาชิกในบ้านที่มันคุ้นเคยด้วย มันชอบใช้เวลาอยู่ร่วมกับพวกเขา และจะคอยปกป้องพวกเขาให้ปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา มันยังเป็นสุนัขที่มีความกล้าหาญเกินขนาดตัว ไม่กลัวการที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตที่ตัวใหญ่กว่า และมันยังมีความซุกซน และความดื้อรั้นอยู่เล็กน้อย

มันเป็นสุนัขที่มีความหวงอาณาเขตของตน เมื่อมันพบเจอคนแปลกหน้าที่พยายามจะรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ของมัน มันก็จะเห่าเพื่อแจ้งให้เจ้าของมันได้รับทราบ แต่มันจะไม่เห่าพร่ำเพรื่อในเวลาที่ไม่จำเป็น

ความหลากหลายของสีสุนัข

สีตา

มันเป็นสุนัขที่มีตาโทนสีดำ และสีน้ำตาล

สีขน

มันเป็นสุนัขที่มีสีขนหลากหลายสีให้เลือก โดยสีมาตรฐานที่ถูกจัดโดย AKC จะมีอยู่ 5 สี นั่นคือ

สีดำล้วน (Black)
สีดำ-สีแทน (Black-Tan)
ดำสี-สีเงิน (Black-Silver)
สีน้ำตาลแดง (Red)
สีน้ำตาลอ่อน (Beige)

ความเป็นมิตรของเจ้าตูบที่มีต่อเด็ก และสัตว์เลี้ยง

มันเป็นสุนัขที่มีความเป็นมิตรกับผู้คนในครอบครัว รวมถึงเหล่าเด็กๆ ภายในบ้านด้วย สามารถอยู่ร่วมกับเด็กๆ ที่มันคุ้นเคยด้วยได้ดี และเนื่องจากว่ามันเป็นสุนัขที่มีความซุกซน ขี้เล่นบ้างเป็นบางเวลา จึงสามารถเล่นเป็นเพื่อนเด็กๆ ในเวลาที่เบื่อได้ดี แต่มันก็ไม่ใช่สุนัขที่สามารถรับมือกับการละเล่นแรงๆ ได้ เนื่องจากว่ามันเป็นสุนัขที่ตัวเล็กมาก

มันสามารถอยู่กับสัตว์เลี้ยงตัวอื่น เช่น แมว และสุนัขตัวอื่นที่อยู่ร่วมกับมันมาตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัขได้เหมือนกัน มันสามารถใช้ชีวิตร่วมกับเพื่อนสัตว์เลี้ยงตัวอื่นได้ แต่ถ้าเป็นเด็กคนใหม่ สุนัขตัวใหม่ และสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ที่พึ่งจะเข้ามาในครอบครัว มันก็ไม่ได้เข้ากับสมาชิกใหม่ได้ในทันทีที่เจอ เราต้องให้เวลามันสักนิดในการทำความรู้จักและคุ้นเคยกับสมาชิกใหม่ แล้วจึงค่อยให้พวกเขามาอยู่ร่วมกัน

แต่ถ้าเป็นสัตว์ตัวเล็กมากๆ อย่างเช่น หนู อาจจะไม่ควรนำมาอยู่กับมันสักเท่าไหร่ เพราะว่ามันมีสัญชาตญาณการไล่ล่าสัตว์สัตว์ตัวเล็กมากๆ เหล่านี้ หากคุณต้องการที่จะให้มันอยู่ร่วมกันจริงๆ จำเป็นต้องฝึกให้มันอยู่ด้วยกันตั้งแต่ที่มันยังเป็นลูกสุนัข

คลิปความน่ารักของมัน

การดูแลแอฟเฟนพินเชอร์

การดูแลด้านการออกกำลังกาย

มันเป็นสุนัขที่จำเป็นต้องออกกำลังกายบ้าง คุณควรจะมีเวลาในการพาเจ้าตูบไปเดินเล่น วิ่งเล่นออกกำลังกาย หรือจะให้มันทำกิจกรรมต่างๆ ที่ได้ใช้แรงกับสมาชิกในครอบครัวก็ได้ ประมาณ 30-40 นาทีหรือมากกว่านั้น เพื่อช่วยปลดปล่อยพลังงานที่มีในตัวสุนัข ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดความเครียดให้เจ้าตูบ และเพื่อให้เจ้าตูบมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และห่างไกลจากปัญหาสุขภาพ

การดูแลเรื่องการเข้าสังคมและการฝึกสอน

เราควรฝึกการเข้าสังคมให้มันอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรขังหรือกักบริเวณมันไว้ในที่แคบๆ ทั้งวันโดยไม่สนใจมันเลย เพราะมันอาจจะทำให้สุนัขเครียด เก็บกด และกัดแทะข้าวของ คุณควรพามันไปทำความรู้จัก และทำกิจกรรมร่วมกับสมาชิกในครอบครัวตั้งแต่ที่มันยังเป็นลูกสุนัข เพื่อให้มันรู้สึกคุ้นเคยและรักใคร่พวกเขา รวมถึงให้มันไปเข้าสังคมกับคนแปลกหน้า สุนัขตัวอื่น และสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นตั้งแต่มันยังเป็นลูกสุนัขอยู่เสมอ เพื่อฝึกทักษะในการเข้าสังคมให้มัน มีส่วนช่วยให้มันสามารถใช้ชีวิตกับเพื่อนตัวอื่นได้ดีขึ้นในอนาคต ส่วนเรื่องการฝึกสอน เราควรฝึกสอนสิ่งต่างๆ ที่จำเป็นให้มันตั้งแต่เด็ก เพื่อความง่ายในการเรียนรู้ของมัน

เรื่องการดูแลขนและความสะอาด

มันเป็นสุนัขที่ขนค่อนข้างยาว การดูแลขนสุนัขเป็นสิ่งที่จำเป็น คุณควรเอาหวีมาแปรงขนให้มัน 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์หรือมากกว่านั้น เพื่อกำจัดขนตายที่ติดค้างอยู่ในตัวมันให้หมด และให้ขนของมันไม่พันกันเป็นก้อน รวมถึงมีการดูแลความสะอาดส่วนต่างๆ ของร่างกาย เล็มขน ตัดเล็บ และอาบน้ำให้สุนัขบ้างหากว่ามันเริ่มสกปรก

การดูแลเรื่องสุขภาพโดยรวม

ประเทศไทยของเรามีอุณหภูมิที่สูงมาก เราจึงต้องระวังเรื่องฮีทสโตรกในสุนัข วิธีป้องกันเบื้องต้น คือ เราควรให้สุนัขอยู่ในที่ที่อากาศไม่ร้อน มีอากาศถ่ายเท ไม่อบอ้าว ไม่มีแดดส่องลงมาโดนสุนัขตรงๆ พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้สุนัขวิ่งเล่นเยอะเกินไปในช่วงกลางวัน มีน้ำดื่มให้มันมากพอ ไม่ปล่อยมันไว้บนรถยนต์ร้อนๆ และเลือกช่วงเวลาที่ไม่ร้อนในการพาสุนัขออกไปเล่นนอกบ้าน

10 อาหารต้องห้ามสำหรับสุนัข

คอยควบคุมรูปร่าง และน้ำหนักตัวของสุนัขให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานอยู่เสมอ เพื่อช่วยลดโอกาสการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคอ้วน ด้วยการพาเจ้าตูบไปวิ่งเล่นและออกกำลังกาย อีกส่วนนึงคือการควบคุม เอาใจใส่คุณภาพและปริมาณอาหารของสุนัขให้ดี เลือกประเภทอาหารที่เหมาะสมกับตัวสุนัข จะเป็นการทานแบบบาร์ฟ อาหารปกติทั่วไป หรือจะเป็นอาหารแบบเม็ดหรือแบบเปียกสำหรับสุนัขก็ได้ ถ้าเป็นอาหารทั่วไปก็ควรเป็นอาหารที่ดี มีประโยชน์ เช่น เนื้อสัตว์สุก ตับ เครื่องใน ข้าวเปล่า โดยไม่ใส่เกลือหรือเครื่องปรุงใดๆ เพิ่มเข้าไป สามารถเพิ่มผักและผลไม้ชนิดที่สุนัขทานได้ในปริมาณที่พอเหมาะ ถ้าเป็นอาหารสำหรับสุนัขก็ให้ลองเลือกสูตรและยี่ห้อที่เหมาะกับสุนัขของคุณ ส่วนขนมที่มนุษย์ทานควรให้มันทานแต่น้อย หรือไม่ให้มันทานเลยจะดีกว่า

วิธีคำนวนปริมาณการให้อาหารสุนัข

โรคภัยต่างๆ ที่อาจพบใน Affenpinscher

โรคสะบ้าเคลื่อน (Patellar Luxation): มันเป็นโรคที่มักจะพบเจอในสุนัขตัวเล็ก วิธีการช่วยลดโอกาสการเกิดโรคนี้ในสุนัขก็คือเราต้องควบคุมน้ำหนักตัวของมันให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ด้วยการควบคุมเรื่องอาหารการกินให้เหมาะสมกับขนาดตัว และหมั่นพาสุนัขไปออกกำลังกาย รวมถึงคอยระวังไม่ให้สุนัขได้รับแรงกระแทกที่ข้อเข่ามากเกินไป เช่น วิ่งขึ้นลงบันไดแรงๆ และการกระโดดลงจากที่สูง
โรคช่องปาก (Periodontal disease): มักจะพบในสุนัขตัวเล็กมากกว่าตัวใหญ่ อาการคือ สุนัขจะมีกลิ่นปากแรง เหงือกบวมแดง เหงือกมีเลือดออก วิธีลดโอกาสในการมีปัญหาเกี่ยวกับช่องปาก คือ เราควรหมั่นแปรงฟันให้มันด้วยยาสีฟันสำหรับสุนัขบ้างเป็นครั้งคราว

นอกจากนี้ยังมีโอกาสในการเกิดโรคภัยอื่นๆ อีก เช่น

ต้อกระจก(Cataract): สามารถเกิดขึ้นได้ในสุนัขทุกช่วงอายุ
กระจกตาเสื่อม (Corneal Degeneration/ Dystrophy): วิธีสังเกตก็คือ มันจะมีจุดเล็กๆ สีขาว ในกระจกตา พบได้บ่อยในสุนัขวัยชรา
โรคลมแดด (Heatstroke): เกิดจากร่างกายของสุนัขระบายความร้อนที่สูงไม่ได้
จอประสาทตาเสื่อม (Progressive Retinal Atrophy)
โรคข้อศอกเสื่อม (Elbow Dysplasia)
โรคหัดสุนัข (Canine Distemper)
โรคพิษสุนัขบ้า (Riabies)
โรคตับอักเสบ (Hepatitis)
โรคเบาหวาน (Diabetes)
ไตวาย (Kidney Failure)