10 อาหารที่แมวห้ามกิน และอาหารที่แมวไม่ควรกิน

อาหารที่แมวห้ามกิน
แชร์ได้เลยที่ปุ่มด้านล่าง

บางท่านอาจจะเคยคิดว่าเจ้าเหมียวที่บ้านนั้นสามารถทานอาหารอะไรก็ได้ที่คุณให้มัน แต่นั่นเป็นความคิดที่ผิดอย่างแรง เพราะมีอาหารหลากหลายชนิดที่คนสามารถทานได้ตามปกติ แต่กลับเป็นพิษกับน้องแมว เราจึงอยากให้คุณมาดูกันก่อนว่ามีอาหารชนิดใดบ้างที่แมวห้ามกินและไม่ควรกิน เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพที่ดีของเพื่อนสุดรักของคุณเอง มาดูกันเลยดีกว่าว่ามีอาหารชนิดไหนบ้างไม่ส่งผลดีกับน้องแมว

11 อาหารที่แมวห้ามกินและไม่ควรกิน

1. ช็อกโกแลต

นอกจากช็อกโกแลตจะมีรสชาติที่เอร็ดอร่อยถูกใจคนทั่วโลกแล้ว มันยังมีประโยชน์หลายอย่างที่ดีกับร่างกายคนเราด้วย แต่ว่าไม่ใช่กับแมวและสัตว์หลายชนิด เพราะว่าในช็อกโกแลตเหล่านี้จะมีส่วนประกอบของเมล็ดโกโก้ ซึ่งในเมล็ดโกโก้จะมีสารที่ชื่อว่า ธีโอโบรมีน (Theobromine) และคาเฟอีน (Caffeine) ที่เป็นพิษต่อเจ้าเหมียว ซึ่งมันจะทำให้น้องเหมียวใจสั่น อาเจียน ท้องร่วง ชัก และอาจส่งผลถึงชีวิตได้ถ้าหากน้องรับสารเหล่านี้เข้าไปในปริมาณมาก ดังนั้น เราไม่ควรให้เจ้าเหมียวชิมช็อกโกแลตเป็นอันขาด ถึงแม้ว่าน้องจะพยายามอ้อนวอนคุณมากแค่ไหนก็ตาม
 

2. สิ่งที่มีคาเฟอีน

เครื่องดื่มชนิดต่างๆที่มีส่วนประกอบของคาเฟอีน (Caffeine) เช่น ชาและกาแฟ นั้นจะทำให้ผู้ที่ดื่มเข้าไปรู้สึกตื่นตัวและกระปรี้กระเปร่าเมื่อดื่มในปริมาณที่เหมาะสม แต่ดังที่เรากล่าวไว้ข้างต้น สารชนิดนี้มีความเป็นพิษต่อน้องแมว มันจะทำให้น้องแมวมีอาการกระสับกระส่าย ตัวสั่น ชัก และสามารถถึงแก่ชีวิตได้เช่นกันถ้าหากน้องแมวได้รับสารชนิดนี้ในปริมาณมาก ดังนั้น คุณเก็บชาและกาแฟให้ตัวคุณดื่มเองดีกว่านะ ให้เจ้าเหมียวดื่มน้ำสะอาดอย่างที่เคยเป็นน่ะดีที่สุดแล้ว
 
 

3. องุ่นและลูกเกด

องุ่นและลูกเกดแสนอร่อยมีคุณประโยชน์มากมายที่ดีต่อคนเรา แต่ก็ไม่ใช่กับเจ้าเหมียวนะ องุ่นนั้นมีความเป็นพิษกับแมว ถึงแม้ว่าจะยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าเกิดจากสารชนิดใดในองุ่น แต่ถ้าหากน้องแมวทานเข้าไปในปริมาณมาก มันอาจจะส่งผลให้น้องแมวเบื่ออาหาร อาเจียน และมีอาการไตวายได้ ถ้าคุณอยากให้น้องเหมียวได้รับวิตามินจากผลไม้เล็กน้อย เปลี่ยนไปให้น้องเหมียวทานแอปเปิ้ล แตงโม กล้วย และผลไม้ชนิดอื่นๆ ที่ดีต่อแมวจะดีกว่านะ
 
 

4. แอลกอฮอล์

ถ้าคุณรักแมวของคุณจริงๆ คุณห้ามนึกสนุกโดยการให้เจ้าเหมียวดื่มแอลกอฮอล์เพื่อที่จะดูว่าน้องจะมีอาการเมาไหม เพราะเครื่องดื่มมึนเมาเหล่านี้สามารถทำให้น้องแมวมีอาการท้องเสีย ตัวสั่น หายใจลำบาก และสามารถทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้ในปริมาณไม่มาก ดังนั้น คุณควรระวังไม่ให้แมวของคุณไปลองชิมเครื่องดื่มเหล่านี้ในขณะที่คุณมีการดื่มสังสรรค์ภายในบ้าน
 

5. นม

นมจากสัตว์ชนิดต่างๆ และอาหารชนิดที่ประกอบไปด้วยส่วนผสมของนมวัว เช่น โยเกิร์ตและชีส นั้นเป็นสิ่งที่น้องแมวไม่ควรทานเข้าไป เพราะว่าในนมเหล่านี้มักจะมีน้ำตาลชนิดหนึ่งที่ชื่อว่าแลคโตส (Lactose) ซึ่งน้ำตาลชนิดนี้จะสามารถทำให้น้องแมวหลายตัวมีอาการท้องเสียได้ ดังนั้น การให้น้องกินน้ำเปล่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่านมนะ
 
 

6. ไข่ดิบ

บางทีการให้น้องแมวทานไข่ดิบอาจจะเป็นทางเลือกที่ไม่ดีมากนัก เพราะว่าในไข่ดิบบางฟองอาจจะมีการปนเปื้อนแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่าซาโมเนลา (Salmonella) ซึ่งมันสามารถทำให้แมวมีอาการอาเจียน ท้องเสีย และล้มป่วยได้ แถมโปรตีนในไข่ขาวชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่าอะวิดิน (Avidin) นั้นยังอาจจะไปขัดขวางการดูดซึมไบโอติน (Biotin) ของน้องแมว ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสุขภาพผิวหนังและขนของน้อง ถ้าให้เราแนะนำ การให้น้องทานไข่ที่สุกแล้วจะเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและสบายใจมากกว่านะ
 
 

7. มะเขือเทศและมันฝรั่งดิบ

เราไม่ควรให้แมวทานมะเขือเทศและมันฝรั่งดิบ รวมถึงส่วนต่างๆ ของมัน เช่นใบ ก้าน และเปลือก เพราะว่าในมะเขือเทศและมันฝรั่งดิบจะมีสารชนิดหนึ่งที่ชื่อว่าโซลานีน (Solanine) ซึ่งจะเป็นพิษกับแมว มันจะทำให้แมวมีอาการท้องเสีย อาเจียน เซื่องซึม และอาจจะร้ายแรงกว่านี้ และถึงแม้ว่ามะเขือเทศและมันฝรั่งที่ผ่านความร้อนจนสุกแล้วจะค่อนข้างปลอดภัยกับแมว แต่อาหารเหล่านี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่น้องแมวต้องการอยู่ดี
 

8. อาหารสุนัข

อาหารสุนัขไม่ใช่อาหารที่ห้ามให้น้องแมวทานเลย แต่ว่าเราไม่ควรนำอาหารสุนัขมาเป็นอาหารหลักของแมว เพราะว่าอาหารสุนัขนั้นทำมาเพื่อสุนัข ปริมาณสารอาหาร โปรตีน และวิตามินต่างๆ จึงถูกปรับมาเพื่อให้เหมาะสมกับสุนัข แต่ไม่ใช่กับน้องแมว ถ้าคุณให้เจ้าเหมียวทานอาหารสุนัขเป็นประจำ มันอาจจะทำให้เจ้าเหมียวขาดสารอาหารที่จำเป็นบางชนิดและอาจจะทำให้มีปัญหาสุขภาพได้ ดังนั้น การซื้ออาหารสุนัขมาเพื่อให้น้องแมวทานร่วมกับเจ้าหมาจึงไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย
 

9. อะโวคาโด

อะโวคาโดคืออาหารที่เป็นพิษต่อสัตว์หลากหลายชนิด รวมถึงน้องแมวด้วย เราจึงไม่ควรเสี่ยงให้น้องแมวลองชิมอะโวคาโด โดยเฉพาะที่บริเวณเปลือก เพราะว่าในอะโวคาโดจะมีสารชนิดหนึ่งที่ชื่อว่าเพอร์ซิน (Persin) ที่สามารถทำให้น้องแมวมีอาการท้องเสีย อาเจียน และอาจจะร้ายแรงกว่านี้หากทานเข้าไปในปริมาณมาก ดังนั้น คุณก็ควรจะหักห้ามใจไว้ถ้าหากเจ้าเหมียวพยายามส่งสายตาอ้อนวอนที่จะขอชิมอะโวคาโดในมือของคุณ
 
อาหารที่แมวห้ามกิน

10. พืชในตระกูลหอม

พืชในตระกูลหอมหลากหลายชนิด เช่น หัวหอม หอมแดง กระเทียม และต้นหอมนั้นมีความเป็นพิษกับแมว ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบดิบหรือผ่านความร้อนจนสุกแล้วก็ตาม พืชเหล่านี้สามารถทำให้แมวมีอาการท้องเสีย มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร และสามารถไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดง ซึ่งจะส่งผลให้แมวมีอาการโลหิตจาง ดังนั้น คุณควรระวังไม่ให้น้องแมวชิมอาหารที่ปรุงไปด้วยกระเทียม ผงกระเทียม หัวหอม และอื่นๆ เพื่อความปลอดภัยของน้องเอง
 
 

11. แป้งขนมปังดิบที่มียีสต์

ถึงแม้ว่าคงไม่มีใครจะนำแป้งขนมปังดิบที่มียีสต์ไปให้น้องแมวทานอยู่แล้ว และก็คงไม่ใช่สิ่งที่เจ้าเหมียวอยากชิม แต่เราก็ขอเตือนไว้หน่อยแล้วกันว่ามันเป็นสิ่งที่ห้ามให้น้องแมวทาน จากคำกล่าวขององค์กร ASPCA ในสหรัฐอเมริกา แป้งยีสต์เหล่านี้สามารถทำให้เกิดการสะสมของแก๊สในกระเพาะอาหารจนกระเพาะขยายตัวมากผิดปกติ ซึ่งนั่นจะสร้างความเจ็บปวดให้น้องแมวและสามารถอันตรายถึงชีวิตหากมีอาการรุนแรง ถ้าคุณเป็นคนที่รักการทำขนมอยู่ที่บ้าน ก็ควรให้เจ้าเหมียวอยู่ห่างไกลจากแป้งขนมปังดิบที่มียีสต์เหล่านี้
 

ถ้าน้องทานเข้าไปแล้วจะทำยังไง

ถ้าน้องทานอาหารที่เป็นพิษเข้าไปในปริมาณที่เล็กน้อยจริงๆ คุณก็อาจจะสังเกตอาการของน้องอย่างใกล้ชิดว่ามีอาการผิดปกติหรือเจ็บป่วยหรือไม่ แต่ถ้าแมวทานอาหารที่มีความเป็นพิษกับน้องแมวในปริมาณมากเข้าไป เราก็ควรนำน้องไปพบสัตวแพทย์เพื่อความปลอดภัยของน้องเอง เพราะถ้าหากรอให้น้องแสดงอาการออกมา มันอาจจะไม่ทันการเสียแล้ว สุดท้ายนี้ เราอยากจะฝากให้ทุกท่านคิดทบทวนก่อนสักนิดว่าอาหารบนมือของคุณที่น้องแมวอ้อนวอนอยากจะกินนั้นมีส่วนประกอบของอาหารที่เป็นพิษกับเจ้าเหมียวหรือไม่ ก่อนที่จะนำไปให้น้องลองชิมทุกครั้ง เพราะการป้องกันไว้ก่อนจะดีกว่าอยู่แล้ว หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับคุณไม่มากก็น้อยนะ

เรื่องเจ้าเหมียวที่คุณอาจจะชอบ

 Banner Image