7 รถเข็นแมว แบบไหนดีและแข็งแรงทนทานบ้าง ปี 2023

ดูรถเข็นแมวแบบไหนดี จิ้มได้เลย

• รถเข็นแมวแบบสองชั้น
• รถเข็นแมวแบบสองชั้น 2
• รถเข็นสัตว์เลี้ยงแบบพรีเมียม
• รถเข็นสัตว์เลี้ยงลายกาแล็กซี
• รถเข็นสัตว์เลี้ยง Doogo
• รถเข็นที่รับน้ำหนักได้เยอะ
• รถเข็นสัตว์เลี้ยง BELLO

8 รถเข็นแมว แบบไหนดี

1. รถเข็นแมวแบบสองชั้น

2. รถเข็นแมวสองชั้น แบบ 2

รถเข็นสำหรับสัตว์เลี้ยงอันนี้จะเป็นแบบสองชั้นเช่นกัน ผ้าและตัวโครงของมันจะทำจากวัสดุมีความแข็งแรงทนทานในระดับที่ดี จึงทำให้มันสามารถทนแรงขีดข่วนของแมวและรับน้ำหนักได้ค่อนข้างดี ซึ่งชั้นบนจะสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 10 กิโลกรัม และชั้นล่างจะสามารถรองรับน้ำหนักได้ถึง 20 กิโลกรัม สุนัขตัวค่อนข้างเล็กจึงสามารถใช้งานได้เช่นกัน ส่วนเรื่องการใช้งาน ตัวรถเข็นจะเป็นแบบที่คุณสามารถพับเก็บได้และมีตัวล็อคล้อเหมือนกันกับรถเข็นสัตว์เลี้ยงแบบอื่น และมันก็จะมีสายล็อคปลอกคอด้านในที่ช่วยให้น้องๆ ไม่หลุดหนีของจากตัวกรงอีกด้วย

รูปแบบ: รถเข็นสัตว์เลี้ยง    ขนาด: 53*83*96 ซม.     สี: ดำ     ราคา: น้อยกว่า 4850 บาท (ราคาอาจจะเปลี่ยนไป)

3. รถเข็นแมวแบบพรีเมียม

รูปแบบ: รถเข็นสัตว์เลี้ยง    ขนาด: 47*86*97 ซม.     รูปแบบสี: 2 แบบ     รองรับน้ำหนัก: น้อยกว่า 15 กก.    ราคา: น้อยกว่า 4400 บาท (ราคาอาจจะเปลี่ยนไป)

4. รถเข็นสัตว์เลี้ยงลายกาแล็กซี

รูปแบบ: รถเข็นสัตว์เลี้ยง    ขนาด: 50*67*99 ซม.     รองรับน้ำหนัก: น้อยกว่า 8 กก.    ราคา: น้อยกว่า 1600 บาท (ราคาอาจจะเปลี่ยนไป)

5. รถเข็นสัตว์เลี้ยง Doogo

รูปแบบ: รถเข็นสัตว์เลี้ยง    ขนาด: 45*70*100 ซม.     รูปแบบสี: 5 แบบ     รองรับน้ำหนัก: น้อยกว่า 20 กก.    ราคา: น้อยกว่า 1200 บาท (ราคาอาจจะเปลี่ยนไป)

6. รถเข็นที่รับน้ำหนักได้เยอะ

รูปแบบ: รถเข็นสัตว์เลี้ยง    ขนาด: 62*85*130 ซม.     รูปแบบสี: 3 แบบ     รองรับน้ำหนัก: น้อยกว่า 30 กก.    ราคา: น้อยกว่า 3900 บาท (ราคาอาจจะเปลี่ยนไป)

7. รถเข็นสัตว์เลี้ยง BELLO

รูปแบบ: รถเข็นสัตว์เลี้ยง    ขนาด: 47*77*100 ซม.     รูปแบบสี: 6 แบบ     รองรับน้ำหนัก: น้อยกว่า 15 กก.    ราคา: น้อยกว่า 5300 บาท (ราคาอาจจะเปลี่ยนไป)

รถเข็นแมวดียังไง

เลือกรถเข็นแมวแบบไหนดี

• ขนาด: คุณควรวัดขนาดตัวของน้องแมว และตรวจสอบขนาดตัวกล่องกรงของรถเข็นอันนั้นๆ อย่างชัดเจนก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าน้องแมวจะอยู่ในรถเข็นได้อย่างไม่อึดอัดมากเกินไป แต่ว่าต้องดูขนาดของตัวกล่องกรงที่ไว้ใส่น้องแมวนะ ไม่ใช่ขนาดทั้งหมดของตัวรถเข็น
• การรองรับน้ำหนัก: รถเข็นแต่ละอันก็มีความแข็งแรงและจะรับน้ำหนักได้ไม่เท่ากัน คุณจึงควรเช็ครถเข็นแต่ละอันดูก่อนว่ามันสามารถรับน้ำหนักได้สูงสุดกี่กิโลกรัม ถ้าคุณจะใส่แมวมากกว่าหนึ่งตัวลงไปในรถเข็น ก็ควรเลือกอันที่สามารถรับน้ำหนักได้เยอะขึ้นมาหน่อย
• ความปลอดภัย: รถเข็นสำหรับสัตว์เลี้ยงที่เราเคยเห็นทุกอันจะมีตัวล็อคล้อเพื่อให้มันอยู่กับที่ และส่วนมากมันจะมีสายล็อคปลอกคอที่ด้านในของตัวกรงอยู่แล้ว แต่บางแบบก็จะไม่มีสายล็อคปลอกคอนะ ซึ่งมันจะทำให้น้องแมวหลุดออกจากตัวกรงได้ง่ายกว่าแบบที่มีตัวล็อคปลอกคอ
• ความสวยงาม: บางท่านอาจจะเน้นเรื่องการใช้งานเท่านั้น บางท่านอาจจะเน้นเรื่องความสวยงามด้วย ซึ่งคุณก็สามารถเลือกได้ตามใจชอบ
• อื่นๆ: รถเข็นบางแบบก็จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น บางแบบจะถอดตัวกรงออกมาเพื่อใช้แบบหิ้วได้ บางแบบจะมี 2 ชั้นเพื่อแยกแมวแต่ละตัวออกจากกัน บางแบบจะมีที่วางแก้วและเก็บสัมภาระ บางแบบจะปรับความสูงด้ามจับได้ และอื่นๆ ที่คุณสามารถเลือกให้ตอบโจทย์การใช้งานของคุณ

เรื่องเจ้าเหมียวที่คุณอาจจะชอบ