ชิสุ (Shih tzu) ข้อมูล ข้อมูล ลักษณะนิสัยและการดูแลสายพันธุ์สุนัขจิ๋วจากทิเบต

แชร์ได้เลยที่ปุ่มด้านล่าง

ชิสุ (Shih Tzu) เป็นสายพันธุ์สุนัขจากทิเบตไซส์จิ๋ว ที่มาพร้อมกับขนที่ยาวสลวย มาพร้อมกับหน้าตาที่ดูใสซื่อ น่ารัก ผู้คนมักจะชอบมัดจุกให้มันเพื่อเพิ่มความน่าเอ็นดู ไปทำความรู้จักกับมันให้มากขึ้นในบทความนี้กัน

เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจได้เลย

ข้อมูลทั่วไป
ประวัติ
ลักษณะนิสัย
ความหลากหลายของสีสุนัข
ความเป็นมิตรต่อเด็ก และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ
การดูแล
โรคภัยต่างๆ ที่อาจพบ
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับสุนัขสายพันธุ์นี้
ชิสุ เหมาะกับผู้ที่
คำถามที่เจอบ่อย

ข้อมูลทั่วไปของ ชิสุ

ขนาดตัว: เล็ก
ความสูง: วัดจากหัว 20-28 ซม.
น้ำหนัก: 4 – 7.3 กิโลกรัม
อายุขัย: 10-16 ปี
ความยาวขน: ยาวถึงยาวมาก
ความฉลาด: ปานกลาง
ถิ่นกำเนิด: ทิเบต, ประเทศจีน
การเอาใจใส่สุนัข: สูง
ลักษณะเฉพาะ: ตัวเล็กมาก ตากลมโต ขนยาว คล้ายคลึงกับสิงโตขนาดจิ๋ว

ประวัติของ Shih tzu

ชื่อชิสุ (Shih tzu) นั้นมีความหมายในภาษาจีนว่า “สุนัขสิงโต” เนื่องจากว่ามันมีหน้าตาและลักษณะคล้ายๆ กับว่ามันเป็นสิงโตขนาดจิ๋ว เชื่อกันว่าต้นกำเนิดของสุนัขสายพันธุ์นี้เกิดจากการผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์ของลาโซ อัปโซ (Lhasa apso) และ ปักกิ่งจนกลางมาเป็นเจ้าชิสุ ในราชวงศ์หมิงช่วงศตวรรษที่ 14-17 มันเป็นสุนัขที่นิยมเลี้ยงในเหล่าบรรดาคนชั้นสูงและราชวงศ์ในวัง ซึ่งในยุคสมัยนั้นมันเป็นสิ่งที่มีค่ามาก จะมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนมันในบรรดาเหล่าคนชั้นสูงและราชวงศ์ในวังเท่านั้น ไม่มีการขายให้คนธรรมดาทั่วไปที่อยู่นอกวัง ดังนั้น สายพันธุ์นี้จึงถูกซ่อนไว้หลังกำแพงวังมาเป็นเวลาหลายร้อยปี

จนในปี ค.ศ.1930 ได้มีการก่อตั้งชมรมผสมพันธุ์เจ้า Shin tzu และได้มีการนำสุนัขสายพันธุ์นี้จากประเทศจีนไปที่ประเทศอังกฤษและนอร์เวย์ หลังจากนั้นไม่นานมันก็เริ่มเป็นที่นิยมในยุโรปและได้มีการนำเข้ามันไปที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และในที่สุด มันก็ได้รับการยอมรับจากสโมสร American Kennel Club ในปี ค.ศ.1969 ในปัจจุบัน เจ้าสิงโตตัวจิ๋วนี้ก็ยังสามารถครองใจผู้ที่ชื่นชอบสุนัขทั้งโลกอยู่ และมันก็ค่อนข้างเป็นที่นิยมในประเทศไทยเช่นกัน

ลักษณะนิสัยของ ชิสุ

เจ้าสิงโตตัวจิ๋วนี้มีความร่าเริง สดใส มีชีวิตชีวา และไม่ดุ ไม่ก้าวร้าว มันชอบที่จะเล่นหยอกล้อกับเจ้าของ นอกจากนี้ มันยังเป็นสุนัขที่มีความเป็นมิตรกับผู้คนรอบข้าง สุนัขตัวอื่นๆ และสัตว์เลี้ยงแปลกหน้าตัวอื่นๆ จะสังเกตุได้ว่ามันสามารถทำความคุ้นเคยและตีสนิทกับคน สุนัข และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ได้ค่อนข้างรวดเร็ว มันจะมีความสุขที่สุดเมื่อมันอยู่ใกล้ๆ เจ้าของ ใช้เวลาไปกับการอ้อน เล่น และนั่งบนตักเจ้าของ แค่คุณสละเวลาบางส่วนในชีวิตประจำวันมาอยู่กับมัน มันก็มีความสุขมากแล้ว แต่ก็มีชิสุบางตัว (ส่วนน้อย) ที่ค่อนข้างจะรักสันโดษ ไม่ค่อยอยากจะเข้าสังคมหรือสุสิงกับใครเท่าไหร่

ชิสุบางตัวอาจจะชอบขุดหลุมบนดินเล่น ดังนั้น ถ้าหากว่าใครมีสวนหรือต้นไม้สวยๆ ในบ้านก็ควรจะระวังไว้สักนิดนึง

คลิปความน่ารักของชิสุ

ความหลากหลายของสีสุนัข

สีตา

ชิสุจะมีตาโทนสีดำหรือน้ำตาล

สีขน

มันเป็นสุนัขที่มีขนหลากหลายสีมากๆ ไม่ว่าจะเป็นสีดำ, น้ำเงิน, ขาว, ทอง, น้ำตาลแดง, น้ำตาลดำ, เงิน, ลาเวนเดอร์, และสีอื่นๆ

รูปตัวอย่างสีของชิสุ

ความเป็นมิตรของสุนัขที่มีต่อเด็ก และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ

ชิสุนั้นเป็นสุนัขที่เลี้ยงไว้สำหรับเป็นเพื่อนกับมนุษย์มาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ดังนั้น มันจะไม่ค่อยมีสัญชาตญาณนักล่าและสัญชาติญาณการปกป้องภายในตัว มันจึงเป็นสำหรับการนำมาเลี้ยงเป็นเพื่อนรู้ใจในครอบครัวมากๆ มันเป็นสุนัขที่เป็นมิตรต่อเด็กๆ มากๆ มันเป็นสุนัขที่สามารถเล่นหยอกล้อเบาๆ กับเด็กๆ ได้ มันชอบให้มีผู้คนอยู่รอบกายมัน มันชอบให้คนที่มันรักอุ้ม ชอบนั่งตัก ชอบการอยู่ใกล้ๆ กับผู้คนภายในบ้าน แต่ว่ามันไม่ใช่สายพันธุ์สุนัขที่เด็กๆ สามารถเล่นแรงกับมันได้ เนื่องจากว่ามันค่อนข้างจะตัวเล็กและบอบบาง จึงควรกำชับเด็กๆ ให้เล่นกับมันอย่างเบามือ

ชิสุสามารถเข้ากับสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ เช่น แมว ได้เหมือนกัน มันสามารถเป็นเพื่อนที่ดีกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่น แถมมันยังสามารถเข้ากันกับสุนัขตัวอื่น และสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ ไ้ด้ค่อนข้างไว ถ้าเป็นสัตว์เลี้ยงที่อยู่กับมันมาตั้งแต่เด็กก็สามารถเลี้ยงด้วยกันได้สบายๆ แต่ถ้าหากเป็นสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ที่พึ่งจะเอาเข้ามาเลี้ยงก็ต้องให้เวลามันในการค่อยๆ ปรับตัวเข้าหากันสักนิด

การดูแลชิสุ

การดูแลด้านการออกกำลังกาย

มันเป็นสุนัขพันธุ์ที่ต้องการการออกกำลังกายบ้าง คุณควรพามันออกไปวิ่งเล่นเบาๆ นอกบ้านเพื่อออกกำลังกายบ้างเพื่อปลดปล่อยพลังงานที่อยู่ในตัวของมัน หรือไม่ก็ให้มันเล่นและทำกิจกรรมกับเจ้าของ เพื่อสุขภาพที่ดีของมันและเพื่อให้มันฝึกพบปะและเข้าสังคมกับสุนัขและคนใหม่ๆ วันละประมาณ 20-30 นาทีก็เพียงพอแล้ว จะเป็นการพามันออกไปวิ่งเล่นเบาๆ นอกบ้าน หรือไม่ก็ให้มันเล่นของเล่นกับเด็กๆ ภายในบ้านก็ดีเช่นกัน

เรื่องการดูแลขนและความสะอาด

ขนของเจ้าชิสุจะเป็นขนแบบสองชั้นและขนของมันสามารถยาวจนถึงพื้น แต่ปริมาณการผลัดขนของมันค่อนข้างน้อย แค่เรานำหวีมาแปรงขนให้มันเป็นประจำทุกสัปดาห์ก็เพียงพอแล้ว เพื่อให้ขนของมันไม่พันกันและเพื่อกำจัดขนตาย รวมถึงสิ่งสกปรกต่างๆ ที่ติดค้างอยู่ในขนออกมาให้หมด ส่วนความยาวขน ท่านจะไว้ขนยาวหรือจะตัดให้สั้นหน่อยก็แล้วแต่ความชอบของท่านเลย ซึ่งการไว้ขนยาวก็จะดูแลยากกว่าแบบขนสั้น ส่วนเรื่องความสะอาด เราต้องหมั่นเช็ดใบหน้าและใบหูของมัน รวมถึงมีการตัดเล็บ ตัดเล็มขนบริเวณใบหน้า แปรงฟัน และอาบน้ำให้มันบ้างเป็นบางครั้ง

การดูแลเรื่องการเข้าสังคมและการฝึกสอน

เราไม่ควรมองข้ามการฝึกสุนัขให้เข้าสังคม เพราะมันอาจจะทำให้สุนัขของคุณรักสันโดษและเข้ากันกับผู้อื่นได้ไม่ค่อยดี เราควรพามันออกไปพบเจอกับสมาชิกในครอบครัว คนแปลกหน้า และสุนัขตัวอื่นตั้งแต่มันยังเป็นลูกสุนัข เพื่อให้มันเรียนรู้การผูกมิตรกับผู้อื่น ซึ่งมีส่วนช่วยให้มันสามารถอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นได้ดีและสามารถเปิดใจรับคนใหม่ๆ เข้ามาในชีวิตได้ดีขึ้น ส่วนเรื่องการฝึกสอน สุนัขบางตัวอาจจะมีความดื้อรั้น เราจึงต้องใช้ความใจเย็น ความอดทน และเวลาในการฝึกสอนสิ่งต่างๆ ให้มัน

การดูแลเรื่องสุขภาพโดยรวม

พวกเราอยู่ในประเทศไทยเมืองร้อน เราก็ควรจะระวังเรื่องฮีทสโตรกในสุนัขสักหน่อย ยิ่งถ้าเป็นสุนัขหน้าสั้นอย่างเจ้าชิสุที่ทนความร้อนได้น้อยกว่าสุนัขหลายๆ สายพันธุ์ ควรให้สุนัขอยู่ในที่ที่อากาศไม่ร้อนจนเกินไป มีอากาศถ่ายเท มีน้ำดื่มมากพอ ไม่มีแดดส่องลงมากระทบสุนัขตรงๆ หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมหนักในช่วงกลางวันที่อากาศร้อน และห้ามลืมสุนัขทิ้งไว้บนรถยนต์ร้อนๆ เด็ดขาด

ความรู้เกี่ยวกับฮีทสโตรกในสุนัข

พยายามควบคุมรูปร่าง และน้ำหนักตัวของสุนัขให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเพื่อช่วยลดโอกาศการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคข้อสะโพกเสื่อม (Hip dysplasia) ด้วยการพาเจ้าสุนัขไปทำกิจกรรมและออกกำลังกายเป็นประจำ อีกส่วนนึงคือการควบคุมและเอาใจใส่คุณภาพปริมาณอาหารของสุนัขให้ดี ถ้าเป็นอาหารทั่วไป ก็ควรให้อาหารที่มีคุณภาพ เช่น ไข่ไก่ เนื้อสัตว์ ข้าวเปล่า ผัก ที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งรสชาติใดๆเพิ่มเติม และผลไม้ชนิดที่สุนัขสามารถทานได้ เป็นต้น ถ้าเป็นอาหารสำหรับสุนัขก็สามารถเลือกสูตรที่เหมาะสมกับสุนัขของคุณได้เลย เช่น สูตรสุนัขเล็ก ถ้ามีอาการแพ้อาหาร ก็ควรเปลี่ยนยี่ห้อหรือประเภทของอาหาร

โรคภัยต่างๆ ที่อาจพบใน Shih Tzu

โรคสะบ้าเคลื่อน (Patellar Luxation): คือปัญหาสุขภาพที่สุนัขสายพันธุ์เล็กอื่นๆ และชิสุมักจะเจอวิธีการช่วยลดโอกาสการเกิดโรคนี้ในสุนัขก็คือการควบคุมน้ำหนักตัวของสุนัขให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของสายพันธุ์ ไม่ให้สุนัขทานมากไป และพามันออกไปออกกำลังกายอย่างพอเหมาะเป็นประจำ รวมถึงพยายามไม่ให้ได้รับการกระแทกแรงๆ ที่ขา เช่น ตกจากที่สูง และการวิ่งเล่นที่แรงเกินไป
โรคระบบทางเดินหายใจผิดปกติ (Brachycephalic airway syndrome): เป็นปัญหาสุขภาพที่มักจะพบเจอในสุนัขที่มีใบหน้าสั้น อาการที่สามารถบ่งบอกว่าสุนัขอาจจะเป็นโรคนี้ คือ สุนัขหายใจเข้าออกเสียงดังผิดปกติ สุนัขดูเหนื่อยง่าย นอนกรนเสียงดัง และดูมีความลำบากในการหายใจ ซึ่งต้องได้รับการรักษาจากสัตวแพทย์
หูอักเสบ (Ear infection): เป็นปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับหูที่มักจะพบเจอกับสุนัขที่มีใบหูพับขนาดค่อนข้างใหญ่ อาการที่สามารถสังเกตได้คือ หูสุนัขมีกลิ่นเหม็น และสุนัขเกาหูบ่อยผิดปกติ การหมั่นทำความสะอาดใบหูสุนัขอย่างเบามือและถูกวิธีจะช่วยลดโอกาสที่สุนัขจะมีปัญหาสุขภาพนี้ได้

นอกจากนี้ยังมีโอกาศที่จะเจอโรคภัยอื่นๆ อีก เช่น

โรคสะบ้าเคลื่อน (Patellar Luxation)
ต้อกระจก(Cataract): สามารถเกิดขึ้นได้ในสุนัขทุกช่วงอายุ
กระจกตาเสื่อม (Corneal Degeneration/ Dystrophy): วิธีสังเกตุก็คือ มันจะมีจุดเล็กๆ สีขาว ในกระจกตา พบได้บ่อยในสุนัขวัยชรา
โรคลมแดด (Heatstroke): เกิดจากร่างกายของสุนัขระบายความร้อนที่สูงไม่ได้
จอประสาทตาเสื่อม (Progressive Retinal Atrophy)
โรคหัดสุนัข (Canine Distemper)
โรคอ้วน (Obesity)
โรคพยาธิหนอนหัวใจ (Heartworm)
โรคเบาหวาน (Diabetes)
ไตวาย (Kidney Failure)
โรคตับอักเสบ (Hepatitis)
โรคหลอดลมอักเสบ (Bronchitis)