8 รถเข็นสุนัข แบบไหนดี รีวิวปัง และแข็งแรงทนทาน ปี 2023

รถเข็นสุนัข แบบไหนดี
แชร์ได้เลยที่ปุ่มด้านล่าง
ยินดีที่ได้พบเจอกันเหล่าคนรักเจ้าตูบทุกคน หลายท่านน่าจะชื่นชอบการออกไปท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ และก็คงอยากพาเจ้าตูบแสนรักออกไปรับบรรยากาศดีๆ ด้วยกัน นั่นจึงทำให้คุณอยากจะหารถเข็นสำหรับใส่สุนัขสักอันมาให้น้องใช้งานใช่ไหมล่ะ แต่ถ้าคุณยังไม่รู้ว่าจะเลือกใช้รถเข็นสุนัขแบบไหนดี วันนี้เรามี 8 รถเข็นสุนัขมาแนะนำกัน ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีข้อดีและความสามารถในการรองรับน้ำหนักที่แตกต่างกัน พร้อมกับมาแบ่งปันวิธีการเลือกรถเข็นสุนัขที่ตรงตามความต้องการของคุณ ถ้าพร้อมกันแล้ว ไปดูกันเลย
 

8 รถเข็นสุนัข แบบไหนดีและรีวิวปัง

1. รถเข็นสัตว์เลี้ยง Doogo

Image: Shopee

ดูที่ Shopee ดูที่ Lazada
รถเข็นสำหรับสัตว์เลี้ยงของทาง Doogo นั้นจะมีสีสันมากถึงห้าแบบให้คุณเลือกตามใจชอบ ตัวโครงสร้างของว่าจะทำมาจากเหล็กที่มีความแข็งแรงอยู่บ้าง จึงทำให้มันสามารถรับน้ำหนักได้สูงสุดถึง 20 กก. ส่วนตัวผ้าจะเป็นผ้า Oxford ที่มีความทนทานและไม่ฉีกขาดง่าย ส่วนล้อจะทำมาจาก EVA ที่ทนต่อการสึกหรอและสามารถหมุนได้ 360 องศา ด้านในจะมีสายล็อคปลอกคอให้คุณใช้งาน และมันก็จะมีช่องเก็บของและที่วางแก้วไว้ให้คุณใช้งานอีกด้วย นอกจากนี้ ตัวรถเข็นยังสามารถพับเก็บได้อย่างง่ายดายเพื่อประหยัดพื้นที่ในเวลาที่คุณไม่ได้ใช้มัน
 

รูปแบบ: รถเข็นสัตว์เลี้ยง    ขนาด: 45*70*100 ซม.     รูปแบบสี: 5 แบบ     รองรับน้ำหนัก: น้อยกว่า 20 กก.    ราคา: น้อยกว่า 1200 บาท (ราคาอาจจะเปลี่ยนไป)

  • มีหลายสีสันให้เลือก
  • มีที่วางแก้วและช่องเก็บของ

2. รถเข็นแบบถอดกรงผ้าออกได้

รถเข็นสุนัข แบบไหนดี

Image: Shopee

ดูที่ Shopee ดูที่ Lazada
รถเข็นสำหรับใส่สัตว์เลี้ยงอันนี้จะมี 5 สีสันให้คุณเลือกตามใจชอบ และมันจะมีให้เลือกทั้งแบบที่สามารถถอดตัวกรงผ้าออกได้ และแบบที่ถอดออกมาไม่ได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดก็ตาม คุณก็จะสามารถพับตัวรถเข็นเพื่อประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บได้เช่นกัน ส่วนเรื่องการใช้งาน ตัวด้ามจับของมันจะสามารถหมุนได้ 360 องศา คุณจึงสามารถปรับเปลี่ยนมันตามความถนัดของคุณได้ ด้านในกรงผ้าจะมีลายล็อคปลอกคอที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับสุนัข และมันก็จะมีที่เก็บของในบริเวณต่างๆ ไว้ให้คุณใส่ของใช้ส่วนตัวหรือขนมสำหรับสุนัข
 

รูปแบบ: รถเข็นสัตว์เลี้ยง    ขนาด: 45*70*100 ซม.     รูปแบบสี: 5 แบบ     รองรับน้ำหนัก: น้อยกว่า 20 กก.    ราคา: น้อยกว่า 1250 บาท (ราคาอาจจะเปลี่ยนไป)

  • มีหลายสีสันให้เลือก
  • ถอดกรงผ้าออกได้
  • มีช่องเก็บของไว้ให้ใช้สอย
  • ด้ามจับสามารถหมุนได้ 360 องศา
  • หูหิ้วของตัวกรงผ้าไม่ค่อยแข็งแรง

3. รถเข็นสุนัขแบบพรีเมียม

รถเข็นสุนัข แบบไหนดี

Image: Lazada

ดูที่ Shopee ดูที่ Lazada
รถเข็นสำหรับสุนัขอันนี้จะดูมีความหรูหราและ Premium แต่ข้อดีของมันไม่ได้มีเพียงแค่ความหรูหราเท่านั้น ตัวผ้าของรถเข็นจะทำมาจาก 600D Oxford คุณภาพสูงที่มีความแข็งแรงทนทานและทนต่อการขีดข่วนของสัตว์เลี้ยงได้ดี ส่วนฐานของรถเข็นจะมีตัวโช๊คที่ช่วยรองรับแรงกระแทกในเวลาที่คุณเข็นรถบนพื้นผิวที่ไม่เรียบ ด้านจับจะสามารถปรับความสูงให้เข้ากันกับสรีระของคุณและจะมีที่วางแก้วไว้ให้คุณได้ใช้งาน ส่วนตัวกรงผ้าจะสามารถถอดแยกออกมาได้ มันจะมีสายที่ออกแบบมาให้คล้องกับเข็มเข็ดนิรภัยบนรถยนต์ได้ และจะมีสายล็อคปลอกคอที่อยู่ด้านในไว้ให้ใช้งาน
 

รูปแบบ: รถเข็นสัตว์เลี้ยง    ขนาด: 47*86*97 ซม.     รูปแบบสี: 2 แบบ     รองรับน้ำหนัก: น้อยกว่า 15 กก.    ราคา: น้อยกว่า 4400 บาท (ราคาอาจจะเปลี่ยนไป)

  • มีโช๊ครองรับแรงกระแทก
  • มีที่เก็บของและวางแก้ว
  • ปรับความสูงของตัวด้ามจับได้
  • สามารถถอดกรงผ้าได้

4. รถเข็นสัตว์เลี้ยง BELLO

ของใช้สุนัขที่ประดับตกแต่งบ้านได้ แบบไหนดี

Image: Shopee

ดูที่ Shopee ดูที่ Lazada
รถเข็นสัตว์เลี้ยงของทาง BELLO นั้นเป็นอีกแบบหนึ่งที่ดูมีความหรูหราและพรีเมียมขึ้นมาอีกระดับ โดยมันจะมีสีสันและลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ให้เลือกมากถึง 6 แบบ ส่วนเรื่องการใช้งาน โครงของมันจะทำจากวัสดุที่มีความแข็งแรงคงทน ส่วนตัวผ้าจะเป็นผ้า Oxford ที่มีความทนทานในระดับที่ดี ตัวกรงที่มีขนาดค่อนข้างกว้างขวางจะสามารถถอดออกมาจากตัวรถเข็น และตัวรถเข็นก็สามารถพับเก็บได้อย่างง่ายดาย ส่วนตัวล้อจะสามารถหมุนได้ 360 องศา เหมือนกับรถเข็นแบบอื่น และมันจะมีความลื่นเข็นง่าย จึงช่วยประหยัดแรงในเวลาที่คุณเข็นมัน
 

รูปแบบ: รถเข็นสัตว์เลี้ยง    ขนาด: 47*77*100 ซม.     รูปแบบสี: 6 แบบ     รองรับน้ำหนัก: น้อยกว่า 15 กก.    ราคา: น้อยกว่า 5300 บาท (ราคาอาจจะเปลี่ยนไป)

  • ดูเรียบหรูสวยงาม
  • ตัวกรงค่อนข้างกว้างขวาง
  • มีสีและลวดลายมากถึง 6 แบบ
  • ถอดตัวกรงออกได้
  • ล้อลื่นไหลเข็นง่าย

5. รถเข็นสุนัขที่รับน้ำหนักได้เยอะ

Image: Shopee

ดูที่ Shopee ดูที่ Lazada
ถ้าคุณไม่ได้สนใจเรื่องความสวยงามของรถเข็นมากนัก แต่สนใจเรื่องความสามารถในการรับน้ำหนักของมัน รถเข็นอันนี้น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณ เพราะว่าด้วยโครงสร้างที่ทำมาจากวัสดุอันแข็งแรงของมัน และกรงผ้า Oxford จะมีขนาดค่อนข้างใหญ่และมีพื้นที่กว้างขวาง มันจึงสามารถรองรับน้ำหนักได้มากถึง 50 กิโลกรัมเลยทีเดียว ตัวกรงผ้าจะสามารถเปิดออกได้จากทางด้านหน้าและด้านหลัง จึงทำให้เจ้าตูบเข้าออกได้สะดวก มันจะมีตาข่ายหลายจุดที่ช่วยเรื่องการระบายอากาศและความร้อน และมันจะมีตัวล็อคกับปลอกคอที่อยู่ด้านในเช่นกัน
 

รูปแบบ: รถเข็นสัตว์เลี้ยง    ขนาด: 64*80*64 ซม.     รูปแบบสี: 3 แบบ     รองรับน้ำหนัก: น้อยกว่า 55 กก.    ราคา: น้อยกว่า 4700 บาท (ราคาอาจจะเปลี่ยนไป)

  • เปิดได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
  • ระบายอากาศได้ค่อนข้างดี
  • ขนาดใหญ่และรองรับน้ำหนักได้เยอะ

6. รถเข็นสุนัขที่รับน้ำหนักได้เยอะมาก

รถเข็นสุนัข แบบไหนดี

Image: Lazada

ดูที่ Shopee ดูที่ Lazada
รถเข็นสำหรับสุนัขอันนี้จะเหมาะกับการนำมาขนย้ายสุนัขตัวใหญ่จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งโดยที่คุณไม่ต้องอุ้มน้องให้เมื่อยแขน ตัวโครงเหล็กและล้อจะมีความแข็งแรงทนทานในระดับที่ดี จึงทำให้มันสามารถรองรับน้ำหนักได้มากถึง 80 กิโลกรัมเลยทีเดียว และตัวเลือกสีของสินค้าจะมี 4 แบบให้คุณเลือกตามใจชอบ แต่ว่ามันจะเป็นรถเข็นแบบไม่มีฝาครอบด้านบนเหมือนกับรถเข็นสัตว์เลี้ยงแบบอื่นๆ และมันก็จะไม่ได้มีสายล็อคกับปลอกคอเช่นกัน สุนัขของคุณจึงสามารถกระโดดลงจากตัวรถเข็นได้ทุกเมื่อที่น้องต้องการ
 

รูปแบบ: รถเข็นสัตว์เลี้ยง    ขนาด: 50*90*58 ซม.     รูปแบบสี: 4 แบบ     รองรับน้ำหนัก: น้อยกว่า 80 กก.    ราคา: น้อยกว่า 2000 บาท (ราคาอาจจะเปลี่ยนไป)

  • รองรับน้ำหนักได้เยอะมาก
  • ขนย้ายสุนัขใหญ่ได้โดยไม่เมื่อยแขน
  • น้องกระโดดออกจากรถเข็นได้ไม่ยาก

7. รถเข็นสัตว์เลี้ยงแบบ 2 ชั้น

Image: Shopee

ดูที่ Shopee ดูที่ Lazada
ถ้าเจ้าตูบของคุณไม่ค่อยชอบอยู่ด้วยกันกับสุนัขตัวอื่นหรือน้องแมว รถเข็นแบบมี 2 ชั้นน่าจะเหมาะกับน้องมากกว่า เพราะว่าคุณสามารถให้เจ้าตูบแต่ละตัวอยู่คนละชั้นกันได้เลย ซึ่งตัวกรงผ้า Oxford แต่ละอันนั้นจะรับน้ำหนักได้ไม่เท่านั้น อันด้านบนจะรองรับน้ำหนักได้ไม่เกิน 12 กก. ส่วนด้านล่างจะไม่เกิน 30 กก. แต่ถึงแม้ว่าชั้นล่างรองรับน้ำหนักได้เยอะ แต่ขนาดของมันก็จะไม่เหมาะกับสุนัขที่หนักมากถึง 30 กก. นอกจากนี้ มันยังสามารถถอดกรงผ้าออกและพับเก็บได้เช่นกัน แถมตัวล้อของมันยังมีความลื่นไหล จึงทำให้คุณสามารถเข็นมันอย่างไม่เปลืองแรง
 

รูปแบบ: รถเข็นสัตว์เลี้ยง    ขนาด: 47*66*100 ซม.     รูปแบบสี: 3 แบบ     ราคา: น้อยกว่า 5000 บาท (ราคาอาจจะเปลี่ยนไป)

  • ล้อลื่นไหลเข็นง่าย
  • มีสองชั้นให้สุนัขใช้งาน
  • รองรับน้ำหนักได้ค่อนข้างเยอะ
  • สามารถถอดกรงผ้าออกได้

8. รถเข็นสุนัขราคาไม่แรง

รถเข็นสุนัข แบบไหนดี

Image: Lazada

ดูที่ Shopee ดูที่ Lazada
รถเข็นสำหรับสุนัขอันนี้จะเป็นแบบทั่วไป โดยมันจะมีมากถึง 5 สีสันให้คุณเลือกใช้ตามใจชอบ ส่วนเรื่องการใช้งาน ตัวกรงผ้า Oxford ที่ไว้ใส่สุนัขจะมีขนาดที่กว้างขวางอยู่บ้าง มันจึงไม่ทำให้น้องรู้สึกอึดอัดเกินไปในเวลาที่อยู่ในรถเข็น ตัวผ้าและตัวโครงรถเข็นจะมีความแข็งแรงในระดับหนึ่ง จึงทำให้สามารถรองรับน้ำหนักได้ถึง 20 กก. บริเวณด้ามจับจะมีที่ใส่ขวดไว้ให้คุณใช้งาน ส่วนบริเวณกรงผ้าจะมีตาข่ายหลายจุดที่ช่วยเรื่องการระบายอากาศ และมันก็จะมีตัวล็อคล้อและสามารถพับเก็บได้แบบรถเข็นสัตว์เลี้ยงส่วนมากเช่นกัน
 

รูปแบบ: รถเข็นสัตว์เลี้ยง    ขนาด: 46*69*91 ซม.     รูปแบบสี: 5 แบบ     รองรับน้ำหนัก: น้อยกว่า 20 กก.    ราคา: น้อยกว่า 1190 บาท (ราคาอาจจะเปลี่ยนไป)

  • ระบายอากาศได้ค่อนข้างดี
  • รับน้ำหนักได้ถึง 20 กก.
  • มีห้าสีสันให้เลือก
  • ล้อไม่ลื่นไหลมากนัก

รถเข็นสุนัขดียังไง

ใครหลายคนน่าจะเป็นสายเที่ยวที่ชื่นชอบการเดินทางไปยังสถานที่ใหม่ๆ ในวันหยุด แต่ก็ไม่ค่อยสะดวกในการอุ้มหรือจูงสุนัขในเวลาที่คุณพาน้องออกไปท่องเที่ยวนอกบ้าน เพราะนอกจากว่ามันจะทำให้เมื่อยแขนแล้ว มันยังสามารถทำให้สุนัขของคุณหลุดออกไปและไปสร้างความวุ่นวายให้กับคนอื่นได้ การมีรถเข็นสำหรับสุนัขสักอันจะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ให้คุณ มันจึงเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบพาออกไปเปิดโลกนอกบ้านด้วยกันบ่อยๆ
 
 
 

เลือกรถเข็นสุนัขแบบไหนดี

รถเข็นสัตว์เลี้ยงแต่ละอันก็จะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป คุณจึงควรคิดถึงสิ่งต่างๆ ก่อนหารถเข็นสักอันมาให้สุนัขใช้งาน เช่น
 
  • ขนาด: ขนาดของกรงบนรถเข็นควรที่จะสามารถรองรับขนาดตัวสุนัขของคุณได้ การวัดขนาดตัวของน้องและการเช็คขนาดของสินค้าให้ชัดเจนก่อนจึงเป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งเราต้องดูขนาดของตัวกรงสำหรับให้สุนัขอยู่บนรถเข็น ไม่ใช่ขนาดทั้งหมดของรถเข็นนะ
  • การรองรับน้ำหนัก: รถเข็นสุนัขแต่ละอันก็สามารถรองรับน้ำหนักได้มากน้อยแตกต่างกันไป ซึ่งคุณก็ต้องตรวจสอบน้ำหนักสูงสุดที่ตัวรถเข็นจะทนรับได้ ประกอบกับการเช็คเรื่องขนาดอย่างชัดเจน เพื่อให้ไม่มีปัญหาเรื่องการใช้งานในภายหลัง
  • ความปลอดภัย: รถเข็นสุนัขส่วนมากจะมีตัวล็อคล้อเมื่อคุณไม่ต้องการให้มันเคลื่อนที่ และส่วนมากก็จะมีสายล็อคกับปลอกคอด้านในเพื่อให้สุนัขไม่สามารถหลบหนีออกจากรถเข็นอยู่แล้ว แต่ว่ารถเข็นบางอันก็อาจจะไม่มีตัวช่วยเรื่องความปลอดภัยบางแบบ
  • ความสวยงาม: รถเข็นสุนัขบางแบบจะถูกออกแบบมาให้มีความสวยงามมากเป็นพิเศษ ซึ่งบางท่านก็น่าจะชื่นชอบ แต่บางท่านก็น่าจะไม่ต้องการเรื่องความสวยงาม
  • อื่นๆ: รถเข็นบางแบบจะมีโช๊คที่ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนของรถเข็น บางแบบมีล้อที่ลื่นไหลและใช้งานได้ดี บางแบบจะถอดตัวกรงผ้าแยกออกมาจากตัวรถเข็นได้ บางแบบจะปรับความสูงด้ามจับได้ แบบจะมีช่องวางแก้วและช่องเก็บของ และแบบอื่นๆ ที่คุณสามารถเลือกใช้ให้ตอบโจทย์รูปแบบการใช้งาน

บทความ “รถเข็นสุนัข แบบไหนดี” จบลงแล้ว ขอให้คุณเจอรถเข็นสำหรับสุนัขที่โดนใจคุณนะ

เรื่องเจ้าตูบที่คุณอาจจะชอบ

 Banner Image